ทุกๆ ปี เมื่อย่างเข้าช่วงฤดูแล้ง วิกฤตหมอกควันและไฟป่าในภาคเหนือของไทยก็กลับมาเยือนราวกับแขกไม่ได้รับเชิญ จังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียงต้องเผชิญกับมลพิษทางอากาศที่พุ่งสูงเกินค่ามาตรฐานหลายเท่า ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ระบบนิเวศ และเศรษฐกิจการท่องเที่ยว แม้จะมีความพยายามแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง แต่สถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วง และต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อบรรเทาปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
...
ท่ามกลางวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่ทวีความรุนแรง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนนโยบายของจังหวัดเชียงใหม่ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ผ่านความร่วมมือกับหลายภาคส่วนในรูปแบบที่สร้างสรรค์และเข้าถึงชุมชน
สอดรับนโยบายจังหวัด พร้อมผลักดันลดไฟป่าอย่างสร้างสรรค์
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่าที่ผ่านมาจังหวัดได้สั่งการคุมเข้มป้องกันไฟป่าในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง พร้อมปรับแผนการทำงานให้เหมาะสมกับพื้นที่เป้าหมายการเผา มุ่งเน้นลดแหล่งกำเนิดไฟในทุกทาง โดยมีทั้งการลาดตระเวนในพื้นที่ป่า การขอความร่วมมือประชาชนงดเผาทุกชนิดในที่โล่ง รวมถึงการจัดหาทางเลือกใหม่ที่ดีกว่าในการจัดการเชื้อเพลิงแทนการเผา
หนึ่งในโครงการที่โดดเด่นและได้รับการตอบรับอย่างดีคือ "ตลาดนัดใบไม้แลกไข่" ที่อำเภอสันกำแพง ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างที่ว่าการอำเภอสันกำแพงและซีพีเอฟ โครงการนี้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมีนาคม 2568 ด้วยแนวคิดที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง คือการเชิญชวนชาวบ้านในพื้นที่ให้รวบรวมเศษใบไม้แห้งจากบ้านเรือนและไร่สวน แทนการเผาทิ้ง แล้วนำมาแลกกับไข่ไก่สดที่สนับสนุนโดยฟาร์มคอมเพล็กไก่ไข่สันกำแพงของซีพีเอฟ
โครงการนี้ได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างล้นหลาม ด้วยสโลแกนที่จับใจ "สันกำแพงเราไม่เผา เอาเศษใบไม้มาแลกไข่ หมอกควัน ไฟป่าห่างไกล หายใจโล่งกันทุกคน" โดยมีกติกาง่ายๆ คือเศษใบไม้แห้ง 1 กิโลกรัม แลกไข่ไก่ได้ 1 ฟอง แต่ละคนสามารถนำใบไม้มาแลกได้สูงสุด 30 กิโลกรัม หรือเทียบเท่ากับไข่ไก่ 1 แผง (30 ฟอง) โครงการจัดขึ้นทุกวันพฤหัสบดี โดยซีพีเอฟสนับสนุนไข่ไก่ CP สัปดาห์ละ 1,200 ฟอง ไม่เพียงเท่านั้น ทางด้านซีพีเอฟยังมีการสนับสนุนเครื่องเป่าลม 2 เครื่อง สำหรับใช้ในการเป่าใบไม้และทำแนวกันไฟเพื่อการป้องกันและดับไฟป่า สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการแก้ไขปัญหาอย่างครบวงจร ทั้งการป้องกันที่ต้นเหตุและการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน
...
จากการดำเนินโครงการที่ผ่านมาประมาณ 14 สัปดาห์ มีชาวสันกำแพงนำใบไม้แห้งมาร่วมโครงการแล้วถึง 25,000 กิโลกรัม โดยซีพีเอฟได้สนับสนุนไข่ไก่แก่โครงการรวม 17,800 ฟอง แสดงให้เห็นถึงความตื่นตัวและการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ ที่สำคัญ ใบไม้เหล่านี้จะถูกนำไปผลิตเป็นปุ๋ยหมักโดยเทศบาลตำบลต่างๆ เพื่อให้เกษตรกรนำไปใช้แทนปุ๋ยเคมี ช่วยลดต้นทุนการผลิตและบำรุงดินอย่างยั่งยืน
สร้างความร่วมมือเพื่ออากาศบริสุทธิ์อย่างยั่งยืน
นอกเหนือจากโครงการตลาดนัดใบไม้แลกไข่ ซีพีเอฟยังได้ร่วมสนับสนุนภารกิจอาสาสมัครป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ (ปภ.จ.เชียงใหม่) โดยมอบผลิตภัณฑ์อาหารและน้ำดื่ม CP ซึ่งรวมถึงไข่ไก่สด เนื้อหมูสด หมูคูโรบูตะพร้อมทาน น้ำดื่ม CP และผลิตภัณฑ์อาหารห้าดาว เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครที่ปฏิบัติงานดับไฟป่าในพื้นที่ต่างๆ
...
นายดุสิต พงศาพิพัฒน์ หัวหน้า ปภ.จ.เชียงใหม่ กล่าวขอบคุณซีพีเอฟที่ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครดับไฟป่าทุกคน ที่เสียสละตนเองเพื่อภารกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า ซึ่งสะท้อนถึงความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างภาครัฐและเอกชน
ด้านนายนันทพล วิชัยดิษฐ ผู้บริหารอาวุโส งานปฏิบัติการด้านความยั่งยืนของซีพีเอฟ ในฐานะผู้แทนของบริษัทที่นำทีมซีพีเอฟจิตอาสาจากทุกกลุ่มธุรกิจร่วมส่งมอบผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า บริษัทยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนภารกิจอาสาสมัครดับไฟป่าที่เป็นด่านหน้าในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทุกคนได้ทุ่มเทในการทำงานเพื่อร่วมกันต่อสู้กับปัญหาฝุ่น PM2.5 มาอย่างต่อเนื่อง
ความพยายามของซีพีเอฟในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของภาคเอกชนในการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม การดำเนินงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เป็นตัวอย่างที่ดีของการบูรณาการความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ซับซ้อน
เมื่อทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการมีอากาศสะอาดปราศจากมลพิษ และลงมือทำในส่วนของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการงดเผาในที่โล่ง การร่วมเป็นอาสาสมัครดับไฟป่า หรือการสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่ช่วยลดปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM2.5 เราจะสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นสำหรับทุกคนและรักษาทรัพยากรธรรมชาติอันล้ำค่าให้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป