มีเสียงเรียกร้องจากเด็กๆหลายหมื่นคน ที่ไม่สามารถเตรียมเอกสาร หลักฐานสำคัญในการสมัครเข้าแข่งขันชิงทุนการศึกษาเพื่อเรียนรู้ทักษะด้านดิจิทัลในต่างประเทศ ภายใต้โครงการ “หนึ่งอำเภอ หนึ่งทุนการศึกษา” (Outstanding Development Opportunity Scholarship–ODOS) ซึ่งเดิมกำหนดปิดรับสมัครในวันที่ 15 พ.ค.2568
รัฐบาลภายใต้การดำเนินงานโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลหรือดีป้า จึงตัดสินใจขยายเวลารับสมัครไปจนถึงวันที่ 16 มิ.ย.2568 เพื่อให้เยาวชนมีเวลาเพิ่มในการขอเอกสาร หลักฐานสำคัญ รวมทั้งใบรับรองจากโรงเรียน คุณครู ในช่วงเปิดภาคเรียน เพราะข้อติดขัดก่อนหน้านี้เกิดขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอม
ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า ในฐานะผู้ดำเนินโครงการ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.2568 ซึ่งเป็นวันเปิดรับสมัคร จนถึงขณะนี้มีผู้สมัครแล้วกว่า 120,000 ราย ในจำนวนดังกล่าวมีใบสมัครที่แนบเอกสาร หลักฐานสำคัญครบถ้วน 762 คน ที่เหลือมากกว่า 100,000 ราย อยู่ระหว่างขั้นตอนการเตรียมเอกสาร โดยต้องรอโรงเรียนเปิดเทอม “การขยายเวลารับสมัครไม่ได้กระทบต่อภาพรวมโครงการ ซึ่งกำหนดประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกในวันที่ 1 ส.ค.2568 ส่วนกำหนดการเดินทางอยู่ระหว่างเดือน ก.ย.-พ.ย.2568”
ODOS Summer Camp โครงการที่ริเริ่มโดยรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร เป็นหลักสูตรระยะสั้น 6 สัปดาห์ ที่เปิดโอกาสให้นักเรียนระดับมัธยมปลาย, ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.), นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ขั้นสูง (ปวส.) ชั้นปีที่ 1 และนักศึกษามหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 1 อายุไม่เกิน 19 ปี ณ วันที่เปิดรับสมัคร (วันที่ 24 มี.ค.2568) ที่มีภูมิลำเนาใน 878 อำเภอทั่วประเทศ และ 50 เขต ในกรุงเทพมหานคร รวม 928 ทุน ได้สอบแข่งขันชิงทุนเพื่อไปศึกษาภาคฤดูร้อนด้านเทคโนโลยีใน 17 มหาวิทยาลัยชั้นนำ 10 ประเทศปลายทาง ประกอบด้วย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา เอสโตเนีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ฟินแลนด์ สวีเดน และออสเตรเลีย โดยรัฐบาลเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ภายใต้งบประมาณ 730 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการ 2 ปี
...
มหาวิทยาลัยที่เข้าร่วม ได้แก่ University of Leicester อังกฤษ, University of Washington สหรัฐอเมริกา,Institute of Technical Education (ITE) สิงคโปร์, University of Tokyo (UTokyo) ญี่ปุ่น, Sookmyung Women’s University เกาหลี, Huazhong University of Science and Technology จีน เป็นต้น
นอกจากโอกาสในการศึกษาเล่าเรียนด้านเทคโนโลยีแล้ว เยาวชนยังมีโอกาสเยี่ยมชมบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก อาทิ AWS กูเกิล ไมโครซอฟท์ Canva โนเกีย อีริคสัน Spotify โซนี่ mi หัวเว่ย โตโยต้า อิเกีย ซัมซุง เพราะต้องการมอบโอกาสให้แก่เยาวชนครอบคลุมทุกอำเภอทั่วประเทศ โครงการ ODOS จึงถูกออกแบบให้การจัดลำดับคะแนนเป็นการแข่งขันระหว่างเด็กในอำเภอเดียวกันเท่านั้น คนที่ได้คะแนนมากที่สุดในอำเภอจะเป็นผู้ได้รับทุน อำเภอไหนมีผู้สมัครน้อย การแข่งขันก็จะน้อยลงตามไปด้วย
หลังครบกำหนดการเปิดรับสมัคร คณะกรรมการจะคัดเลือกผู้ผ่านคุณสมบัติจากเอกสารประกอบการสมัคร จากนั้นผู้ที่ผ่านคุณสมบัติจะต้องเตรียมความพร้อมเพื่อเข้ารับการทดสอบทักษะ ภาษาอังกฤษและทักษะด้านดิจิทัลระดับพื้นฐานผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยคณะกรรมการจะนำผลคะแนนการทดสอบของผู้สมัครมาจัดอันดับก่อนคัดเหลือ 9,280 คน (10 อันดับสูงสุดของแต่ละเขต/อำเภอ) ขั้นตอนต่อไปคือ การทดสอบทักษะด้านดิจิทัลระดับกลาง (intermediate) ที่มุ่งทดสอบความเข้าใจและความสามารถเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้ดิจิทัลในชีวิตประจำวัน
ในขั้นตอนนี้จะคัดผู้สมัครที่มีคะแนนสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ และ 50 เขต ในกรุงเทพมหานคร รวม 928 คน เข้าจับสลากเลือกประเทศเพื่อความเท่าเทียมและป้องกันปัญหาการเจาะจงประเทศ ก่อนเข้ารับการสัมภาษณ์กับสถานทูตของ 10 ประเทศ ที่เข้าร่วมโครงการ โดยระหว่างการเดินทาง 6 สัปดาห์ เยาวชนจะได้รับการดูแล ช่วยเหลือจากพี่เลี้ยงเป็นพนักงานภาครัฐเรียนดีร่วมเดินทางไปด้วย
เยาวชนที่สนใจอยากเปิดประสบการณ์ใหม่ให้โอกาสตัวเอง ท่องโลก เสาะหาความรู้ด้านเทคโนโลยีโดยมีรัฐบาลเป็นสปอนเซอร์ ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการ ODOS Summer Camp ได้จนถึงวันจันทร์ที่ 16 มิ.ย.2568 ที่แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” และสามารถศึกษารายละเอียดของโครงการได้ที่ https://odos.thaigov.go.th/ หรือเพจเฟซบุ๊ก ODOS Summer Camp
“หลักยึดของโครงการ ODOS คือ ความเท่าเทียม เด็กไทยในทุกอำเภอ ทุกเขต จะได้รับการคัดเลือกจากผลคะแนนของผู้สมัคร ไม่ใช่มุมมองหรือความคิดเห็นส่วนตัวของคณะกรรมการ โอกาสนี้จะเป็นของน้องๆจากทุกเขต ทุกอำเภอในประเทศไทย เพราะฉะนั้นความฝันอยู่ที่ความตั้งใจ”.
ศุภิกา ยิ้มละมัย
คลิกอ่านคอลัมน์ “The Issue” เพิ่มเติม