แฉคลิปเสียงครูในวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.ลำปาง ด่าหยาบไม่พอใจเด็กไม่ลงขันซื้อของถวายวัดแล้วไม่ยอมแจ้ง พบ 2 ปีก่อนเคยไล่เด็กไปกระโดดตึกตาย จนเด็กเครียดจัดกลับบ้านไปกินยาหมดแผง โชคดีส่ง รพ.ทัน

เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเปิดเผยคลิปเสียงครูผู้ชายในวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.ลำปาง กำลังพูดในห้องเรียน โดยใช้คำพูดหยาบคายกับนักศึกษา คล้ายไม่พอใจเด็กในชั้นเรียนที่ไม่ได้ลงขันเพื่อซื้อของไปถวายวัดและไปร่วมงานที่วัด แต่นักศึกษาไม่ยอมแจ้งให้ทราบ รวมทั้งมีการถามเด็กว่า เป็นหมาเหรอถึงรับผิดชอบไม่ได้

นอกจากนี้ยังพบว่า เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา มีนักศึกษาหญิงรายหนึ่งถึงขั้นกินยาหวังจบชีวิตเพราะถูกครูคนเดียวกันด่าทอในห้องเรียน ประกอบกับนักศึกษาเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งโชคดีที่เพื่อนในกลุ่มไลน์ติดต่อแม่ได้ ทำให้พี่และย่าพาตัวไปส่งโรงพยาบาลเพื่อให้หมอล้างท้องได้อย่างปลอดภัย ซึ่งครั้งนั้นแม่ได้ไปพบกับ ผอ.ที่วิทยาลัย ซึ่งผลคือย้ายครูไม่ให้มาสอนเด็กห้องนี้อีกแต่ก็ไม่มีการลงโทษหรือสอบสวนใดๆ จนถึงทุกวันนี้ครูก็ยังมีพฤติกรรมแบบเดิมๆ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้โทรสอบถาม น้องบี (นามสมมุติ) นักศึกษาดังกล่าว เล่าว่าในวันเกิดเหตุเป็นวันที่ครูจะสอบ แต่ไม่รู้ว่าครูหงุดหงิดอะไรมา นักศึกษานั่งรอกันหน้าห้อง ครูเดินเข้าห้องไปแล้วปิดประตูโครม ก่อนจะเปิดประตูแล้วเรียกนักศึกษาเข้าห้อง และนำกระดาษสอบหลายแผ่นมาส่งให้นักศึกษาแต่ตนเองมือเจ็บเพราะโดนประตูหนีบกระดูกร้าวจึงเข้าเฝือกจึงใช้งานได้มือเดียว

และขณะที่ครูยื่นกระดาษให้ พัดลมเพดานพัดกระดาษปลิวตนเองจึงขอบคุณและรีบก้มเก็บกระดาษยังไม่ได้ยกมือไหว้ ครูจึงด่าถึงสถาบันเดิมที่เรียนมาว่าไม่สั่งสอนต่างๆ นาๆ พร้อมกับบอกให้ตนเองไปกระโดดตึก_ ซึ่งตนเองขวัญเสียและตกใจมาก มันทำให้ตนเองคิดมาก ไม่อยากอยู่ อยากจะกระโดดตึก_ในตอนนั้นด้วยซ้ำ จนกระทั่งสอบเสร็จและจะต้องเรียนเนตรนารีตอนเย็น ตนเองก็ไม่อยากเรียนและอึดอัดคิดแต่เรื่องนี้ จึงขอให้แม่มารับกลับบ้าน

...

เมื่อไปถึงบ้านก็เข้าห้องแต่หัวก็ยังคิดถึงแต่เรื่องที่ครูด่าจนเครียดมากจึงได้บอกกับเพื่อนในไลน์ว่าทนไม่ไหวแล้วและไม่อยากอยู่แล้วจึงเอายาพารามากิน 1 แผง ก่อนที่เพื่อนจะไลน์บอกแม่และพี่กับย่าก็นำตัวส่ง รพ.

ซึ่งแม่ของน้องบี บอกว่าเป็นเรื่องที่รู้สึกไม่ดีมากๆ ครูไม่ควรใช้คำพูดที่รุนแรงและหยาบคายแบบนั้นกับเด็ก เพราะเด็กก็ยังเป็นวัยรุ่น และลูกก็เป็นโรคซึมเศร้า เพียงคำพูดบางคำก็อาจจะทำให้เด็กคิดสั้นได้ และหากวันนั้นเพื่อนลูกไม่ได้ไลน์มาบอกก็คงไม่มีใครรู้ว่าลูกของแม่กินยา ก็อาจจะเสียชีวิตไปแล้ว และหากเป็นเด็กคนอื่น และอาจจะไม่โชคดีเหมือนลูกของตนก็เป็นได้ ซึ่งครูแบบนี้ไม่ควรให้อยู่กับเด็กหากคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ก็จะเป็นอันตรายกับเด็กได้

อย่างไรก็ตาม หากมีรายงานจากทางวิทยาลัยหรือครูรายดังกล่าวออกมาชี้แจงจะรายงานให้ทราบต่อไป.