“นกแอร์” ยื่นหนังสือแจง กพท. หลังถูกสั่งห้ามบินเส้นทางบินต่างประเทศ หรือขยายเส้นทางบินเพิ่มเติม ทั้งเส้นทางบินภายในประเทศและเส้นทางบินระหว่างประเทศ ยืนยันปัญหาเรื่องระบบอะไหล่เครื่องยนต์แก้ไขเรียบร้อยแล้ว ด้าน ผอ.กพท. ระบุ นกแอร์ส่งหนังสือยืนยันการแก้ปัญหาแล้ว
พลอากาศเอกมนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ส่งหนังสือถึงสายการบินนกแอร์ จำกัด สั่งให้หยุดทำการบินในเส้นทางระหว่างประเทศและ ให้มีการตรวจสอบความปลอดภัยทั้งหมดของเครื่องบิน
ซึ่งการส่งหนังสือถึงสายการบินนกแอร์นั้น เนื่องจากกังวลเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย จึงต้องการให้นกแอร์ตรวจสอบก่อน ซึ่งผู้บริหารนกแอร์ได้ยื่นเอกสารแสดงเจตจำนงว่า ได้มีการปรับปรุงเรื่องความปลอดภัยและปรับแผนงานให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ กพท.กำหนด
ซึ่งขณะนี้ สำนักงานการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ไอเคโอ อยู่ระหว่างการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของสายการบิน สนามบิน และศูนย์ซ่อมอากาศยาน ซึ่งคาดว่า การตรวจสอบจะเสร็จสิ้นในวันที่ 8 กันยายนนี้ หากนกแอร์สามารถดำเนินการได้ตามมาตรฐานก็จะปลดล็อกให้นกแอร์กลับมาทำการบินเช่นเดิม ซึ่งนอกจากสายการบินนกแอร์แล้ว ยอมรับว่า มีสายการบินอื่นที่มีปัญหาเช่นเดียวกัน แต่ส่วนใหญ่มีข้อผิดพลาดเรื่องของลูกเรือ นักบิน โดยการตรวจสอบของ กพท. ยืนยันว่า ยึดตามหลักของไอเคโอ และตรวจสอบให้เป็นไปตามมาตรฐานการบินสากล
...
ขณะที่นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทสายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หนังสือฉบับดังกล่าวให้นกแอร์แก้ไขเรื่องปัญหาเครื่องยนต์ ซึ่งยอมรับว่า เคยเกิดปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ที่ประเทศจีน เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2567 แต่เครื่องยนต์ดังกล่าวได้ขายไปแล้วและได้ซื้อเครื่องยนต์ใหม่มาทดแทนส่วนปัญหากรณีที่นักบินลาออก ยืนยันว่า เป็นผู้ตรวจการบินเพียง 1 คน และนักบิน 20 คน โดยปัจจุบันมีนักบิน 130 คน ซึ่งไม่กระทบกับเรื่องความปลอดภัยและการทำการบิน เพราะได้วางแผนเตรียมพร้อมเพิ่มนักบินเข้ามาเพิ่ม โดยจะรับสมัครนักบินที่มีประสบการณ์เข้ามาก่อน ส่วนปัญหาเรื่องการดีเลย์และปัญหาเครื่องบินที่มีกระแสข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ นายวุฒิภูมิ ยืนยันว่า ได้แก้ปัญหาเครื่องบินจากเครื่องใบพัด เป็นเครื่องบินแบบโบอิ้งแล้ว
ขณะที่หลังจากนี้ นกแอร์ยังมีแผนที่จะรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง B737-800 ในปีหน้า โดยเป็นการเช่าระยะยาว 5 ปี จำนวน 2 ลำและระยะสั้น 6 เดือนอีก 2 ลำ เพื่อนำมาให้บริการในช่วงไฮซีซั่นรองรับการท่องเที่ยว เส้นทางในประเทศ เช่น ภูเก็ต กระบี่ และหาดใหญ่ เส้นทางต่างประเทศ เช่น อินเดีย ไฮเดอราบัด มุมไบ, เวียดนาม ดานัง โฮจิมินห์, ฟิลิปปินส์ มะนิลา และอินโดนีเซีย บาหลี ส่วนจีนมีเส้นทางที่ทำการบินอยู่แล้ว เช่น เฉิงตู หนานหนิง
ส่วนความคืบหน้าการออกจากแผนฟื้นฟู นายวุฒิภูมิ ระบุว่า มีแผนจะออกจากแผนฟื้นฟูกิจการในเดือน กันยายน 2571 และจะกลับเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีกครั้ง หลังตลาดเพิกถอนหลักทรัพย์
อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม