‘ขยะพลาสติกล้นโลก’ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ซ้ำยังเป็นปัญหาที่เริ่มส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มนุษย์ ไปจนถึงสัตว์น้อยใหญ่ คำถามคือ แล้วเราจะปล่อยภาระนี้ไว้กับโลกอย่างนั้นหรือ? ซึ่งเรื่องน่ายินดีคือทุกวันนี้หลายฝ่ายตระหนักถึงปัญหาและลงมือแก้ไขเรื่องนี้อย่างจริงจัง เช่นที่ ‘ซันไลต์’ แบรนด์อันดับต้นๆ ซึ่งอยู่คู่คนไทยมายาวนาน เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองจากต้นทาง ‘ปฏิวัติพลาสติก’ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างวันหน้าที่ดีกว่า

จัดการจากต้นทาง ‘ปฏิวัติพลาสติก’ เกิดขึ้นจริง

การแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกที่น่าสนใจในปัจจุบันที่แสดงถึงความตั้งใจจริงอย่างหนึ่ง คือการที่ ‘ต้นทาง’ หรือบริษัทผู้ผลิตต่างๆ ตระหนักถึงสิ่งนี้ และเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงที่ตัวเองเป็นสำคัญ ก่อนจะรณรงค์เพื่อสร้างการตระหนักรู้ อย่างผลิตภัณฑ์ล้างจาน ‘ซันไลต์’ ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์สำคัญของ ‘ยูนิลีเวอร์’ ผู้นำด้านสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีนโยบายดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยใส่ใจเพื่อพัฒนาสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภค รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิต และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ได้กำหนดนโยบาย ‘ปฏิวัติพลาสติก’ โดยตั้งต้นตั้งแต่ต้นทางการผลิต โดยเริ่มจากพัฒนาบรรจุภัณฑ์แบบใหม่ เปลี่ยนจากการใช้พลาสติก HDPE มาเป็นพลาสติก PET ตั้งแต่ปี 2560 จนล่าสุดในปี 2562 นี้ได้พัฒนาบรรจุภัณฑ์พลาสติก PET ที่ทำมาจากพลาสติกรีไซเคิล 100% และใช้สัญลักษณ์พลาสติกรีไซเคิล 100% บนขวดผลิตภัณฑ์ซันไลต์ ซึ่งสามารถลดการใช้พลาสติกทั้งสิ้นถึง 551 ตันต่อปี

‘คุณฤชุพัณณ์ ชูครุวงศ์’ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ล้างจาน บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เล่าว่าสิ่งที่ซันไลต์ทำไม่ได้เป็นเพียงแนวคิด แต่คือการลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังเพื่อให้เกิดผลดี ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แม้การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะไม่ใช่เรื่องง่ายกับการลงมือปฏิบัติในกระบวนการผลิต แต่เมื่อเกิดขึ้นได้จริงแล้วก็นับว่าคุ้มค่าจากการตัดสินใจและทำอย่างจริงจัง “ปัญหาขยะพลาสติกที่กำลังล้นโลก ไม่ใช่สิ่งที่ควรนิ่งเฉย การเริ่มนโยบาย ‘ปฏิวัติพลาสติก’ ตั้งแต่ต้นทางการผลิตคือการแสดงความรับผิดชอบต่อโลกใบนี้อย่างจริงใจ ในขณะที่การรณรงค์ให้ผู้คนตระหนักรู้ถึงปัญหาขยะพลาสติกก็ต้องทำควบคู่กันไป ที่ผ่านมาเรารณรงค์ให้ผู้บริโภคเห็นความสำคัญในการ ลด-ละ-เลิก การใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง แล้วหันมาใช้พลาสติกรีไซเคิลให้มากขึ้น ผ่านการนำบรรจุภัณฑ์มาใช้ซ้ำ รวมไปถึงการจัดการกับบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ใช้แล้วอย่างเหมาะสม ตั้งแต่การแยกขยะ และการนำของเก่ามาใช้ใหม่”

นอกจากเปลี่ยนแปลงจากตัวเองด้วยการพัฒนาบรรจุภัณฑ์พลาสติก PET ที่ทำมาจากพลาสติกรีไซเคิล 100% แล้ว ซันไลต์ ยังประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการตระหนักรู้ โดยต่อยอดไปสู่การจัดนิทรรศการผลงานศิลปะจากพลาสติกเหลือใช้ ‘ซันไลต์ Go Green Art Exhibition’ เมื่อเดือนตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา รวมถึงเปิดตัวซันไลต์ ลิมิเต็ด อิดิชั่น ดีไซน์รักษ์โลก ซึ่งเป็นผลงานที่เกิดขึ้นจากการประกวดออกแบบภายใต้แนวคิดการรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งผลงานชนะเลิศจากทีมนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนจะผลิตจริงแล้วจำหน่ายใน 7-11 ทั่วประเทศ โดยรายได้ส่วนหนึ่งของยอดจัดจำหน่ายได้มอบให้ โรงเรียนอนุบาลทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นต้นแบบโรงเรียนที่สามารถจัดการปัญหาขยะได้อย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ จนเกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อทั้งโรงเรียนและชุมชน

ผลงานศิลปะที่สร้างสรรค์จากขยะพลาสติกโดยนิสิตและนักศึกษา

ผลงานการออกแบบฉลากซันไลต์ ลิมิเต็ด อิดิชั่น ที่ชนะเลิศ นำไปผลิตเป็นฉลากบรรจุภัณฑ์ที่จำหน่ายจริงใน ร้าน 7-11

“ก่อนอื่น ต้องขอขอบคุณคณะผู้บริหารของทาง 7-11 เป็นอย่างมาก ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญและให้การสนับสนุนโครงการเพื่อรณรงค์ลดพลาสติกของซันไลต์ โดยให้โอกาสและสนับสนุนให้เราจำหน่าย ซันไลต์ ลิมิเต็ด อิดิชั่น ดีไซน์รักษ์โลกในร้าน 7-11 อย่างเต็มที่ จึงเป็นที่มาในการมอบเงินจำนวน 120,000 บาท เพื่อให้โรงเรียนอนุบาลทับสะแก ใช้ในกิจกรรมรณรงค์ลดขยะพลาสติกทั้งในโรงเรียน รวมถึงการต่อยอดโครงการที่จะเกิดขึ้นในชุมชนต่อไป โรงเรียนอนุบาลทับสะแก คือตัวอย่างของโรงเรียนที่สามารถจัดการปัญหาขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ซึ่งเราเชื่อว่าการสนับสนุนกิจกรรมรณรงค์ลดขยะพลาสติกในโรงเรียน ก็จะกลายเป็นกระบอกเสียงที่ดีให้โรงเรียนและชุมชนอื่นๆ ได้เห็นพลังจากการร่วมแรงร่วมใจกันแก้ปัญหานี้อย่างจริงจังด้วย”

สานต่อความสำเร็จร่วมกันเพื่อสังคมที่ยั่งยืน

ผลลัพธ์ที่น่าสนใจอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการลุกขึ้นมาจัดการปัญหาขยะอย่างจริงจังของโรงเรียนอนุบาลทับสะแก คือ การปลูกฝังแนวคิดที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ซึ่งผลในเชิงรูปธรรมที่ชัดเจนที่สุด คือ พฤติกรรมการจัดการขยะจากตัวเองของนักเรียนที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลทับสะแก ‘สุชาติ กาญจนาประดิษฐ์’ กล่าวว่าสิ่งนี้เองคือความสำเร็จที่แท้จริง

“โรงเรียนของเราเริ่มตระหนักว่า ปัญหาขยะไม่ใช่เรื่องที่ควรนิ่งนอนใจ เพราะขยะในโรงเรียนเพิ่มขึ้นจากการจัดการไม่ถูกต้องจนเริ่มส่งกลิ่นเหม็น ถ้าโรงเรียนยังเป็นแบบนี้เราก็คงไม่สามารถปลูกฝังคุณลักษณะที่ดีให้กับเด็กได้ จนได้พบแนวทางของ ดร.ไพบูลย์ โพธิ์สุวรรณ และนำความรู้มาทำโครงการ มิติใหม่ชุมชนไร้ถัง ซึ่งเริ่มจากคัดแยกขยะทุกชิ้นในโรงเรียนของเรา จากการสำรวจว่าขยะมาจากแหล่งใดบ้างภายในโรงเรียน ก่อนจะมาจัดการให้ถูกต้อง เช่น ขยะจากใบไม้ เราสามารถจัดการใบไม้ได้อย่างไร หากไม่นำไปทิ้งลงถัง ก็พบว่าสามารถนำมาทำปุ๋ยหมักได้ อย่างถุงนมพลาสติกที่เด็กดื่ม สามารถนำมาตัด-ล้าง เก็บไว้ขาย ส่วนขวด แก้วน้ำ และหลอดพลาสติก ก็รณรงค์ต่อเนื่องจนสามารถประกาศเลิกใช้ ทุกวันนี้เด็กๆ และบุคลากรทุกคนในโรงเรียนจะพกขวดน้ำหรือแก้วน้ำส่วนตัวมาดื่ม แม้แต่เศษอาหารแทนที่จะกลายเป็นขยะ ก็รณรงค์ให้ทุกคนกินอาหารให้หมดจาน ไม่กินทิ้งขว้างให้กลายเป็นขยะ คำว่า ‘ไร้ถัง’ จึงหมายถึงการจัดการจากต้นทาง คือตัวเราเองก่อนที่มันจะกลายเป็นขยะด้วยเหมือนกัน”

นายสุชาติ กาญจนาประดิษฐ์ (ขวา) ผู้อำนวยการโรงเรียน และนางสาวสุดารัตน์ สังข์ฤทธิ์ (ซ้าย) ครูชำนาญการพิเศษ พร้อมตัวแทนนักเรียนโรงเรียนอนุบาลทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
นายสุชาติ กาญจนาประดิษฐ์ (ขวา) ผู้อำนวยการโรงเรียน และนางสาวสุดารัตน์ สังข์ฤทธิ์ (ซ้าย) ครูชำนาญการพิเศษ พร้อมตัวแทนนักเรียนโรงเรียนอนุบาลทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

แม้วันนี้โรงเรียนอนุบาลทับสะแกจะได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัลชนะเลิศ โรงเรียนไร้ถังขยะ ระดับประเทศ จากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่ภายใต้เส้นทางอันยาวไกลกว่า 4 ปีที่ผ่านมา สิ่งอันยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นคือการปลูกฝังแนวคิดที่ดี และปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งนับเป็นการสร้างต้นกล้าเยาวชนที่ดีงาม ในขณะเดียวกันเมื่อโรงเรียนตั้งใจจริงในเรื่องนี้ ผลดีก็จะขยายออกไปสู่ชุมชนด้วย โดยในอนาคตอันใกล้ โรงเรียนอนุบาลทับสะแกยังเตรียมขยายโครงการความร่วมมือนี้ออกไปสู่ชุมชน ซึ่งการสนับสนุนจากผู้ที่ตั้งใจจริงอย่าง ซันไลต์ ก็นับได้ว่าเป็นกำลังสำคัญเพื่อเดินหน้าทำสิ่งดีเพื่อโลกร่วมกัน

“ผมขอเป็นตัวแทนของโรงเรียนอนุบาลทับสะแก ขอบคุณผลิตภัณฑ์ล้างจานซันไลต์ที่เข้ามาสนับสนุนโครงการของเรา ผมเชื่อว่าการที่มีองค์กรใหญ่ๆ เข้ามาร่วมสนับสนุนก็เป็นสิ่งยืนยันอย่างหนึ่งถึงคุณค่าในสิ่งที่เราทำ และเป็นการเดินทางที่ไม่โดดเดี่ยว และเชื่อกำลังสนับสนุนครั้งนี้จะทำให้โรงเรียนและชุมชนได้รับประโยชน์มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็หวังอยากให้โรงเรียนอื่นๆ ชุมชนอื่นเห็นความสำคัญของการจัดการปัญหาขยะอย่างจริงจังร่วมกัน เพื่ออนาคตของลูกหลานเราเอง”

แม้การจัดการปัญหาขยะพลาสติกจะไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำให้ลุล่วงได้ในเร็ววัน แต่การลุกขึ้นมาร่วมแรงร่วมใจของหลายฝ่ายในรูปแบบต่างๆ ก็เป็นเครื่องยืนยันว่า เราจริงใจต่อโลกใบนี้มากขึ้นทุกวัน ทั้งนี้สำหรับ ซันไลต์ แล้วยังมีแผนที่จะเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์พลาสติกทั้งหมดในทุก SKU ให้เป็นพลาสติกรีไซเคิล 100% ภายในปี 2565 อีกด้วย