"มนพร" ดึง "การท่าเรือฯ – กรมศุลกากร" เชื่อมต่อระบบ Scanning ตู้สินค้า ดันไทยสู่ฮับโลจิสติกส์โลก แหลมฉบัง นำร่อง “ท่าเรือแหลมฉบัง” ผุดใช้ระบบ X-ray Scanning ยกระดับความปลอดภัย ลดลักลอบนำเข้า-เพิ่มความโปร่งใส ลดต้นทุน

นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) และกรมศุลกากรได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ด้วยการเชื่อมต่อข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์จากระบบตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์สินค้าด้วยเครื่องเอกซเรย์ (Scanning System) โครงการพัฒนาระบบ Scanning เพื่อยกระดับการรักษาความปลอดภัยของท่าเรือให้เป็นไปตามข้อกำหนดของประมวลข้อบังคับว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยของเรือและท่าเรือระหว่างประเทศ (International Ship and Port Facility Security Code : ISPS Code) ระหว่าง กทท. และกรมศุลกากร

สำหรับการเชื่อมต่อข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์จากระบบตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์สินค้าด้วยเครื่องเอกซเรย์ ถือเป็นก้าวสำคัญของการบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูล การพัฒนาศักยภาพด้านโลจิสติกส์ และการศุลกากรของประเทศ เพื่อยกระดับการให้บริการและการรักษาความปลอดภัยของท่าเรือไทยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล มีความโปร่งใส รวดเร็ว แม่นยำ สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงคมนาคมในการขับเคลื่อนระบบโลจิสติกส์ของไทยให้มีประสิทธิภาพ ทันสมัย และสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับผู้ประกอบการ นักลงทุน ตลอดจนภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อันจะนำไปสู่การเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน

...

ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่าในปัจจุบัน การตรวจสอบตู้สินค้ายังคงเป็นการสุ่มตรวจ (Profiling) โดยใช้บุคลากรเป็นหลัก ซึ่งแต่ละครั้งต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงและมีค่าใช้จ่ายสูง การนำระบบ X-ray Scanning เข้ามาใช้จะช่วยให้การตรวจสอบรวดเร็วขึ้นอย่างมหาศาล จากเดิมที่ต้องเปิดตู้สินค้าเพื่อตรวจสอบและใช้เวลานานนับชั่วโมง จะเปลี่ยนเป็นการสแกนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้เวลาเพียงไม่นาน ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรและต้นทุนของผู้ประกอบการได้อย่างมาก ทำให้การส่งออกและนำเข้าสินค้าเป็นไปอย่างคล่องตัวและรวดเร็วยิ่งขึ้น

“โครงการนี้สอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยท่าเรือระดับโลก (ISPS Code) และนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าระดับโลก (Logistic Hub) โดยท่าเรือแหลมฉบังซึ่งมีปริมาณตู้สินค้าเกือบ 10 ล้านตู้ต่อปี และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้รับเลือกให้เป็นพื้นที่นำร่องในการติดตั้งระบบ X-ray Scanning เนื่องจากเป็นประตูการค้าหลักของประเทศ” นายจุลพันธ์ กล่าว

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะมีการตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาความพร้อมและประเมินงบประมาณการลงทุนในแต่ละท่าเรือ ซึ่งการท่าเรือฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบการลงทุนในครั้งนี้ ขณะนี้สิ่งที่น่าจับตาคือระบบ X-ray Scanning จะช่วยให้กรมศุลกากรสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์กับท่าเรือได้แบบเรียลไทม์ ทำให้การตรวจสอบมีประสิทธิภาพและครอบคลุมมากขึ้น โดยคาดว่าระบบนี้จะเริ่มใช้งานจริงได้ประมาณปี 2569 ซึ่งจะถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และความโปร่งใสในการขนส่งสินค้าของประเทศไทยไปสู่ระดับสากลอย่างแท้จริง

นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. กล่าวว่า การลงนาม MOU ครั้งนี้ เป็นการบูรณาการศักยภาพของ กทท. และกรมศุลกากร โดย กทท. จะพัฒนาระบบเชื่อมต่อข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความปลอดภัยสูง เพื่อนำไปใช้ในการเชื่อมโยงข้อมูลสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส ลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน และมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยจะเริ่มดำเนินการที่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นท่าเรือหลักด้านการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเป็นแห่งแรก และจะขยายสู่ท่าเรือกรุงเทพ และท่าเรืออื่น ๆ ของ กทท. ในอนาคต โดยจะตั้งคณะทำงานร่วมด้านการบริหารจัดการและกำกับดูแลระบบเชื่อมโยงอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อกำหนดมาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูล ติดตามผลการดำเนินงาน แก้ไขปัญหาทางเทคนิคและพัฒนาระบบให้ทันสมัยอยู่เสมอ โดยจะประชุมและประสานงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐและมาตรฐานสากล

อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม

...