ตำรวจรวบแล้วสาวลูกหก มิจฉาชีพหลอกลงทุน ต้นเหตุทำ “อดีตพีดีมิสแกรนด์ขอนแก่น” สูญเงินหลายหมื่น เครียดจนตัดสินใจจบชีวิต

จากกรณีข่าวเศร้าวงการนางงาม หลังจาก "อดีตพีดีมิสแกรนด์ขอนแก่น" ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงที่บ้านพักในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2568 ที่ผ่านมา หลังถูกมิจฉาชีพหลอกลงทุนผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว สูญเงินไปหลายหมื่นบาท (อ่านข่าว : สลด อดีตพีดีมิสแกรนด์ขอนแก่น เสียชีวิตแล้ว หลังตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลฯ จนมีหนี้สิน)

โดยหลังเกิดเหตุทางตำรวจชุดสืบสวนภาค 7 และสืบสวนจังหวัดนครปฐม ได้ร่วมสืบสวนจนทราบตัวคนร้ายที่หลอกลวงผู้ตายโอนเงินไปจำนวนหลายหมื่นนั้นคือ น.ส.นลินทิพย์ อายุ 28 ปี ชาว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้หลบหนีมากบดานซ่อนตัวบ้านพักของสามีในพื้นที่ ม.3 ต.ควนกรด อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

...


ล่าสุด เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 15 ก.ค. 2568 พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ ผบก.ภ.จว.นครปฐม ได้สนธิกำลังตำรวจสืบสวน 2 บก.สส.ภ.8 ร่วมสืบสวนจังหวัดนครปฐม นำหมายจับของศาลจังหวัดนครปฐมไปทำการจับกุมตัว น.ส.นลินทิพย์ อายุ 28 ปี ที่บ้านหลังหนึ่งใน ม.3 ต.ควนกรด อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ตามหมายจับ ศาลจังหวัดนครปฐม เลขที่ 646/2568 ลงวันที่ 14 ก.ค. 2568 ข้อหาเปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตนฯ

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา นายพิชญ์ศุธางศ์ หรือ อั้ม อายุ 38 ปี อดีตพีดีมิสแกรนด์ขอนแก่น และช่างแต่งหน้านางงามหลายเวที ผู้ตายได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ภูวิช ศรีคุ้ม รอง สว.(สอบสวน) สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2568 เวลาประมาณ 15.36 น. ขณะที่ผู้แจ้งได้เข้าไปเล่นเฟซบุ๊ก มีเฟซบุ๊ก ชื่อ บจก.ทรัพย์ไพศาล แอดเข้ามาชักชวนลงทุน โดยผู้แจ้งจึงได้โอนเงินจากบัญชีส่วนตัว ไปยังบัญชีพร้อมเพย์ของนลินทิพย์ จำนวนเงิน 1,560 บาท ต่อมาได้เชิญชวนให้เปิดบิลเยอะกว่านี้เพื่อให้ทุนหมุนเวียนเยอะขึ้น

มีการวางแผนออกอุบายให้ผู้แจ้งเปิดบิล วีไอพี ที่ยอด 25,000 บาท ผู้แจ้งจึงโอนเงินจากบัญชีส่วนตัว ไปยังบัญชีเดิม จำนวนเงิน 5,000 บาท 5 ครั้ง ต่อมาได้ชักชวนให้เปิดบิลเป็นบิลทองค้ำประกันอีก และให้โอนเงินทั้งหมด 10 งวด งวดละ 5,000 บาท ผู้แจ้งจึงได้โอนเงิน ไปยังบัญชีเดิม จำนวนเงิน 5,000 บาท อีก 10 ครั้ง ต่อมาเฟซบุ๊กดังกล่าวไม่ได้ทำตามข้อตกลง จึงรู้ว่าถูกหลอกลวง จึงได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ก่อนนำหลักฐานใบแจ้งความโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก และตัดสินใจจบชีวิตลงเพราะความเครียดในที่สุด



หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายหน่วยงาน ได้ตรวจสอบพยานหลักฐาน รวมถึงเส้นเงินที่ผู้ตายโอนไปยังบัญชีของ น.ส.นลินทิพย์ ผู้ต้องหา พบว่า ในอดีต น.ส.นลินทิพย์ เคยถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงมาแล้ว ปัจจุบันพักอยู่กับสามีที่บ้านในพื้นที่อำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช มีลูก 4 คน ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าจับกุม ก็กำลังตั้งครรภ์ลูกแฝดในท้อง ใกล้คลอดอีก 1 คู่

เบื้องต้นจึงถูกเชิญตัวไปทำบันทึกจับกุมที่ สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดยชุดคลี่คลายคดีเชื่อว่า น.ส.นลินทิพย์ น่าจะวางแผนก่อเหตุด้วยตนเอง นำเงินมาใช้เอง ไม่ใช่บัญชีม้าแต่อย่างใด เนื่องจากหลักฐานเส้นเงินที่ผู้เสียหายโอนเข้าบัญชีไป พบว่าไม่ได้โอนต่อไปยังบัญชีอื่นๆ ในลักษณะกระทำเป็นขบวนการ อย่างไรก็ตามจะพามาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่ สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม.

...


อ่านข่าว "อาชญากรรม" ทั้งหมดที่นี่