สหราชอาณาจักรปลดเอกอัครราชทูตประจำสหรัฐฯ หลังจากเขาถูกแฉว่า ยังคงให้กำลังใจนายเจฟฟรีย์ เอปสตีน หลังจากที่เขาโดนตัดสินความผิดคดีค้าประเวณีเมื่อปี 2551

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายปีเตอร์ แมนเดลสัน ถูกปลดออกจากตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำสหรัฐอเมริกาแล้ว ในวันพฤหัสบดีที่ 11 ก.ย. 2568 หลังจากความเกี่ยวข้องระหว่างเขากับนาย เจฟฟรีย์ เอปสตีน ผู้ก่อคดีทางเพศกับผู้เยาว์ผู้ล่วงลับ กลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ถาโถมเข้าใส่นายกรัฐมนตรี เคียร์ สตาร์เมอร์

นายแมนเดลสันถูกกดดันอย่างหนักเรื่องความสัมพันธ์กับเอปสตีน หลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (8 ก.ย.) รัฐสภาสหรัฐฯ เผยแพร่เอกสารที่เรียกว่า “หนังสือวันเกิด” (birthday book) ซึ่งเป็นข้อความที่บุคคลต่างๆ ส่งมาอวยพรวันเกิดอายุครบ 50 ปีของนายเอปสตีนเมื่อปี 2546 และนายแมนเดลสันก็เป็นหนึ่งในนั้น

นักการเมืองมากประสบการณ์จากพรรคแรงงานรายนี้ เขียนข้อความอวยพรนายเอปสตีนพร้อมระบุว่า เอปสตีนคือ “เพื่อนที่ดีที่สุดของผม”

เมื่อวันพุธ (10 ก.ย.) เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรพยายามปกป้องเอกอัครราชทูตของเขา โดยกล่าวระหว่างการประชุมรัฐสภาว่า เขาเชื่อมั่นในตัวนายแมนเดลสันอย่างเต็มที่

แต่ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ปัญหากลับบานปลายยิ่งขึ้น เมื่อสำนักข่าว บลูมเบิร์ก เผยแพร่อีเมลการสนทนาระหว่างนายแมนเดลสันกับนายเอปสตีน โดยในอีเมลดังกล่าว นายแมนเดลสันแสดงการสนับสนุนเพื่อนคนนี้ของเขา และเสนอที่จะพูดคุยเกี่ยวกับคดีอื้อฉาวของเอปสตีนในรัฐฟลอริดาเมื่อปี 2551 กับผู้ติดต่อทางการเมืองของเขา

ทั้งนี้ เมื่อปี 2551 นายเอปสตีนยอมรับความผิดข้อหาค้าประเวณี 2 กระทง และถูกพิพากษาจำคุก 13 เดือน ตามข้อตกลงสารภาพผิดที่เขาทำไว้กับอัยการ แต่อีเมลที่บลูมเบิร์กเปิดเผยแสดงให้เห็นว่า นายแมนเดลสันยังคงให้การสนับสนุนนายเอปสตีนหลังจากเขาถูกตัดสินความผิดแล้ว

...

“ผมเป็นห่วงคุณมากๆ และผมรู้สึกสิ้นหวังและโกรธกับสิ่งที่เกิดขึ้น” อีเมลของนายแมนเดลสันระบุ เขายังให้คำแนะนำกับเอปสตีนว่าให้สู้กลับโดยใช้กลยุทธ์จากตำรา "ตำราพิชัยสงคราม" ของซุนวู

กระทรวงต่างประเทศของสหราชอาณาจักรระบุในแถลงการณ์ว่า อีเมลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า "ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและกว้างขวาง" ของอดีตเอกอัครราชทูตกับเอปสตีนนั้น "แตกต่างอย่างมากจากข้อมูลที่ทราบในตอนที่เขาได้รับการแต่งตั้ง"

นายแมนเดลสันระบุในจดหมายที่ส่งถึงเจ้าหน้าที่สถานทูตหลังจากถูกปลดว่า บทบาทของเขาในฐานะเอกอัครราชทูตคือ “สิทธิพิเศษในชีวิตของผม” "สถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการประกาศในวันนี้เป็นสิ่งที่ผมเสียใจอย่างสุดซึ้ง ผมยังคงรู้สึกแย่มากเมื่อคิดถึงเรื่องที่ผมเคยคบหากับเอปสตีนเมื่อ 20 ปีที่แล้ว และเรื่องความทุกข์ทรมานของเหยื่อของเขา"

หลังจากนี้ นายเจมส์ รอสโค จะเป็นรักษาการเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำสหรัฐฯ

เรื่องอื้อฉาวของนายแมนเดลสันสร้างปัญหาทางการเมืองครั้งใหญ่อีกครั้งให้กับนายสตาร์เมอร์ เนื่องจากเขาถูกตั้งคำถามอยู่แล้วว่า ทำถูกหรือไม่ที่แต่งตั้งนายแมนเดลสันเป็นเอกอัครราชทูตประจำสหรัฐฯ ทั้งที่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนายเอปสตีนเป็นที่ทราบกันดี


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : cnn