ทำความรู้จัก ชาร์ลี เคิร์ก นักเคลื่อนไหวคนดังผู้สนับสนุนแนวคิดอนุรักษ์นิยม จนได้กลายเป็นพันธมิตรคนสำคัญของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนที่เขาจะถูกยิงเสียชีวิตในวัยเพียง 31 ปีเท่านั้น

ชาร์ลี เคิร์ก เป็นหนึ่งในนักเคลื่อนไหวและบุคคลในวงการสื่อสายอนุรักษ์นิยมที่มีชื่อเสียงที่สุดในสหรัฐฯ และเป็นพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่เมื่อวันพุธที่ 11 ก.ย. เขาถูกยิงเสียชีวิตที่งานอีเวนต์ของมหาวิทยาลัยยูทาห์ ซึ่งมีผู้มาร่วมงานมากกว่า 3,000 คน โดยล่าสุด ผู้ต้องสงสัยถูกควบคุมตัวได้แล้ว

นายเคิร์ก ผู้เสียชีวิตในวัยเพียง 31 ปี เป็นที่รู้จักจากการจัดดีเบตกลางแจ้งตามมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เขาก่อตั้งองค์กรนักศึกษา “Turning Point USA” (TPUSA) ที่มีเป้าหมายเพื่อเผยแพร่อุดมการณ์อนุรักษ์นิยมในวิทยาลัยที่มีแนวคิดเสรีนิยมของสหรัฐฯ ในปี 2555 ตอนมีอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น

ในโซเชียลมีเดียและรายการพอดแคสต์รายวันของนายเคิร์ก มักมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่เขาไปดีเบตกับนักศึกษา เกี่ยวกับปัญหาต่างๆ เช่น เรื่องอัตลักษณ์ของคนข้ามเพศ, การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความศรัทธา หรือค่านิยมครอบครัว

เคิร์กเป็นลูกชายของสถาปนิกที่เติบโตในย่านชานเมือง พร็อสเพกต์ ไฮต์ส อันมั่งคั่งของนครชิคาโก เขาเข้าเรียนในวิทยาลัยชุมชนใกล้กับชิคาโกก่อนจะลาออกเพื่อทุ่มเทให้กับการเคลื่อนไหวทางการเมือง และเคยสมัครเข้าเรียนที่ “เวสต์พอยต์” ซึ่งเป็นโรงเรียนนายร้อยทหารชั้นนำของสหรัฐฯ ด้วยแต่ไม่สำเร็จ

เรื่องดังกล่าวทำให้นายเคิร์กมักพูดติดตลกที่ตัวเองไม่มีปริญญาจากมหาวิทยาลัยตอนร่วมดีเบตกับนักศึกษาและนักวิชาการในหัวข้อที่เข้าใจยาก เช่น สัจนิยมหลังสมัยใหม่ (post-modernism)

...

บทบาทของนายเคิร์กในองค์กร TPUSA เริ่มโดดเด่นขึ้นมาหลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมัยที่สองในปี 2555 เขาจัดกิจกรรมรวมตัวนักศึกษาเพื่อ "ส่งเสริมหลักการความรับผิดชอบทางการคลัง, การค้าเสรี, และการจำกัดอำนาจรัฐบาล" จนปัจจุบัน TPUSA มีสาขาอยู่ในวิทยาลัยมากกว่า 850 แห่ง

ที่ผ่านมา นายเคิร์กเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อกล่าวปราศรัยในงานอีเวนต์ของพรรครีพับลิกันหลายงาน ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่สมาชิกของกลุ่ม Tea Party ที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมสุดขั้ว ขณะที่รายงานข่าวจากสำนักข่าว CBS News ระบุว่า รายการวิทยุรายวันแนวอนุรักษ์นิยมของเขามีผู้ติดตามหลายล้านคนบนโซเชียลมีเดีย

เมื่อต้นปี 2568 นายเคิร์กเพิ่งไปกล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคม Oxford Union ซึ่งเป็นสมาคมโต้วาทีเอกชนที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเขียนหนังสือขายดีในปี 2563 ชื่อ The Maga Doctrine ซึ่งอ้างอิงถึงแคมเปญ “ทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” (Make America Great Again - MAGA) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

TPUSA มีบทบาทสำคัญในการรณรงค์ให้ประชาชนออกมาลงคะแนนเสียงให้กับทรัมป์และผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันคนอื่นๆ ในการเลือกตั้งเมื่อปีก่อน เขายังได้รับเสียงชื่นชมอย่างกว้างขวางว่าดึงดูดให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งใหม่ลงทะเบียนเลือกตั้งจำนวนหลายหมื่นคน และพลิกให้รัฐแอริโซนาเป็นของทรัมป์ได้สำเร็จ

เคิร์กยังได้เข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และเป็นแขกเยือนทำเนียบขาวเป็นประจำตลอดการดำรงตำแหน่งของนายทรัมป์ทั้งสองสมัย

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ประกาศการเสียชีวิตของนายเคิร์กพร้อมกับยกย่องเขาว่า: "ชาร์ลี เคิร์ก ผู้ยิ่งใหญ่และเป็นตำนานได้จากไปแล้ว ไม่มีใครเข้าใจหรือมีหัวใจของเยาวชนในสหรัฐฯ ได้ดีไปกว่าชาร์ลีอีกแล้ว"

ประธานาธิบดีและทีมงานของเขามองว่า นายเคิร์กมีความเข้าใจทางการเมืองในเรื่องฐานรากของความเคลื่อนไหว MAGA เป็นอย่างดี เขาได้ขึ้นพูดในการประชุมของพรรครีพับลิกัน และเมื่อปีที่แล้วโดนัลด์ ทรัมป์ก็ได้ตอบแทนด้วยการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมของ Turning Point ที่รัฐแอริโซนา

เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา นายเคิร์กได้เดินทางไปยังกรีนแลนด์ร่วมกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายของทรัมป์ ในช่วงที่นายทรัมป์ ซึ่งตอนนั้นเป็นว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังโต้แย้งว่าสหรัฐฯ ควรเป็นเจ้าของดินแดนแห่งนี้

ครอบครัวของนายเคิร์กนับถือศาสนาคริสต์นิกายอีแวนเจลิคัล โดยเขาแต่งงานกับอดีตนางงามรัฐแอริโซนาและมีบุตรด้วยกันสองคน ซึ่งล้วนเป็นหัวใจสำคัญในการเมืองของเขา และเขาถูกมองว่าเป็นทั้งอนาคตของการเคลื่อนไหวแนวอนุรักษ์นิยมและบุคคลที่ทำให้เกิดการแบ่งขั้วทางการเมืองอย่างมาก

การยกย่องครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดต่อผลงานเขา ที่มีต่อการเมืองของพรรครีพับลิกัน มาจากตัวทรัมป์เองในคลิปที่ถูกนำมาเปิดในตอนต้นรายการพอดแคสต์ของนายเคิร์ก โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า "ผมอยากจะขอบคุณชาร์ลี เขาเป็นคนที่เหลือเชื่อมาก จิตวิญญาณของเขา ความรักที่เขามีต่อประเทศนี้ เขาทำผลงานได้อย่างน่าทึ่งในการสร้างหนึ่งในองค์กรเยาวชนที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา"

เคิร์กได้พูดคุยเกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองและสังคมมากมายในงานและพอดแคสต์ของเขา รวมถึงเรื่องการควบคุมอาวุธปืน

เมื่อไม่กี่เดือนก่อน นายเคิร์กกล่าวว่า: "เป็นเรื่องน่าเสียดาย แต่มันคุ้มค่าที่จะมีคนเสียชีวิตจากอาวุธปืนในแต่ละปี เพื่อที่เราจะสามารถมีสิทธิ์ตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขครั้งที่ 2"

มุมมองบางอย่างของเขากลายเป็นที่ถกเถียงอย่างหนัก เช่นมุมมองต่อต้านคนข้ามเพศและแสดงความกังขาต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามรายงานของ CBS ซึ่งเป็นพันธมิตรข่าวของบีบีซี เขายังได้เผยแพร่ข้อกล่าวอ้างที่ไม่เป็นความจริงต่อสาธารณะว่า การเลือกตั้งในปี 2020 ถูกขโมยไปจากนายทรัมป์

...

นอกจากนี้ เขายังเน้นย้ำทฤษฎีสมคบคิดที่เรียกว่า “Great Replacement” ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับแผนการที่จะนำชนกลุ่มน้อยเข้ามาแทนที่คนผิวขาว ตามรายงานของ CBS ด้วย


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : bbc