ดีอีเตือนข่าวปลอมโจมตีไทยจากฝั่งกัมพูชายังระบาดหนัก พบเลยเถิดปล่อยเฟกนิวส์สื่อต่างประเทศ ปลอมข่าวไทยยิงปราสาทเขาพระวิหารเสียหาย
นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (BDE) ในฐานะโฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า ข่าวปลอมที่แพร่หลายอันดับต้นๆ ในช่วงสัปดาห์ระหว่างวันที่ 5 – 11 ก.ย. 2568 จากข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 998,983 ข้อความ พบส่วนใหญ่เป็นข่าวเกี่ยวกับความมั่นคงระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา, การให้บริการของหน่วยงานรัฐ นอกจากนี้ยังพบข่าวที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ และข่าวภัยพิบัติรวมอยู่ด้วย ซึ่งทั้งหมดมีผลกระทบต่อสังคม อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด สับสน ตื่นตระหนก และวิตกกังวลได้ รวมทั้งอาจทำให้สูญเสียทรัพย์สิน หรือ ข้อมูลส่วนบุคคล
โดยข่าวปลอมที่แพร่หลายและเข้าถึงความสนใจของประชาชนเป็นอันดับแรก ได้แก่ ข่าวการปรับสิทธิค่ายาข้าราชการ ปี 69 เบิกได้เฉพาะยาสามัญ ซึ่งกระทรวงดีอี ได้ประสานงานกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ตรวจสอบพบว่าเป็นข้อมูลเท็จ โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณายังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด ขอให้ติดตามข่าวความคืบหน้าการดำเนินงาน ผ่านทาง www.cgd.go.th หรือ Facebook กรมบัญชีกลาง ที่มีเครื่องหมาย verify เท่านั้น เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง
...
ขณะที่ข่าวปลอมสถานการณ์ไทย-กัมพูชา เรื่อง “ไทยยิงปราสาทพระวิหารเสียหาย” ได้รับความสนใจเป็นอันดับถัดมา ซึ่งกระทรวงดีอีได้ประสานกองทัพบก กระทรวงกลาโหม ตรวจสอบพบว่าเป็นข้อมูลเท็จ กรณีที่ฝ่ายกัมพูชาได้กล่าวอ้างผ่านสื่อต่างประเทศ ว่า ฝ่ายไทยใช้อาวุธยิงสนับสนุนในการปฏิบัติการทางทหาร จนส่งผลให้ปราสาทพระวิหารได้รับความเสียหายในช่วงการสู้รบที่ผ่านมานั้น ไม่เป็นความจริง
ข่าวปลอมอื่นๆ ที่ถูกเผยแพร่ออกมา ได้แก่ ศบ.ทก. อนุมัติ แผนสร้างรั้ว 16 กิโลเมตร หลักเขตแดนที่ 50 ถึง 51, แจ้งเตือนให้พลเรือน จ.สระแก้ว ออกจากพื้นที่ชายแดน, กระทรวงวัฒนธรรม ยอมรับ รามเกียรติ์เป็นของกัมพูชา, กระทรวงวัฒนธรรม พร้อมยกชุดไทยให้กัมพูชา, ประกาศวันหยุดราชการพิเศษ วันที่ 12 กันยายน 2568, เลขาฯ ป.ป.ส. เตรียมยื่นใบลาออกหลังมีการประกาศนายกคนที่ 32 ของไทย เป็นต้น
อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม