รัฐบาลยูเครนเผชิญการประท้วงใหญ่ครั้งแรกหลังสงครามกับรัสเซียปะทุเมื่อ 3 ปีก่อน หลังเซเลนสกีลงนามบังคับใช้กฎหมาย แต่งตั้งอัยการสูงสุดคุมองค์กรต่อต้านการคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลยูเครนกำลังเผชิญการประท้วงต่อต้านครั้งใหญ่เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่สงครามกับรัสเซียเริ่มขึ้นเมื่อกว่า 3 ปีก่อน หลังจากประธานาธิบดี โวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ลงนามกฎหมายซึ่งลดความเป็นอิสระของหน่วยงานต่อต้านการคอร์รัปชัน 2 แห่ง ซึ่งสร้างความไม่พอใจไปทั่วประเทศ
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (22 ก.ค. 2568) ฝูงชนจำนวนมากมารวมตัวกันในกรุงเคียฟ กับเมืองลวิฟ ทางตะวันตก และมีการชุมนุมขนาดเล็กกว่าที่เมืองดนิโปร ทางตะวันออก และเมืองโอเดสซา ทางใต้ด้วย หลังจากรัฐบาลเซเลนสกีอนุมัติกฎหมาย แต่งตั้งอัยการสูงสุดเป็นประธานสำนักงานต่อต้านการคอร์รัปชันแห่งชาติ (NABU) กับสำนักงานอัยการต่อต้านคอร์รัปชัน (SAP)
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ยูเครนขยับออกห่างจากความฝันในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปยิ่งขึ้นไปอีก เนื่องจาก EU แสดงความชัดเจนว่า เคียฟต้องบังคับใช้มาตรการต่อต้านการทุจริตมากขึ้น หากต้องการเข้าร่วมเป็นสมาชิก ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ ในยุคประธานาธิบดี โจ ไบเดน ก็เคยเรียกร้องให้ยูเครนถอนรากถอนโคนการคอร์รัปชัน เมื่อปี 2566
ทั้งนี้ ยูเครนถูกมองเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการคอร์รัปชันมากที่สุดในยุโรปมานานแล้ว และมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนถูกกล่าวหาเรื่องการทุจริต รวมถึงพันธมิตรใกล้ชิดของเซเลนสกีหลายคนเช่น นายโอเลกซีย์ เชอร์นีชอฟ อดีตรองนายกรัฐมนตรียูเครน
กฎหมายฉบับใหม่ดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาอย่างรวดเร็วได้ ก่อนที่เซเลนสกีจะลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายในช่วงกลางดึกวันอังคาร จากนั้นจึงออกแถลงการณ์ผ่านวิดีโอระบุว่า นี่เป็นขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อกำจัดอิทธิพลของรัสเซียไปจากองค์กรทั้งสอง และย้ำว่า NABU กับ SAPO จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
...
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทางการยูเครนเพิ่งดำเนินการบุกตรวจค้นหนึ่งในสององค์กรนี้ และจับกุมลูกจ้าง 2 คนในฐานะผู้ต้องสงสัยทำงานให้กับหน่วยข่าวกรองของรัสเซีย เซเลนสกียังวิพากษ์วิจารณ์ระบบองค์กรแบบเก่าว่าเป็นต้นเหตุทำให้หลายคดีค้างเติ่งเป็นเวลาหลายปี
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านระบุว่า องค์กรทั้งสองแห่งจะไม่สามารถปฏิบัติการได้อย่างอิสระอีกต่อไปแล้ว เพราะกฎหมายใหม่ให้อำนาจอัยการสูงสุดเข้ามามีอิทธิพลในการสืบสวน ถึงขั้นสั่งปิดคดีได้
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ยังดังมาจากทุกทิศทุกทางของสังคม นายดีมีโตร คูเลบา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ก็ออกแถลงการณ์โจมตีกฎหมายฉบับนี้ โดยระบุว่าเป็น “วันอันเลวร้ายของยูเครน”
ขณะที่จ่าสิบเอก เยเกอร์ เฟียร์ซอฟ จากหน่วยบังคับโดรนจู่โจมในพื้นที่แนวหน้าการปะทะ ระบุผ่าน X ว่า ไม่มีอะไรบั่นทอนกำลังใจมากไปกว่า การเห็นว่าในขณะที่คุณกำลังนั่งอยู่ในสนามเพลาะ กลับมีใครบางคนปล้นประเทศที่พี่น้องของคุณพยายามแทบตายเพื่อปกป้อง
เซเลนสกีออกมาตอบสนองต่อเสียงวิจารณ์ในวันพุธ (23 ก.ค.) โดยระบุว่า ทุกคนจะทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ เพื่อแก้ไขปัญหาที่มีอยู่, สร้างความเป็นธรรมที่มากขึ้น และปกป้องผลประโยชน์ของสังคมยูเครนอย่างแท้จริง
ขณะที่ NABU กับ SAPO ออกแถลงการณ์ร่วมกันในวันพุธว่า กฎหมายใหม่เพิกถอนการรับประกันที่เคยทำให้พวกเขาสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อต้านการคอร์รัปชันในระดับสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกกฎหมายฉบับนี้
เสียงวิจารณ์ยังดังมาจากต่างประเทศด้วย โดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติสาขายูเครน ที่ก่อนหน้านี้เรียกร้องให้ยูเครนวีโต้กฎหมายดังกล่าว ระบุว่า กฎหมายใหม่นี้ทำลายความเป็นอิสระของสถาบันต่อต้านการคอร์รัปชันของยูเครน ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นหลังจากการปฏิวัติโค่นอำนาจประธานาธิบดีโปรรัสเซีย วิกตอร์ ยานูโควิช เมื่อปี 2557
ขณะที่ น.ส.มาร์ตา คอส หัวหน้าเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรปผู้ดูแลกระบวนการยอมรับชาติสมาชิกใหม่ กล่าวว่า เธอกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับกฎหมายฉบับนี้ “การถอดการคุ้มครองความเป็นอิสระของ NABU คือการก้าวถอยหลังอย่างร้ายแรง องค์กรอิสระอย่าง NABU กับ SAPO มีความสำคัญสำหรับเส้นทางสู่ EU”
ด้านหอการค้าอเมริกันระบุว่า นี่เป็นการตัดสินใจที่น่าผิดหวัง กฎหมายนี้คุกคามอิสระของโครงสร้างการต่อต้านการคอร์รัปชันของยูเครน และบ่อนทำลายความเชื่อมั่นในความพยายามต่อต้านการคอร์รัปชันของยูเครน
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cnn