“ฝุ่นพิษ” และโลกสีเขียวของคนไทย

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศได้รับรู้ถึงความรุนแรงของฝุ่น PM 2.5 หรือฝุ่นพิษที่นอกเหนือจากทำอันตรายร้ายแรงต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบประสาท และระบบเลือดของมนุษย์แล้ว ยังปกคลุมทำให้ท้องฟ้าของเรามัวหม่นจนแทบมองไม่เห็น เป็นอันตรายต่อการสัญจรไปมาอีกด้วย

ซึ่งหนทางแก้ไขนั้น ในระยะสั้นรัฐบาลคงใช้วิธีฉีดน้ำ ทั้งบนบกและบนฟ้า เพื่อให้ฝุ่นที่กระจายอยู่ตกลงมายังพื้นดินไปอีกระยะ ควบคู่กับการหาแนวทางลดการปล่อยมลพิษ ทั้งจากการเผา การปล่อยควันดำของรถยนต์ และการปล่อยมลพิษของโรงงานในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวทางการเข้าสู่ Net Zero หรือการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ ซึ่งเริ่มมีคนเริ่มจะลังเล หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศยกเลิกเข้าร่วมมิชชันดังกล่าว

แต่สำหรับเมืองไทยนักเศรษฐศาสตร์เห็นตรงกันว่า “เราถอยไม่ได้” เพราะปัญหาสิ่งแวดล้อม และฝุ่นควันพิษของไทยอยู่ในสถานการณ์ต้องเยียวยาอย่างเร่งด่วน

และนอกเหนือจากการปรับกระบวนการผลิต เพื่อเข้าสู่โลกสีเขียวของคนไทย และโรงงานไทย ซึ่งใช้เวลาและทุนจำนวนมาก ล่าสุดยังมีอีกทางที่จะช่วยเพิ่มคาร์บอนเครดิต และแสดงว่าเราได้ทำตามเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อมของเวทีการค้าการลงทุนโลก คือ การเลือกให้โรงงานของเราใช้ “ไฟฟ้าสะอาด” ไฟฟ้าสีเขียวที่มาจากพลังงานหมุนเวียน แสงอาทิตย์ ลม น้ำ และอื่นๆ

ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่ได้หาซื้อยากอีกต่อไป เนื่องจากตั้งแต่ต้นปี 2568 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) และ 3 การไฟฟ้า ประกอบด้วย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้ประกาศให้คนไทย โรงงานไทยสามารถเลือกลงทะเบียนที่จะใช้บริการไฟฟ้าสีเขียว แบบผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เจาะจงแหล่งที่มา หรือ UGT 1 ได้แล้ว

เพียงแต่จะต้องจ่ายค่าไฟสะอาดนี้เพิ่มขึ้นจากค่าไฟปกติหน่วยละประมาณ 6 สตางค์ และในช่วงที่ผ่านมามีผู้ติดต่อลงทะเบียนเพื่อสมัครใช้บริการแล้วประมาณ 600 ล้านหน่วย จากปริมาณ 2,000 ล้านหน่วยที่ภาครัฐเตรียมการไว้ โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจการค้าระหว่างประเทศที่นำไปใช้ในการจัดทำรายงานการปล่อยก๊าซฯ ตามนโยบายของบริษัทแม่หรือบริษัทคู่ค้า และบริษัทจดทะเบียนชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ที่ต้องการการรับรองไฟฟ้าสีเขียว

และหากสนใจใช้ไฟฟ้าสีเขียวรักษ์โลก ผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ กฟภ. ยังสามารถขอได้ผ่านแพลตฟอร์ม ugt.pea.co.th ผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ กฟน. ที่เว็บไซต์ mea.or.th ส่วนลูกค้าตรง กฟผ. ที่เว็บไซต์ egat.co.th จนถึงวันที่ 28 ก.พ.นี้ โดยจะได้รับเอกสารรับรองไฟฟ้าสะอาดและแหล่งที่มาภายใต้มาตรฐาน I-REC ซึ่งเป็นใบรับรองที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางที่สุดมาตรฐานหนึ่งในระดับสากล “ไฟฟ้าสะอาด” จึงน่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับธุรกิจที่เริ่มต้นเข้าสู่สายสีเขียว

เพราะแม้ว่าจะเป็นการเริ่มต้นเล็กๆที่เราก็ยังไม่แน่ใจว่าจะส่งผ่านไปถึงการแก้ปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างไร แต่อย่างที่ฝรั่งว่าไว้ “Big things have small beginnings” เริ่มต้นเล็กๆจะทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่ๆ ที่ดีได้แน่นอน.

มิสเตอร์พี

คลิกอ่านคอลัมน์ “กระจก 8 หน้า” เพิ่มเติม