กทพ. จ่อชงบอร์ดปลาย ก.ย.นี้ เคาะโปรโมชันลดค่าทางด่วนครึ่งหนึ่ง หรือ 50% ให้ผู้ใช้บัตรอีซี่พาส นำร่องปีนี้ให้สิทธิ 1 วัน หวังดึงคนใช้บัตรเพิ่ม คาดใช้เงินชดเชย 20 ล้าน ตั้งเป้าเพิ่มยอดผู้ใช้บัตรจาก 55% เป็น 70% ภายใน 2 ปี

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยถึงแนวทางการปรับลดค่าผ่านทางพิเศษ หรือลดค่าทางด่วนระบบ Easy Pass ว่า กทพ. มีแนวคิดจัดทำโปรโมชันลดค่าทางด่วน 50% สำหรับผู้ใช้บัตรอีซี่พาสในการชำระค่าผ่านทางพิเศษ(ด่วน) ทุกด่าน ทุกสายทาง เพื่อกระตุ้นยอดผู้ใช้บัตรอีซี่พาส และจูงใจให้ประชาชนผู้ใช้ทางหันมาใช้บัตรอีซี่พาสในการชำระค่าผ่านทางแทนเงินสดมากขึ้น และแก้ปัญหาจราจรหน้าด่าน

ปัจจุบันมีผู้ใช้ทางด่วน 8 สายทาง ประมาณ 2 ล้านคนต่อวัน ในจำนวนนี้ถือบัตรอีซี่พาสประมาณ 2 ล้านใบ แต่มีผู้ใช้งานจริงเพียง 1 ล้านใบเท่านั้น ดังนั้นจึงตั้งเป้าหมายว่าเมื่อมีโปรโมชัน จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้บัตรอีซี่พาสเพิ่มขึ้น 3% อย่างไรก็ตามแนวคิดดังกล่าว กทพ. จะเสนอคณะกรรมการ(บอร์ด) กทพ. พิจารณาปลายเดือน ก.ย.68

...

ทั้งนี้ แคมเปญดังกล่าวจะไม่ใช่เป็นการลดค่าผ่านทางด่วน 50% ในทุกวันที่ประชาชนใช้ทางด่วน แต่จะเป็นวันพิเศษวันใดวันหนึ่งเท่านั้น อาทิ วันเกิดของผู้ถือบัตร หรือ วันครบรอบ กทพ. เป็นต้น ส่วนรายละเอียดว่าจะเลือกเป็นวันใดยังอยู่ระหว่างพิจารณา โดยในเบื้องต้นจะเริ่มทดลองแคมเปญดังกล่าวภายในปี 68 เพียง 1 วันก่อน หากได้ผลตอบรับดี จะพิจารณาเพิ่มจำนวนวันได้รับสิทธิ์ในปีต่อไป แต่หากไม่ได้รับผลตอบรับที่ดี ก็ไม่ทำต่อ อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ กทพ. เคยจัดโปรโมชันมอบส่วนลดค่าผ่านทางด่วน 5% สำหรับผู้ใช้บัตรอีซี่พาส ทุกด่าน ทุกสายทาง ประมาณ 30 วันมาแล้ว รายได้หายไปประมาณ 700 ล้านบาท ปรากฏว่า มีผู้ใช้บัตรอีซี่พาสเพิ่มขึ้นแค่ 1% ไม่ได้จูงใจผู้ใช้ทางมากนัก จึงต้องหาโปรโมชันใหม่ๆ มาดึงดูด

นายสุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า กทพ. ไม่สามารถมอบส่วนลดค่าผ่านทาง 50% ให้กับผู้ใช้บัตรอีซี่พาสได้ทุกวัน หากทำเช่นนั้น กทพ.จะสูญเสียรายได้ประมาณ 5,000 ล้านบาทต่อปี และบอร์ด กทพ. คงไม่อนุมัติโปรโมชันนี้ จึงต้องเลือกใช้วิธียิงลูกโดด หรือการลดราคาเฉพาะวัน เพื่อกระตุ้นการใช้งาน โดยจากการประเมินคาดว่าการจัดโปรโมชันลดค่าผ่านทาง 50% จำนวน 1 วัน จะใช้เงินชดเชยประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่งยืนยันว่าการทำโปรโมชันดังกล่าวจะไม่กระทบกับรายได้ของ กทพ. เพราะ กทพ.ใช้เงินดอกเบี้ยที่ กทพ.ได้จากยอดเงินสะสมที่ลูกค้าเติมเงินไว้ในบัตรอีซี่พาสมาชดเชย ปัจจุบันมีเงินอยู่ประมาณ 100 ล้านบาท โดยเงินชดเชยวันละประมาณ 20 ล้านบาทนั้น ในจำนวนนี้ประมาณ 40% หรือประมาณ 8 ล้านบาท ชดเชยให้กับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือบีอีเอ็ม ผู้รับสัมปทานทางด่วน 3 เส้นทาง ส่วนที่เหลือ 60% เป็นของ กทพ.

นายสุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า เชื่อว่าโปรโมชันลดค่าผ่านทาง 50% สำหรับผู้ใช้บัตรอีซี่พาส จะได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนผู้ใช้ทาง ซึ่ง กทพ. ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนผู้ใช้บัตรอีซี่พาสให้เพิ่มขึ้นเป็น 70% จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 55% ของจำนวนผู้ใช้ทางด่วนทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้องกับการลงทุนขยายช่องอีซี่พาส แทนช่องเงินสด ที่จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทาง และช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางด่วน โดยภายใน 2 ปีนี้จะเพิ่มช่องอีซี่พาสทุกด่านมากขึ้นจากปัจจุบัน 40% เป็น 70% ดังนั้นหากจำนวนผู้ใช้บัตรอีซี่พาสไม่เพิ่มขึ้น ช่องที่สร้างไว้สำหรับบัตรอีซี่พาสก็จะว่างเปล่า และปัญหารถติดหน้าด่านก็ไม่หมดไป ซึ่งทุกวันนี้จำนวนผู้ใช้บัตรอีซี่พาสเริ่มตื้อแล้ว จึงต้องจัดโปรโมชันกระตุ้นให้จำนวนผู้ใช้บัตรอีซี่พาสเติบโต

ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าเรื่องการลดค่าผ่านทางทางด่วน ช่วงงามวงศ์วาน-พระราม 9 ให้เหลือไม่เกิน 50 บาทตลอดสาย จาก 90 บาท ยังดำเนินการอยู่หรือไม่ นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ยังดำเนินการอยู่ ขณะนี้ร่างแก้ไขสัญญาสัมปทานการบริหารทางด่วนศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) ช่วงงามวงศ์วาน-พญาไท-พระราม 9 อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) แต่ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ รมว.คมนาคมคนใหม่ด้วย ส่วนนโยบายระบบจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) บนทางด่วนนั้น ขณะนี้ไม่ได้จัดทำแล้ว.

อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม