ทางการออสเตรเลียส่งโดรนและเฮลิคอปเตอร์ตรวจการณ์ชายฝั่ง หลังเกิดเหตุฉลามขาวกัดนักโต้คลื่นดับที่ชายหาดเมื่อวันเสาร์ ขณะที่ชายหาดยอดนิยม 2 แห่งในซิดนีย์ยังคงปิดให้บริการ
หน่วยกู้ภัยทางน้ำ Surf Life Saving รัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้ส่งโดรนและเฮลิคอปเตอร์ เพื่อตรวจตราลาดตระเวนพื้นที่บริเวณชายหาด ขณะที่กรมอุตสาหกรรมขั้นพื้นฐานและการพัฒนาภูมิภาครัฐนิวเซาท์เวลส์ ติดตั้ง SMART drumlines เพิ่ม ซึ่งเป็นระบบเบ็ดล่อที่เชื่อมต่อกับดาวเทียมเพื่อแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่หากมีฉลามติดเบ็ด ขณะที่ชายหาดยอดนิยม 2 แห่งในซิดนีย์ยังคงปิดให้บริการเพื่อความปลอดภัย
โดยนักชีววิทยาทางทะเลของรัฐบาลตรวจสอบร่องรอยบนกระดานโต้คลื่นของผู้เสียชีวิตที่หัก 2 ท่อน และสรุปว่า ฉลามขาวขนาดประมาณ 3.4 – 3.6 เมตร น่าจะเป็นต้นเหตุของการโจมตีครั้งนี้
ตำรวจระบุว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นห่างจากชายฝั่งเพียงราว 100 เมตร ผู้เคราะห์ร้ายซึ่งเป็นนักโต้คลื่นมากประสบการณ์ถูกเพื่อน ๆ ช่วยกันลากขึ้นฝั่งหลังเกิดเหตุ แต่เนื่องจากมีบาดแผลฉกรรจ์และเสียเลือดมากเกินไป ทำให้เขาเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ถือเป็นการเสียชีวิตจากฉลามโจมตีครั้งแรกในซิดนีย์ นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022 โดยก่อนหน้านั้นมีเหตุฉลามโจมตีมนุษย์จนเสียชีวิตเมื่อปี 1963
...
ข้อมูลจากสวนสัตว์ทารองการะบุว่า เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็น การโจมตีเสียชีวิตจากฉลามครั้งที่ 4 ของออสเตรเลียในปี 2025 โดยเดือนมีนาคมที่ผ่านมามีนักโต้คลื่นเสียชีวิตจากฉลามในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียเช่นกัน
สถิติจาก International Shark Attack File ของมหาวิทยาลัยฟลอริดาชี้ว่า ในปี 2024 ออสเตรเลียมีจำนวนเหตุฉลามโจมตีมนุษย์โดยไม่ได้ถูกรบกวนก่อน สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา.
ที่มา : channelnewsasia
คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ ฉลาม