ป.ป.ช. ประจำจังหวัดปทุมธานี ร่วมตำรวจสืบภาค 1 บุกรวบ ผอ.กองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก คาโต๊ะทำงาน เรียกเงิน 3.9 แสนบาท แลกใบอนุญาตถมดิน และใบอนุญาตก่อสร้างอาคารหอพักสูง 8 ชั้น แฉพฤติการณ์รีดเงินใต้โต๊ะ มีลดให้ แบ่งจ่าย 2 งวด

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 สำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้การอำนวยการของนายสาโรจน์ พึงรำพัน เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช., นางสาวชฎารัตน์ อรรฆอร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 1 นางสาวอภินัทธ์ พัฒนากรสิตานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดปทุมธานี, นายจรงค์ เกราะเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1, พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบกุล รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1, พ.ต.อ.นัฏฐพงษ์ ศรีเพ็ญประภา ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ชุดปฏิบัติการประกอบด้วยนายธนิต สุวรรณากาศ รักษาการผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 1 สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ นายธีรเดช พวงเงิน หัวหน้างานสืบสวนคดีทุจริตภาค 1

พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสำนักงาน ป.ป.ช. และชุดสืบสวน กก.2 สส.ภ.1 วางแผนเข้าจับกุมนายวีระเชษฐ์ฯ (สงวนนามสกุล) ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก จังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีพฤติการณ์เรียกร้องเงิน จากผู้ขออนุญาตถมดินและขออนุญาตก่อสร้างอาคาร

...




เหตุการณ์นี้สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้ไปยื่นเรื่องขออนุญาตถมดินพื้นที่ 4 ไร่ 2 งานและขออนุญาตก่อสร้างอาคารหอพักสูง 8 ชั้น ที่เทศบาลตำบลหลักหก อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก ซึ่งมีหน้าที่ดำเนินการเรื่องการขออนุญาตดังกล่าวเสนอนายกเทศมนตรีตำบลหลักหก ผู้มีอำนาจในการออกใบอนุญาตได้เรียกร้องเงินเป็นค่าตอบแทนการออกใบอนุญาตถมดินพื้นที่ 4 ไร่ 2 งาน เป็นจำนวนเงินไร่ละ 10,000 บาท และค่าตอบแทนการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารหอพักสูง 8 ชั้น เป็นเงิน 400,000 บาท ผู้เสียหายเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง จึงมากล่าวหาผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก ต่อเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2568 ผู้เสียหายได้ไปพบผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก ที่ห้องทำงาน เทศบาลตำบลหลักหก เพื่อติดตามเรื่องขออนุญาตถมดินว่ามีปัญหาติดขัดอะไร ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก ได้แจ้งว่าการออกใบอนุญาตถมดินมีค่าใช้จ่าย ซึ่งไม่ได้อยู่ในระบบของทางราชการ ราคาไร่ละ 10,000 บาท ส่วนการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร 8 ชั้น มีค่าใช้จ่าย 400,000 บาท หากผู้เสียหายยอมรับเงื่อนไขนี้ได้ก็ยื่นเรื่องขออนุญาตได้ทันที โดยจะดำเนินการเสนอเรื่องการออกใบอนุญาตต่อนายกเทศมนตรีตำบลหลักหก เพื่อให้ออกใบอนุญาตโดยเร็ว เพราะได้ประสานกันไว้เบื้องต้นแล้ว

ต่อมาวันที่ 1 กันยายน 2568 ผู้เสียหายได้ไปพบผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก ที่ห้องทำงาน เทศบาลตำบลหลักหก เพื่อสอบถามเรื่องค่าใช้จ่าย เนื่องจากที่ดินแปลงที่ขออนุญาตถมดินมีพื้นที่ 4 ไร่ 2 งาน ผู้อำนวยการกองช่างแจ้งว่าคิดค่าใช้จ่ายเพียง 4 ไร่ ไร่ละ 10,000 บาท เป็นเงิน 40,000 บาท ส่วนใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 8 ชั้น มีค่าใช้จ่าย 400,000 บาท ลดลงได้ 50,000 บาท คงเหลือ 350,000 บาท สรุปได้ว่าจำนวนเงินที่ผู้เสียหายต้องนำไปจ่ายเป็นค่าตอบแทนการออกใบอนุญาตถมดินและค่าตอบแทนการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารหอพัก รวมเป็นเงินจำนวน 390,000 บาท แยกเป็น เรื่องการถมดินจำนวน 40,000 บาท โดยให้จ่ายเป็นเงินสดในวันที่มารับใบอนุญาตถมดิน และเรื่องการก่อสร้างอาคารหอพัก จำนวน 350,000 บาท โดยให้แบ่งจ่ายเป็น 2 งวด งวดแรกให้จ่ายในวันยื่นเรื่องขออนุญาตก่อสร้างอาคารหอพัก จำนวน 150,000 บาท ส่วนอีก 200,000 บาท จ่ายในวันรับใบอนุญาตก่อสร้าง โดยมีการนัดหมายผู้เสียหายให้ไปจ่ายเงินในวันที่ 11 กันยายน 2568

สำนักงาน ป.ป.ช. โดยสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 1 และสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษได้ประสานความร่วมมือกับกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อวางแผนเข้าจับกุมผู้กระทำความผิด โดยผู้เสียหายได้มอบเงินสดเป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 190 ฉบับ เป็นเงินจำนวน 190,000 บาท ให้เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อถ่ายสำเนาและลงรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีไว้เป็นหลักฐาน และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ได้ออกหมายค้นห้องทำงานของผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก แล้ว

วันที่ 11 กันยายน 2568 ผู้เสียหายได้ไปพบผู้อำนวยการกองช่าง ที่ห้องทำงาน เทศบาลตำบลหลักหก เพื่อนำเงินสดจำนวน 190,000 บาท ซึ่งมีการถ่ายสำเนาและลงรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีไว้เป็นหลักฐานแล้ว ไปมอบให้ผู้อำนวยการกองช่าง ที่ห้องทำงาน เทศบาลตำบลหลักหก โดยเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ได้วางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ไว้โดยรอบสำนักงานเทศบาลตำบลหลักหก เมื่อผู้เสียหายมอบเงินที่ถูกเรียกร้อง รวมจำนวน 190,000 บาท ให้ผู้อำนวยการกองช่างแล้ว เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ได้นำหมายค้นของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 เข้าตรวจค้นห้องทำงานผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก พบเงินสดของกลางอยู่ที่พื้นใต้ลิ้นชัก ใต้โต๊ะทำงานฝั่งซ้ายของโต๊ะทำงานผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก



จากการตรวจสอบเงินสดของกลางพบว่ามีหมายเลขตรงกับสำเนาธนบัตรที่ถ่ายสำเนาและลงรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีไว้เป็นหลักฐาน จึงจับกุมผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก

โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามมาตรา 149 และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามมาตรา 157 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามมาตรา 172 และฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ หรือเจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามมาตรา 173 และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เพื่อควบคุมตัว

ซึ่งพนักงานสอบสวนจะแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นแล้วส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจภายใน 30 วัน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 61 ต่อไป

...