เด็กชาวเท็กซัส เสียชีวิตจากโรคหัดเป็นรายแรกของสหรัฐฯในรอบเกือบ 10 ปี โดยพบว่าเด็กไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคหัด เนื่องจากความเชื่อทางศาสนา
ปีนี้มีรายงานผู้ป่วยโรคหัดแล้วกว่า 130 ราย ในเท็กซัสตะวันตกและรัฐนิวเม็กซิโก โดยส่วนใหญ่เป็นเด็กที่ไม่ได้รับวัคซีน และมีประมาณ 20 รายต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล โดยเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า เด็กที่ไม่ได้รับวัคซีนในรัฐเท็กซัสที่เสียชีวิตจากโรคหัด เมื่อวันพุธ (26 ก.พ.) นับเป็นผู้เสียชีวิตจากโรคนี้รายแรกในสหรัฐฯ ในรอบเกือบ 10 ปี การเสียชีวิตครั้งนี้ยังเกิดขึ้นในช่วงที่อัตราการฉีดวัคซีนลดลงทั่วประเทศ โดยผู้ป่วยล่าสุดส่วนใหญ่อยู่ในชุมชนทางศาสนา เมนโนไนต์ ซึ่งปฏิเสธการรับวัคซีนมาเป็นเวลานาน
ในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ นายโรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี เจอาร์รัฐมนตรีสาธารณสุข ได้ระบุถึงสถานการณ์ครั้งนี้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะสหรัฐฯ มีการระบาดของโรคหัดทุกปี โดยเขาระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 2 ราย แต่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเท็กซัสและนิวเม็กซิโกระบุว่ายังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตรายอื่น
...
ดร. อาเมช อดัลจา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อจากมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ กล่าวกับสำนักข่าว AFP ว่า การเสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันนี้ควรเป็นเครื่องเตือนใจว่าทำไมวัคซีนจึงถูกพัฒนา และมันมีคุณค่าต่อสุขภาพของแต่ละบุคคล
สำหรับศูนย์กลางของการระบาดครั้งนี้อยู่ที่ เขตเกนส์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ชุมชนเมนโนไนต์ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นนิกายคริสเตียนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอามิช โดยกฎหมายของรัฐเท็กซัสอนุญาตให้มีการยกเว้นวัคซีนด้วยเหตุผลทางมโนธรรม รวมถึงความเชื่อทางศาสนา
ขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ หรือCDC แนะนำให้มี อัตราการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 95% เพื่อคงไว้ซึ่งภูมิคุ้มกันหมู่ อย่างไรก็ตาม อัตราการฉีดวัคซีนของเด็กอนุบาลลดลงจาก 95.2% ในปีการศึกษา 2019-2020 เหลือ 92.7% ในปี 2023-2024 ทำให้มีเด็กประมาณ 280,000 คนตกอยู่ในความเสี่ยง
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตจากโรคหัดครั้งล่าสุดในปี 2015 เมื่อ หญิงคนหนึ่งในรัฐวอชิงตันเสียชีวิตจากปอดบวมที่เกิดจากไวรัสหัด แม้ว่าเธอจะได้รับวัคซีนแล้ว แต่เธอใช้ยากดภูมิคุ้มกัน
ก่อนหน้านั้น เคยมีผู้เสียชีวิตจากโรคหัดในสหรัฐฯ ครั้งล่าสุดในปี 2003
โรคหัดเป็น ไวรัสทางเดินหายใจที่แพร่กระจายได้ง่ายมาก ผ่านละอองฝอยจากการ ไอ จาม หรือแม้แต่การหายใจของผู้ติดเชื้อ โดยจะมีผื่นแดงขึ้นทั่วร่างกาย และอาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน รวมถึงทารกอายุต่ำกว่า 12 เดือนที่ยังไม่สามารถรับวัคซีน และผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
ในช่วงที่มีการระบาด ประมาณ 1 ใน 5 ของผู้ติดเชื้อต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และ 1 ใน 20 มีภาวะปอดบวม โรคหัดอาจทำให้เกิด สมองบวมและเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยวัคซีนสามารถป้องกันโรคหัดมีประสิทธิภาพสูงมาก โดยเข็มแรกมีประสิทธิภาพ 93% และเข็มที่ 2 มีประสิทธิภาพถึง 97%
ก่อนที่วัคซีนโรคหัดจะถูกพัฒนาในปี 1963 มีชาวอเมริกัน หลายล้านคนติดเชื้อโรคหัดทุกปี และหลายร้อยคนเสียชีวิต แม้ว่าโรคหัดจะถูกประกาศว่า หมดไปจากสหรัฐฯ ในปี 2000 แต่การระบาดยังคงเกิดขึ้นทุกปี
ในปี 2023 สหรัฐฯ รายงานผู้ป่วยโรคหัด 285 ราย ตามข้อมูลของ CDC ขณะที่การระบาดใหญ่ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2019 โดยมีผู้ติดเชื้อ 1,274 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในชุมชนชาวยิวออร์โธดอกซ์ในนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ.
ที่มา : channelnewsasia
คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ โรคหัด