สื่อรัฐบาลจีนรายงานว่าหน่วยยามฝั่งของจีน ได้ยึดสันดอนทรายขนาดเล็กในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นการยกระดับข้อพิพาทในภูมิภาคกับฟิลิปปินส์
สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนเผยแพร่ภาพเจ้าหน้าที่ 4 นาย ซึ่งสวมชุดสีดำล้วนและถือธงชาติจีน ยืนอยู่บนแนวปะการังแซนดีเคย์ ที่เป็นข้อในหมู่เกาะสแปรตลีย์ ซีซีทีวีกล่าวว่าจีนได้ดำเนินการควบคุมทางทะเลและใช้เขตอำนาจศาล บนแนวปะการังดังกล่าวเมื่อต้นเดือนเมษายน
ทั้งจีนและฟิลิปปินส์ต่างก็อ้างสิทธิ์ในเกาะต่างๆ โดยฟิลิปปินส์กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (27 เม.ย.) ว่าได้ขึ้นบนสันดอนทราย 3 แห่ง และได้เผยแพร่ภาพเจ้าหน้าที่ถือธงชาติในท่าที่เลียนแบบภาพถ่ายของจีน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าสันดอนทรายที่กองกำลังรักษาความปลอดภัยของฟิลิปปินส์ขึ้นนั้นเป็นสันทรายแซนดีเคย์ด้วยหรือไม่
กองกำลังพิเศษแห่งชาติทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก กล่าวว่าพบเรือของหน่วยยามฝั่งจีนปรากฏขึ้นโดยผิดกฎหมาย ห่างจากเนินทรายแห่งหนึ่ง 1,000 หลา หรือราว 914 เมตร รวมทั้งเรือของกองกำลังติดอาวุธจีนอีก 7 ลำ คำแถลงดังกล่าวระบุว่า "ปฏิบัติการนี้สะท้อนให้เห็นถึงความทุ่มเทและความมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละของรัฐบาลฟิลิปปินส์ในการรักษาอธิปไตย สิทธิอธิปไตย และเขตอำนาจศาลของประเทศในทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก"
ข้อพิพาทระหว่างสองประเทศทวีความรุนแรงขึ้น โดยมีการเผชิญหน้ากันบ่อยครั้ง รวมทั้งเรือชนกันและทะเลาะวิวาท โดยสันดอนทรายแซนดีเคย์ตั้งอยู่ใกล้กับฐานทัพทหารฟิลิปปินส์บนเกาะทิตู หรือที่รู้จักกันในชื่อปากาซา ซึ่งฟิลิปปินส์ใช้เกาะนี้ติดตามการเคลื่อนไหวของจีนในพื้นที่ดังกล่าว
ไม่มีสัญญาณใดๆ บ่งชี้ว่าจีนยึดครองเกาะขนาด 200 ตารางเมตรแห่งนี้เป็นการถาวร และรายงานระบุว่าหน่วยยามฝั่งได้ถอนกำลังออกไปแล้วด้านทำเนียบขาวกล่าวว่ารายงานที่จีนยึดแนวปะการังนั้น "น่ากังวลอย่างยิ่งหากเป็นเรื่องจริง"
...
ในความเห็นที่รายงานโดย Financial Times ของนายเจมส์ ฮิววิตต์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ เตือนว่า "การกระทำเช่นนี้คุกคามเสถียรภาพในภูมิภาคและละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ" และเสริมว่าทำเนียบขาว "กำลังปรึกษาหารืออย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรของเรา"
การเคลื่อนไหวของจีนเกิดขึ้นในขณะที่กองกำลังสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์ กำลังดำเนินการฝึกซ้อมจำลองสถานการณ์สงครามประจำปี ซึ่งเรียกว่า "บาลิกาตัน" ซึ่งจีนวิพากษ์วิจารณ์ว่าการฝึกซ้อมดังกล่าวเป็นการยั่วยุ
เจ้าหน้าที่มากถึง 17,000 นาย ได้เข้าร่วมการซ้อมรบครั้งนี้ ขีปนาวุธจากระบบบูรณาการป้องกันภัยทางอากาศของนาวิกโยธินสหรัฐฯ ถูกยิงนอกชายฝั่งทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์เมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งถือเป็นการทดสอบยิงจริงครั้งที่สองของระบบและเป็นครั้งแรกที่ระบบนี้ถูกส่งไปประจำการในฟิลิปปินส์ การฝึกซ้อมดังกล่าวจะมีระบบขีปนาวุธต่อต้านเรือ NMESIS ของสหรัฐฯ ร่วมด้วย
กองทัพฟิลิปปินส์กล่าวว่าการฝึกซ้อมดังกล่าวเป็นการซ้อมรบเพื่อการป้องกันประเทศ แต่ยืนกรานว่าไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ประเทศใดประเทศหนึ่งโดยเฉพาะ
การฝึกซ้อมนี้ช่วยบรรเทาความกังวลให้กับพันธมิตรของสหรัฐฯ บางส่วน ที่คิดว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจทำลายการสนับสนุนทางทหารที่สหรัฐฯ มีในภูมิภาคนี้มาหลายปี ในการเยือนฟิลิปปินส์เมื่อเดือนที่แล้ว นายพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่าสหรัฐฯ กำลังเพิ่มกำลังในฟิลิปปินส์ และพิจารณาที่จะแสดงการยับยั้งต่อจีนขึ้นมาใหม่
ทั้งนี้ จีนอ้างสิทธิ์ดินแดนส่วนใหญ่ในพื้นที่ที่แบ่งตาม "เส้นประ 9 เส้น" เส้นดังกล่าวประกอบด้วยเส้นประ 9 เส้นซึ่งทอดยาวไปทางใต้และตะวันออกหลายร้อยกิโลเมตรจากมณฑลไหหลำทางใต้สุดของจีน จีนได้สนับสนุนการอ้างสิทธิ์ของตนด้วยการสร้างเกาะและลาดตระเวนทางทะเล ขณะที่ประเทศต่างๆ เช่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน มาเลเซีย และบรูไน ต่างก็อ้างสิทธิ์ในหมู่เกาะและพื้นที่ต่างๆ ในทะเลจีนใต้เช่นกัน.
ที่มา BBC
อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign