เกิดเหตุไฟไหม้ที่บ้านพักคนชราในรัฐแมสซาชูเซตส์ ของสหรัฐฯ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 9 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 30 ราย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุไฟไหม้บ้านพักคนชรา “แกเบรียล เฮาส์” (Gabriel House) ในเมืองฟอลล์ ริเวอร์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ของสหรัฐฯ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 13 ก.ค. 2568 ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 9 ศพ ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 30 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงหลายแห่ง
นายเจฟฟรีย์ เบคอน หัวหน้าสำนักงานดับเพลิงท้องถิ่น ยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตดังกล่าวในเช้าวันจันทร์ (14 ก.ค.) และเผยว่า มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 1 คนที่อาการอยู่ในขั้นวิกฤต
“เจ้าหน้าที่ต้องเผชิญกับไฟที่ลุกโหมออกจากประตูทางเข้าหลัก และผู้คนจำนวนมากชะโงกตัวออกจากหน้าต่างเพื่อหาทางเอาตัวรอดและขอความช่วยเหลือ” นายเบคอนบอกกับผู้สื่อข่าว “มีบางคนที่เสียชีวิตภายในอาคาร และบางคนเสียชีวิตหลังจากถูกขนย้ายออกมาแล้ว”
นายเบคอนบอกอีกว่า นอกจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่ประจำการแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่นอกเวลางานอีกอย่างน้อย 24 คนเข้าร่วมในปฏิบัติการกู้ภัยด้วย ตำรวจทุกคนในเมืองก็มีด้วยเช่นกัน โดยมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 5 คน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยระหว่างปฏิบัติหน้าที่ และตอนนี้ทั้งหมดสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว
ด้านนาย พอล คูแกน นายกเทศมนตรีเมืองฟอลล์ ริเวอร์ กล่าวว่า ผู้คนจำนวนมากในบ้านพักแห่งนี้ไม่สามารถออกจากอาคารเองได้หากปราศจากความช่วยเหลือ ซึ่งเจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยผู้คนออกมาให้มากที่สุด
ทั้งนี้ แกเบรียล เฮาส์ เปิดทำการตั้งแต่ปี 2542 โดยข้อมูลบนเว็บไซต์ของพวกเขาระบุว่า แกเบรียล เฮาส์ มีพนักงานประจำการ 24 ชั่วโมง และมีกฎว่าต้องมีพนักงานเพียงพอรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน และให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นแก่ผู้อยู่อาศัยได้
...
สำนักงานดับเพลิงท้องถิ่นเปิดเผยว่า ในเวลาเกิดเหตุมีผู้อยู่ในอาคารสูง 3 ชั้นแห่งนี้ราว 70 คน และตอนนี้ไม่มีผู้ติดค้างอยู่ภายในอาคารแล้ว
นายเบคอนเชื่อว่า การตอบสนองอย่างรวดเร็วของผู้อยู่ในที่เกิดเหตุกลุ่มแรก ช่วยชีวิตผู้คนเอาไว้ได้มากมาย อย่างไรก็ตาม เขาขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 9 ราย และครอบครัวของผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย
ด้านสำนักงานตำรวจรัฐแมสซาชูเซตส์ระบุว่า พวกเขากำลังให้ความช่วยเหลือในการสืบสวนหาสาเหตุของเพลิงไหม้
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cnn