จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ กำลังเพิ่มสูงขึ้น โดยคาดกันว่า อาจเป็นเพราะการมาของโควิดสายพันธุ์ย่อยตัวใหม่ที่เรียกว่า “สเตรตัส” (stratus)

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงฤดูร้อนนั้นไม่ใช่เรื่องน่าตกใจ แต่การหวนกลับมาของมันก่อนที่เด็กๆ จะเปิดเทอมใหม่อีกครั้ง อาจทำให้ไวรัสแพร่กระจายอย่างรวดเร็วมากขึ้น

ความเสี่ยงเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในช่วงฤดูร้อนนี้ เกิดขึ้นหลังจากนาย โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี จูเนียร์ ออกคำสั่งเปลี่ยนแปลงคำแนะนำเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาลกลาง ทำให้เกิดความสับสนว่า ใครควรรับวัคซีนบ้างกันแน่

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (ซีดีซี) ยกระดับกิจกรรมของไวรัสในน้ำเสียแห่งชาติ ขึ้นจากระดับ “ต่ำ” เป็น “ปานกลาง” เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 ส.ค.) โดยพื้นที่ที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในน้ำเสียมากที่สุดอยู่ในฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ตั้งแต่อะแลสกา, แคลิฟอร์เนีย, โคโลราโด, เนวาดา และยูทาห์

ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ก็มีระดับกิจกรรมของไวรัสในน้ำเสียมากขึ้นเช่นกัน โดยลุยเซียนานำมาเป็นอันดับ 1 ตามการวัดข้อมูลระหว่างวันที่ 27 ก.ค. ถึง 2 ส.ค.

ทั้งนี้ การสังเกตการณ์น้ำเสียสามารถตรวจพบไวรัสที่แพร่จากคน 1 คนไปสู่อีกคนในชุมชนได้เร็วกว่าการทดสอบทางคลินิก และตรวจพบได้ก่อนที่จะมีคนป่วยเดินทางไปพบแพทย์ประจำตัวหรือเข้าโรงพยาบาลเสียอีก

มันยังสามารถตรวจพบการติดเชื้อโดยไม่มีอาการ หากคุณเห็นระดับกิจกรรมของไวรัสในน้ำเสียเพิ่มสูงขึ้น นั่นอาจบ่งชี้ว่า มีความเสี่ยงติดเชื้อสูงขึ้นไปด้วย

ซีดีซี ประเมินว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 กำลังเพิ่มขึ้นใน 45 รัฐทั่วประเทศ โดยมีเพียง 4 รัฐเท่านั้นได้แก่ อะแลสกา, นอร์ทดาโกตา, เมน และนิวแฮมป์เชียร์ ที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนที่รัฐไวโอมิงไม่มีการประเมินสถิติ

...

สำหรับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ล่าสุดมีชื่อเรียกว่า XFG “สเตรตัส” ถูกตรวจพบครั้งแรกในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตามรายงานขององค์การอนามัยโลก โดยในครึ่งแรกของปี เชื้อสายพันธุ์นี้แทบไม่มีบทบาทในสหรัฐฯ

แต่จู่ๆ ในเดือนมิถุนายน จำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อสายพันธุ์ “สเตรตัส” กลับเพิ่มขึ้นเป็น 14% สูงเป็นลำดับ 3 ในบรรดาสายพันธุ์ย่อยทั้งหมด

อนึ่ง เชื้อสายพันธุ์ XFG นั้นเป็นการรวมตัวกันของเชื้อสายพันธุ์ย่อย 2 ตัวได้แก่ LF.7 กับ LP.8.1.2 โดยเชื้อ LP.8.1.2 เป็นสายพันธุ์ที่แพร่กระจายมากที่สุดลำดับ 2 ในสหรัฐฯ

ด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ XFG อยู่ในรายการเฝ้าระวังแล้ว และมันอาจปรับตัวมากขึ้นจนสามารถหลบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ได้ก็เป็นได้ ถึงแม้ว่ามันจะถูกจัดว่ามีอัตราความเสี่ยงต่อสาธารณสุขในระดับ “ต่ำ” จนถึงเมื่อเดือนมิถุนายนก็ตาม

แต่รายงานของ WHO คาดว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่ได้รับการยอมรับในปัจจุบันจะมีประสิทธิภาพกับไวรัสสายพันธุ์สเตรตัสนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการป่วยหรือการป่วยรุนแรง

อาการป่วยที่เกิดจากการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ “สเตรตัส” ยังไม่มีจุดที่แตกต่างไปจากเชื้อโควิดสายพันธุ์ย่อยตัวก่อนๆ ซึ่งได้แก่ มีไข้, หนาวสั่น, ไอ, เจ็บคอ และมีอาการคั่งของโลหิต แต่บางรายงานระบุว่า อาการเสียงแหบ อาจเป็นเอกลักษณ์ของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้ แต่ยังไม่มีการยืนยันชัดเจน


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : axios