“มนพร” สั่งเจ้าท่าสแตนบาย รับมือพายุคาจิกิ เตรียมพร้อมกำลังพล-ยานพาหนะ ช่วยเหลือประชาชนจังหวัดพื้นที่ประสบอุทกภัย จังหวัดแพร่

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือพายุคาจิกิ ตนจึงได้สั่งการให้กรมเจ้าท่า เตรียมพร้อมกำลังพล อุปกรณ์ และยานพาหนะเข้าช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์พายุดีเปรสชัน คาจิกิ เคลื่อนเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย ในช่วงเช้าของวันที่ 26 ส.ค. 68 และได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ บริเวณจังหวัดน่านในช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่

มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

รมช. เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของพายุคาจิกิ ได้เคลื่อนเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย ในช่วงเช้าของวันที่ 26 สิงหาคม 2568 และได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ บริเวณจังหวัดน่าน ในช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่กับมีลมแรง โดยเฉพาะบริเวณที่ใกล้กับเส้นทางเดินพายุ ได้แก่ จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม อุดรธานี หนองบัวลำภู ซึ่งกรมเจ้าท่าได้ออกประกาศเตือนให้นายเรือและผู้ควบคุมเรือ หลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และพิจารณางดการเดินเรือในกรณีที่มีฝนตกหนัก รวมทั้งติดตามข่าวอากาศอย่างต่อเนื่อง

...

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพิษณุโลก โดยศูนย์ปฏิบัติการอำนวยความสะดวกการขนส่งทางน้ำในสถานการณ์อุทกภัย ได้จัดเจ้าหน้าที่จำนวน 11 ราย ยานพาหนะรถยนต์ 2 คัน และเรือตรวจการณ์ 1 ลำ ประจำ ณ ที่ตั้งศูนย์ปฏิบัติการอำนวยความสะดวกการขนส่งทางน้ำในสถานการณ์อุทกภัย สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพิษณุโลก เพื่อสามารถออกปฏิบัติงานในทันทีที่เกิดเหตุฉุกเฉินทางน้ำ หรืออุทกภัยในพื้นที่รับผิดชอบ ในส่วนของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาแพร่ มอบหมายเจ้าหน้าที่จำนวน 3 นาย เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำล้นสปริงเวย์ของอ่างเก็บน้ำห้วยขมิ้น เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำ บ้านต้นห้า ม.8 ต.ป่าแมต อ.เมือง จ.แพร่ ประมาณ 30 หลังคาเรือน โดยช่วยขนย้ายสิ่งของและช่วยบรรจุกระสอบทรายทำแนวกั้นน้ำ พร้อมกันนี้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 1 ได้จัดเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมอีก 6 นาย รถยนต์จำนวน 2 คัน เรือจำนวน 2 ลำ เตรียมพร้อมเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กรมเจ้าท่า ยังคงเตรียมพร้อมกำลังพล และยานพาหนะ พร้อมเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง และขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด หากพบเห็นความไม่ปลอดภัยทางน้ำ ติดต่อสายด่วน กรมเจ้าท่า 1199 ตลอด 24 ชั่วโมง

อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม