“อนุทิน” มาเข้ม สั่งเฉียบขาดห้ามเผาป่า เผาในที่โล่ง เผาทาง การเกษตรไม่ว่าจะเผาฟาง ซังข้าวโพด ใบอ้อย 3 เดือน ใครฝ่าฝืนมีโทษจำคุกและตัดสิทธิ์การช่วยเหลือเยียวยาจากรัฐในโอกาสต่างๆในอนาคต ผู้ว่าฯขอนแก่นนำคณะล้างถนนไล่ฝุ่นกลางเมือง ชัยนาทระทึก ไฟเขาพลอง คุอีกรอบ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงนำรถคุมสถานการณ์โดยมี ฮ.กระทรวงทรัพยากรฯบินเฝ้าระวัง ชาวบ้านเผานาที่ อ.ประจันตคาม ปราจีนบุรี ลามไหม้เป็นวงกว้างเกิดกลุ่มควันขนาดใหญ่จนเกิดทัศนวิสัยไม่ดีเป็นเหตุรถชนกันเพียบ

ที่กระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 29 ม.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ หรือ บก.ปภ.ช.เป็นประธานประชุม ติดตามสถานการณ์และการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่น PM 2.5 มีคณะผู้บริหาร ผวจ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม นายอนุทินกล่าวว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปที่ต้องปฏิบัติร่วมกันอย่างเข้มงวดทันที บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด 3 เดือนนี้ห้ามเผาป่า เผาในที่โล่ง เผาทางการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นฟาง ซังข้าวโพด ใบอ้อย ถือว่าผิดกฎหมายต้องดำเนินคดีมีโทษจำคุก ผู้ที่ฝ่าฝืนจะไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ จากรัฐในโอกาสต่างๆในอนาคต รัฐบาลจะช่วยเรื่องการฝังกลบ หางบมาช่วยเกษตรกร จนถึงการแปรสภาพซากวัชพืชทางการเกษตร ให้เป็นปุ๋ย เป็นเชื้อเพลิง จะนำเรื่องนี้หารือกับนายกฯ

ที่บริเวณศาลหลักเมืองจังหวัดขอนแก่น นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น นำเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจิตอาสา ร่วมกันทำความสะอาดถนนเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ตั้งแต่หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลขอนแก่น- สี่แยกศรีจันทร์ ตัดถนนกลางเมือง ระยะทางกว่า 2 กม. นายไกรสรกล่าวว่า จังหวัดได้เน้นย้ำทุกพื้นที่เร่งทำความสะอาด ชำระล้างถนนป้องกันฝุ่นฟุ้งกระจายในทุกพื้นที่และยังตรวจสอบการเผาป่า จับกุมคนเผามาดำเนินคดีด้วย

...

วันเดียวกัน พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพานิช รอง ผบก.ภ.จ.จันทบุรี นายกันดิ์เผดิม อักษร ปลัดอำเภอมะขาม ร่วมกับ จนท.หลายหน่วย ไปตรวจพื้นที่บ่อขยะ โครงการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการกำจัดขยะมูลฝอย เทศบาลเมืองจันทบุรี อยู่ในเขต อ.มะขาม ติดตามกระบวนการกำจัดขยะมูลฝอยที่เป็นส่วนหนึ่งของการเฝ้าระวังปัญหาฝุ่น PM 2.5 มี จนท.บริษัท โชคชัย เอ็นไวรอนเมนทอล จำกัด ที่ได้รับมอบหมายการกำจัดขยะ นำชมการจัดการขยะ พบการฝังกลบถูกหลักไม่มีขั้นตอนการเผาหรือทำให้เกิดฝุ่นควัน จนท.ได้กำชับให้เพิ่มการเฝ้าระวังเข้มงวดของการจุดติดไฟ ที่มีสาเหตุจากเสียดสีหรือการรวมแสงของขยะบางประเภทที่สามารถทำได้

ที่ จ.ชัยนาท หลังเกิดเหตุมีผู้จุดไฟเผาป่าบนเขาพลอง ต.เขาท่าพระ อ.เมืองชัยนาท เสียหายนับร้อยไร่และจับมือเผาได้ ต่อมาคืนวันที่ 28 ม.ค.เพลิงที่ดูเหมือนจะสงบลง กลับโหมไหม้อีกครั้งเป็นวงกว้าง ที่ด้านหลังสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง สำนักงานขนส่งจังหวัดชัยนาท เนื่องจากมีลมแรงช่วงกลางคืนทำให้ไฟคุขึ้นมาอีกและลุกลามอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงนำรถดับเพลิงนับสิบคันมาสแตนด์บาย เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมดับไฟที่ไหม้อยู่ในพื้นที่สูงชันและลามขึ้นด้านบนไปเรื่อยๆ ยากต่อการขึ้นไปดับไฟเนื่องจากเป็นหน้าผาสูงชัน รถดับเพลิงฉีดน้ำไปไม่ถึง ต้องปักหลักรอด้านล่าง ประเมินสถานการณ์รายชั่วโมง มีเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมคอยบินเฝ้าดูสถานการณ์

ตอนสายวันเดียวกัน มีกลุ่มควันขนาดใหญ่เป็นวงกว้างในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ และ อ.ประจันตคาม จ.ปราณบุรี ทำให้มีเหตุรถชนกันของผู้ใช้รถใช้ถนนสายประจันตคาม-ศรีมหาโพธิ หลายคัน เนื่องจากมองไม่เห็นทางเพราะทัศนวิสัยไม่ดีจากกลุ่มควัน จากการตรวจสอบพบพื้นที่ ต. บ้านทาม อ.ศรีมหาโพธิ รอยต่อ ต.เกาะลอย อ.ประจันตคาม มีการเผานาเป็นวงกว้างทำให้กลุ่มควันจำนวนมากปกคลุมพื้นที่ ต่อมารถดับเพลิงของ อบต.บ้านหอย และ อบต.ใกล้เคียง มาช่วยดับไฟที่ไหม้ตอซังข้าว แต่ด้วยพื้นที่นากว้างใหญ่มาก ทำให้การดับเพลิงเป็นไปอย่างยากลำบาก

ที่เรือนจุฬานฤมิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีการจัดเสวนาวิชาการ ครั้งที่ 30 เรื่องจุฬาฯ ระดมคิด พลิกวิกฤติ PM 2.5 ในงาน พญ.ภัทราวลัย สิรินารา ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกัน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า มีงานวิจัยทั่วโลกและของไทยยืนยันว่าฝุ่น PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพระยะเฉียบพลันคือ ไอแห้ง เจ็บคอ เคืองตา ผื่นคันตามร่างกาย ผลกระทบเรื้อรัง ได้แก่ หอบหืด หลอดลมอักเสบ มะเร็งปอด มะเร็งหัวใจ เพราะ PM 2.5 สามารถเข้าไปถึงหลอดลมส่วนลึกที่สุด ผ่านเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ร่างกายอักเสบบ่อยๆ จนกลายเป็นมะเร็งได้ในที่สุด โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล พบโลหะหนักประเภทสารหนู แคดเมียม โครเมียม เป็นสารก่อมะเร็งที่เพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งของประชาชน

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่