นักวิจัยญี่ปุ่นเผย ฝุ่น "PM 2.5" เพิ่มความเสี่ยงหัวใจวาย โดยมีความเชื่อมโยงระหว่างการเพิ่มขึ้นของฝุ่นละอองขนาดเล็กกับจำนวนผู้ป่วยหัวใจวายเฉียบพลันที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล


วันที่ 4 กันยายน 2568 สำนักข่าว NHK รายงานว่า ศาสตราจารย์โคจิมะ ซุนาโอะ หัวหน้าทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยคุมาโมโตะ เปิดเผยว่า พบหลักฐานเชื่อมโยงระหว่างการเพิ่มขึ้นของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 กับจำนวนผู้ป่วยหัวใจวายเฉียบพลัน (Acute Myocardial Infarction: AMI) ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

ผลวิจัยใหม่ชี้ว่า ระดับฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะฝุ่นเขม่าจากไอเสียรถยนต์ มีความสัมพันธ์กับจำนวนผู้ป่วยหัวใจวายเฉียบพลันเข้าโรงพยาบาล โดยการศึกษาครั้งนี้ใช้ข้อมูลค่า PM 2.5 รายวันจาก โตเกียว โอซาก้า และอีก 5 จังหวัด ของญี่ปุ่น ในช่วง 2 ปีครึ่งจนถึงเดือนธันวาคม 2562 พร้อมเปรียบเทียบกับสถิติผู้ป่วยกว่า 44,000 ราย ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งเข้ารับการรักษาในพื้นที่เดียวกัน

ผลการวิเคราะห์พบว่า เมื่อค่า PM 2.5 ในพื้นที่เพิ่มขึ้น 7.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จำนวนผู้ป่วยหัวใจวายเข้าโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2.4% ในวันเดียวกันและวันถัดไป เมื่อเทียบกับหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้า

นอกจากนี้ การวิเคราะห์เชิงลึกยังบ่งชี้ว่า เขม่าควัน  ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของ PM 2.5 และพบมากในไอเสียรถยนต์ เป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเพิ่มความเสี่ยงหัวใจวาย โดยทีมวิจัยสรุปว่า การระบุและควบคุมแหล่งกำเนิดเขม่าควันในอากาศอาจเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันโรคหัวใจวายเฉียบพลัน พร้อมแนะว่ามาตรการด้านสิ่งแวดล้อมควรเดินหน้าควบคู่ไปกับการป้องกันปัญหาสุขภาพ.