เจ้าหน้าที่ดีอาร์คองโกยืนยันได้แล้วว่าฮิปโปที่ล้มตายกว่า 50 ตัวที่แม่น้ำสายหนึ่งในอุทยานแห่งชาติมีสาเหตุจากการติดเชื้อแอนแทรกซ์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 9 เม.ย. 2568 ว่า เจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติ “เวอรุนกา” (Virunga) ทางตะวันออกของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก พบซากฮิปโปโปเตมัสและสัตว์ใหญ่อีกจำนวนหนึ่งตายอยู่ตามแนวแม่น้ำอิชาชา (Ishasha) ตั้งแต่เมื่อ 5 วันก่อน โดยจนถึงตอนนี้พบซากฮิปโปแล้วกว่า 50 ตัว
ล่าสุดนายเอมมานูเอล เดอ เมอโรด ผู้อำนวยการอุทยานแห่งชาติเวอรุนกายืนยันว่า ผลการทดสอบในห้องทดลองชี้ว่าฮิปโปเหล่านี้ รวมถึงควายอีก 1 ตัว ตายเพราะติดเชื้อแอนแทรกซ์ ซึ่งเป็นโรคร้ายแรง โดยยังไม่แน่ชัดว่าพวกมันไปติดเชื้อแอนแทรกซ์มาได้อย่างไร
ตามปกติแล้ว แอนแทรกซ์มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่พบได้ในดินตามธรรมชาติ สัตว์ป่าสามารถติดเชื้อได้หากมันสูดดมเอาสปอร์ของเชื้อแอนแทรกซ์ในดิน, พืช หรือน้ำที่ปนเปื้อนเข้าไป
สถาบันเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติแห่งคองโกประกาศเตือนประชาชนว่าให้หลีกเลี่ยงสัตว์ป่าในพื้นที่เกิดเหตุ และให้ต้มน้ำที่ได้จากแหล่งน้ำธรรมชาติก่อนนำมาอุปโภคบริโภค
นายเดอ เมอโรด ระบุว่าทีมเจ้าหน้าที่พยายามนำซากฮิปโปออกจากแม่น้ำแล้วนำไปฝังด้วยโซดาไฟ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแอนแทรกซ์แพร่กระจายไปอีก แต่ปฏิบัติการเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากพวกเขาไม่มีเครื่องจักรขนาดใหญ่ในการขนซากฮิปโปซึ่งหนักหลายตัน
เหตุการณ์นี้ยังถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของอุทยานแห่งชาติเวอรุนกา ที่พยายามเพิ่มจำนวนประชากรฮิปโปมาตลอดหลายสิบปี หลังจากสงครามกับการล่าสัตว์ทำให้จำนวนของพวกมันลดลงจากมากกว่า 20,000 ตัว เหลือเพียงไม่กี่ร้อยตัวในปี 2549 โดยในปัจจุบันทางอุทยานฟื้นฟูประชากรฮิปโปมาอยู่ที่ราว 1,200 ตัวแล้ว
...
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cnn