ปลัดพาณิชย์ เผยเตรียมพลิกกลยุทธ์ด้านการตลาด ชิงลูกค้าต่างชาติให้กลับสู่ไทย หลังสหรัฐฯประกาศอัตราภาษีตอบโต้ ฉวยโอกาสถูกเก็บ 19% ต่ำกว่าหลายประเทศ ส่วนเจรจาทางเทคนิค คาดอีก 2-3 เดือนจบแน่

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในระหว่างการปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาใหญ่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประจำปี 2025 ว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้ศึกษาวิเคราะห์เชิงลึกถึงโอกาสของสินค้าไทยภายหลังจากสหรัฐฯได้ประกาศอัตราภาษีตอบโต้ประเทศคู่ค้าที่ชัดเจนแล้ว ซึ่งมีการจัดเก็บหลายอัตรา เช่น ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ถูกเก็บที่ 19% เวียดนาม 20% จีน 30% เป็นต้น โดยเตรียมดำเนินกิจกรรมต่างๆ ตามที่วางแผนไว้ เพื่อช่วงชิงตลาดกลับมาสู่ไทย โดยใช้ทูตพาณิชย์ของไทยที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ เป็นเครื่องมือสำคัญในการดึงลูกค้ากลับมาให้มากขึ้น

“วิธีการทำการตลาดแบบเดิมๆ จะเปลี่ยนไป ตอนนี้ เรากำลังหาวิธีการใหม่ เพื่อดึงลูกค้าจากประเทศต่างๆ รวมทั้งสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทย ให้กลับมาซื้อสินค้าไทย เช่น อาจจะซื้อตั๋วเครื่องบิน หรือจัดทัวร์สำหรับผู้นำเข้ารายใหญ่ รายสำคัญ ให้เข้ามาซื้อสินค้าไทย เป็นต้น แผนการทั้งหมดเราคิดไว้แล้ว และกำลังเตรียมจะดำเนินการ”

สำหรับการเจรจากับสหรัฐฯนั้น อัตราภาษีที่ไทยถูกเก็บ 19% จะไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการเจรจา แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการเจรจาในรายละเอียดทางเทคนิค คาดว่า น่าจะใช้เวลาอีก 2-3 เดือนจึงจะเจรจาเสร็จสิ้น อย่างไรก็ตาม ในฐานะทีมเจรจาประเทศไทย (ทีมไทยแลนด์) ยืนยันว่า ไทยไม่ได้เปิดเสรี หรือเปิดตลาดให้กับสหรัฐฯมากเหมือนที่เป็นข่าว แต่จะเปิดเท่าที่จำเป็น ซึ่งในการเจรจาเปิดตลาด ทีมเจรจาได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ประกอบการ และเกษตรกรไทยเป็นสำคัญ

...

นอกจากนี้ การเจรจากับสหรัฐฯครั้งนี้ ผู้ประกอบการต้องพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส และถือโอกาสปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการใช้ชิ้นส่วน และวัตถุดิบต่างๆ ในประเทศ (โลคอล คอนเทนต์) มาผลิตเป็นสินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ มากกว่าใช้ชิ้นส่วน หรือวัตถุดิบนำเข้า เพื่อให้ได้รับสิทธิเสียภาษีนำเข้าสหรัฐฯไว้ที่ 19% ซึ่งทีมเจรจาทำการบ้านร่วมกับภาคเอกชนมากกว่า 20 สาขา (เซกเตอร์) ในช่วงที่ผ่านมา เพื่อให้ทราบว่า หากแต่ละเซกเตอร์จะปรับมาใช้โลคอล คอนเทนต์ในประเทศเพิ่มขึ้นนั้น ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือด้านใดบ้าง โดยหากใช้โลคอล คอนเทนต์มากขึ้น จะช่วยสร้างความเข้มแข็งของห่วงโซ่การผลิตในประเทศ และเอสเอ็มอีของไทยด้วย

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์

นายวุฒิไกร กล่าวต่อถึงสถานการณ์เศรษฐกิจไทยว่า ไทยเป็นประเทศรายได้ปานกลางมาตั้งแต่ปี 2530 ผ่านไป 38 ปี ณ วันนี้เราก็ยังอยู่ในกลุ่มนี้ แต่อาจมีรายได้อยู่ในเกณฑ์สูงขึ้นมาเล็กน้อย ขณะที่ประเทศอื่นๆ ที่อยู่ในกลุ่มนี้ ปรับขึ้นไปอยู่ในกลุ่มรายได้ระดับสูงแล้ว ทั้งฮ่องกง เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ไต้หวัน ดังนั้น ไทยจึงต้องทบทวนว่า เหตุใดเรายังไม่สามารถเดินหน้าได้ ทั้งนี้ หลายองค์กรเสนอทางออกให้ไทยหลุดพ้นจากกับดักนี้ด้วยการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม ขับเคลื่อนด้วยความคิดสร้างสรรค์ ทรัพย์สินทางปัญญา การวิจัยและพัฒนา ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทุนมนุษย์

“แต่ปัญหาคือ การนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ควรกลับมาดูว่า ไทยเกิดอะไร เรามีศักยภาพหลายอย่าง โดยเฉพาะภาคบริการ ท่องเที่ยว สุขภาพ เกษตรกรรม เราไม่เป็นรองใคร และเชื่อว่า เทคโนโลยี และนวัตกรรม จะช่วยขับเคลื่อนประเทศได้ แต่ต้องคิดว่า จะทำให้อย่างไรให้สินค้าเกษตร ที่มีราคาถูก มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นได้”

อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม