เหตุระเบิดรุนแรงที่ท่าเรือสำคัญของอิหร่านทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 40 ศพ บาดเจ็บอีกนับพันคน ขณะที่ควันไฟปนเปื้อนสารพิษลอยปกคลุมไปทั่ว จนทางการต้องเตือนให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดรุนแรงที่ท่าเรือ “ชาฮิด ราจาอี” ท่าเรือพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศอิหร่านเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา (26 เม.ย. 2568) ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 40 ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 1,000 คน

เหตุระเบิดดังกล่าวคาดว่ามีสาเหตุจากไฟไหม้บริเวณจุดเก็บสารเคมีในท่าเรือ ทำให้เกิดรุนแรงจนสามารถรู้สึกถึงแรงกระแทกได้แม้อยู่ห่างออกไปกว่า 50 กม. สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง กระจกหน้าต่างอาคารและรถยนต์ที่อยู่ใกล้เคียงได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

ในวันอาทิตย์ (27 เม.ย.) ไฟที่ลุกไหม้มานานเกิน 24 ชั่วโมงทำให้เกิดควันดำปนเปื้อนสารเคมีพิษลอยปกคลุมไปทั่วบริเวณ จนกระทรวงสาธารณสุขของอิหร่านต้องประกาศเตือนให้ประชาชนในเมืองใกล้เคียงอยู่แต่ในบ้านและสวมใส่เสื้อผ้าให้หนาขึ้นจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ที่เมืองบันดาร์ อับบาส ซึ่งอยู่ใกล้ท่าเรือชาฮิด ราจาอี และเป็นที่ตั้งฐานทัพหลักของกองทัพเรืออิหร่าน ต้องปิดโรงเรียนและสำนักงานทั้งหมดในวันอาทิตย์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินสามารถปฏิบัติการได้อย่างเต็มที่

รัฐบาลอิหร่านประกาศให้มีการไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดครั้งนี้ 1 วันในวันจันทร์ที่ 28 เม.ย. ขณะที่จังหวัดฮอร์โมซกัน (Hormozgan) ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของท่าเรือชาฮิด ราจาอี จะไว้อาลัยเพิ่มอีก 2 วัน

กระแสความโศกเศร้าจากเหตุระเบิดในอิหร่านเริ่มกลายเป็นกระแสความไม่พอใจ เมื่อเริ่มมีรายงานกล่าวอ้างเรื่องสาเหตุของการระเบิดถูกเผยแพร่ออกมา

...

บริษัท แอมเบรย์ อินเทลลิเจนซ์ (Ambrey Intelligence) บริษัทประเมินความเสี่ยงการเดินทะเลเอกชนอ้างว่า ไฟที่ลุกลามระหว่างแทงก์เก็บสารเคมีก่อนเกิดระเบิด เป็นผลมาจากการจัดการเชื้อเพลิงแข็งสำหรับใช้ในขีปนาวุธอย่างไม่เหมาะสม

แอมเบรย์อ้างด้วยว่า แทงก์ดังกล่าวเก็บเชื้อเพลิงแข็งสำหรับใช้ในขีปนาวุธเอาไว้ โดยพวกเขาได้ข้อมูลมาว่า เรือสินค้าติดธงอิหร่านขนสาร “โซเดียมเปอร์คลอเรต” (sodium perchlorate) ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของเชื้อเพลิงจรวดมาที่ท่าเรือแห่งนี้ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

คำกล่าวอ้างของแอมเบรย์สอดคล้องกับรายงานของสำนักข่าว นิวยอร์ก ไทม์ส ซึ่งอ้างคำพูดของแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านรายหนึ่งว่า สารที่เกิดระเบิดคือโซเดียมเปอร์คลอเรต

ชาวอิหร่านหลายคนออกมาตั้งคำถามบนโลกออนไลน์ว่า พวกเขาควรเชื่อข่าวลือบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่บอกว่า กองทัพอิหร่านเก็บเชื้อเพลิงจรวดที่เพิ่งขนส่งมาจากจีนเอาไว้ที่ท่าเรือแห่งนี้หรือไม่ ขณะที่โฆษกกองทัพอิหร่านปฏิเสธข่าวดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ชาวอิหร่านบางคนกล่าวโทษรัฐบาลว่าไร้ความสามารถ ที่ปล่อยให้มีสารไวไฟจำนวนมากเก็บไว้ที่ท่าเรือโดยไม่ดูแลให้ดี

ด้านประธานาธิบดี มาซูด เปเซชเคียน เดินทางเยือนจุดเกิดเหตุในวันอาทิตย์ เพื่อดูให้เห็นกับตาว่า มีอะไรที่รัฐบาลสามารถกระทำหลังจากนี้ได้ โดยก่อนหน้านี้เขาได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสาเหตุของการระเบิดแล้ว และส่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมาเป็นผู้นำการสืบสวน

ขณะเดียวกัน โฆษกกระทรวงกลาโหมของอิหร่านบอกกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นว่า ไม่มีการนำเข้าหรือส่งออกสินค้าสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงทางทหารหรือเพื่อกิจกรรมของกองทัพในท่าเรือที่เกิดเหตุ

ส่วนสำนักงานศุลกากรประจำท่าเรือชาฮิด ราจาอี ออกแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ว่า เหตุระเบิดอาจเป็นผลจากเกิดไฟไหม้ที่คลังเก็บสารเคมีหรือวัตถุอันตราย

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : bbc