โดรนไม่ทราบฝ่ายบินรุกล้ำเข้าสู่น่านฟ้าของโรมาเนีย ทำให้กองทัพต้องส่งเครื่องบินรบเข้าสกัด ขณะที่ผู้นำยูเครนกล่าวหารัสเซียว่า พยายามขยายขอบเขตของสงคราม
กระทรวงกลาโหมโรมาเนียเปิดเผย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (13 ก.ย. 2568 ) โรมาเนียได้ส่งเครื่องบินขับไล่ขึ้นสกัดกั้น หลังจากโดรนลำหนึ่งได้รุกล้ำน่านฟ้าของพวกเขา ระหว่างที่รัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของยูเครนใกล้ชายแดน
นายอิโอนุต โมสเตียนู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมโรมาเนียกล่าวว่า นักบินเครื่องบินขับไล่ F-16 เกือบจะสามารถยิงโดรนลำดังกล่าวได้ เนื่องจากมันบินในระดับต่ำมาก ก่อนที่มันจะบินออกจากน่านฟ้าของประเทศไปทางยูเครน
โรมาเนียซึ่งเป็นชาติสมาชิกสหภาพยุโรปและนาโต และมีพรมแดนร่วมกับยูเครนยาว 650 กม. ไม่ได้ยืนยันว่าโดรนดังกล่าวเป็นของประเทศใด แต่เคยพบเศษซากโดรนของรัสเซียตกบนดินแดนของพวกเขามาแล้วหลายครั้ง
เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้เพิ่งเกิดเหตุโดรนของรัสเซียนับสิบลำรุกล้ำน่านฟ้าของประเทศโปแลนด์ และถูกเครื่องบินรบของโปแลนด์และกลุ่มนาโตยิงตกไปหลายลำ
เหตุโดรนล้ำน่านฟ้าดังกล่าวยังทำให้โปแลนด์ตัดสินใจส่งเครื่องบินรบเตรียมความพร้อม และปิดสนามบินในเมืองลูบลิน (Lublin) ทางตะวันออกของประเทศในวันเสาร์
ทั้งนี้ ตามแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมโรมาเนีย เมื่อวันเสาร์กองทัพได้ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ กับเครื่องบินยูโรไฟท์เตอร์อีก 2 ลำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจลาดตระเวนทางอากาศของเยอรมนีในโรมาเนียออกปฏิบัติการ และเตือนพลเมืองในเขตตูลเชอา ทางตะวันออกเฉียงใต้และติดชายแดนยูเครนให้หาที่หลบภัย
ด้านประธานาธิบดี โวโลดีเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนระบุผ่าน X ว่า ข้อมูลที่เขาได้รับมาชี้ว่า โดรนลำดังกล่าวรุกล้ำเข้าไปในดินแดนโรมาเนียลึกถึง 10 กม. และบินอยู่ในน่านฟ้าของโรมาเนียนานประมาณ 50 นาที
...
"นี่คือการขยายขอบเขตของสงครามของรัสเซียอย่างชัดเจน และนี่คือวิธีการแบบฉบับของรัสเซีย" นายเซเลนสกีกล่าว "มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียเป็นสิ่งจำเป็น การตั้งกำแพงภาษีต่อการค้าของรัสเซียเป็นสิ่งจำเป็น และการป้องกันร่วมกันเป็นสิ่งจำเป็น"
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : reuters