หนึ่งในข้อมูลที่น่าเป็นกังวลใจในปัจจุบันคือ เด็กไทยตกเป็นเหยื่อการตลาดบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น ผลสำรวจพบว่าเด็กที่อายุน้อยที่สุดที่ถูกล่อลวงให้เข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้า คือ 7 ขวบ เหตุนี้หลายฝ่ายจึงไม่อาจนิ่งนอนใจ ร่วมปกป้องเยาวชนของชาติตั้งแต่เนิ่นๆ โดยหนึ่งในแนวทางที่ประสบความสำเร็จคือการใช้นิทานเป็นเครื่องมือในการให้ข้อมูลเพื่อสร้างการรับรู้อย่างแยบยล โดยมีชุดนิทาน “เด็กปลอดพอด” เป็นตัวช่วยเสริมทักษะและสร้างการรับรู้สำหรับเด็กอนุบาล-ปฐมวัย ซึ่งการสำรวจและประเมินผ่านคะแนนพบว่า ช่วยให้เด็กในช่วงวัยนี้มีทักษะปฏิเสธการใช้งานบุหรี่ไฟฟ้า 2.87 คะแนน, ตระหนักถึงภัยอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าที่มีผลต่อสุขภาพ 2.83 คะแนน และมีทักษะในการเทียบข้อดี-ข้อเสียของการใช้บุหรี่ไฟฟ้า 2.45 คะแนน อันจะเป็นฐานความคิดที่แข็งแกร่งต่อไปในอนาคตได้ เหตุนี้ สสส. และภาคี จึงเดินหน้าหนุนแนวทางนี้เต็มกำลัง พร้อมสานพลังกับ 20 องค์กร ประกาศมาตรการ “เด็กปลอดพอด” เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนไทยจากภัยร้ายในเงามืดนี้

พลังเด็ก พลังเครือข่ายรู้ทันทอยพอด

การใช้ชุดนิทาน “เด็กปลอดพอด” ในการให้ข้อมูลและสร้างการรับรู้สำหรับเด็กอนุบาล-ปฐมวัย นับเป็นส่วนหนึ่งจากแผนงานยุทธศาสตร์สร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ที่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. และภาคี ใช้เป็นหนึ่งในเครื่องมือเพื่อเสริมทักษะพื้นฐานการรู้เท่าทันสื่อสารสนเทศและสื่อดิจิทัล (Media Information and Digital Literacy : MIDL) ในประเด็นพฤติกรรมสุขภาพจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งจากการสำรวจพบว่า เป็นแนวทางที่สัมฤทธิ์ผลในหลายด้าน และพร้อมนำไปขยายผลในวงกว้างมากขึ้น ขณะเดียวกัน สสส. กับภาคีเครือข่ายอีก 20 องค์กร ยังมุ่งเดินหน้าประกาศมาตรการ “เด็กปลอดพอด” เพื่อยกระดับการรับรู้ของสาธารณชนต่อภัยจากบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กอย่างเร่งด่วน โดยถือเอาวันจัดกิจกรรม “พลังเด็ก พลังเครือข่ายรู้ทันทอยพอด” ที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ เป็นวันประกาศความร่วมมือกันอย่างเป็นทางการอีกด้วย

คุณวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ กรรมการกองทุน สสส.
คุณวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ กรรมการกองทุน สสส.

คุณวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ กรรมการกองทุน สสส. ให้ข้อมูลว่า สสส. ได้พัฒนาชุดนิทานเตือนภัยบุหรี่ไฟฟ้า ในชื่อชุด “เด็กปลอดพอด” ขึ้น ด้วยความมุ่งหวังที่จะให้เป็นเครื่องมือสื่อสารการรู้เท่าทันภัยบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านการเสริมทักษะพื้นฐานการรู้เท่าทันสื่อสารสนเทศและสื่อดิจิทัล (MIDL) เนื่องจากเชื่อว่ามีส่วนสำคัญในการช่วยปูพื้นฐานความคิดที่แข็งแกร่งในเด็กอนุบาล-ปฐมวัย ได้ ซึ่งปัจจุบันมีสถานศึกษาและชุมชน 233 แห่ง ใช้หนังสือนิทานเหล่านี้เพื่อสื่อสารกับเด็กๆ ให้เรียนรู้และเฝ้าระวังภัยบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น ทั้งนี้ มีการติดตามศึกษาผลสำรวจกับเด็กอย่างใกล้ชิด ด้วยการเก็บข้อมูลประเมินผลหลังการใช้หนังสือนิทาน ผ่านรูปแบบการประเมินพฤติกรรม การสังเกต การสนทนา การตอบคำถาม และการร่วมกิจกรรม จากกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนระดับเตรียมอนุบาล อนุบาลศึกษา และประถมศึกษา จำนวน 567 คน จนได้เห็นผลลัพธ์อย่างมีนัยสำคัญ

“ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าตอนนี้สถานการณ์ของบุหรี่ไฟฟ้าค่อนข้างแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว จากที่ลงพื้นที่ในต่างจังหวัดก็พบว่าบุหรี่ไฟฟ้าได้แพร่กระจายไปถึงเด็กเล็กมากขึ้น ตอนนี้สิ่งหนึ่งที่เราทำคือความพยายามในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กเพื่อให้รู้เท่าทันบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความตระหนักว่าอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอย่างไร โดยใช้ชุดนิทาน “เด็กปลอดพอด” เป็นเครื่องมือที่สำคัญ โดยการลงไปทำงานในพื้นที่ก็จะทำด้วยกัน 2 ส่วน นั่นคือ ผ่านครูที่มีความใกล้ชิดเด็ก กับส่วนที่ 2 คือกลุ่มผู้ปกครอง ที่ผ่านมาเรามีการติดตามและประเมินผล ซึ่งมีหลายประเด็นที่ได้พบ ในกลุ่มเด็กเล็กชั้นอนุบาลก็อาจจะยังไม่เข้าใจเรื่องพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้ามากนัก แต่จะเริ่มรับรู้ในแง่ของการสื่อสาร ส่วนเด็กที่โตขึ้นมาอีกระดับ ชั้นอนุบาล 3 ถึงชั้นประถมศึกษา ก็จะเริ่มรับรู้ถึงพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น รวมถึงมีความเข้าใจว่าเครื่องมือที่เราใช้นี้ทำให้เขาตระหนักถึงพิษภัยเหล่านั้นได้ แต่ทั้งนี้ก็ยังมีอีกบางประเด็นที่เรายังต้องทำงานกันมากขึ้น อย่างการทำให้เด็กๆ รู้เท่าทันรูปแบบของบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น มองเห็น แยกแยะได้ทันที และปฏิเสธได้ จริงๆ การที่ สสส. และภาคี ให้ความรู้ด้านนี้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็ได้เห็นด้วยว่ากลุ่มผู้ปกครองเองมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้นด้วย แต่เราก็ยังคงต้องทำงานกันต่อไปเพราะเชื่อว่ายังมีกลุ่มผู้ปกครองอีกไม่น้อยที่ยังไม่รู้จักบุหรี่ไฟฟ้าดีพอเช่นกัน”

เด็กๆ ต้องไม่เป็นเหยื่ออีกต่อไป

การสำรวจการบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบในเยาวชนไทยในปัจจุบัน จากกลุ่มนักเรียนอายุ 13-15 ปี จำนวน 6,752 คน จากโรงเรียน 87 แห่งทั่วประเทศ (Global Youth Tobacco Survey : GYTS) ปี 2565 โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล องค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา พบว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชนเพิ่มขึ้นถึง 5.3 เท่า เพิ่มจาก 3.3% ในปี 2558 เป็น 17.6% ในปี 2565 สาเหตุหนึ่งมาจากกลยุทธ์การตลาดของบริษัทผู้ผลิตที่มุ่งเป้าไปที่เด็กและเยาวชนมากขึ้น ขณะเดียวกันยังสร้างภาพลักษณ์ให้บุหรี่ไฟฟ้าเหมือนของเล่น มีกลิ่นหอม ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวนี้บ่งบอกถึงการรุกคืบของบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่อาจนิ่งนอนใจอีกต่อไป ทั้งนี้การปูพื้นฐานทางความคิดที่แข็งแกร่งก็นับเป็นหนึ่งแนวทางการรับมือที่น่าสนใจอย่างมาก


คุณสุธิดา โต๊ะลง รองหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กชุมชนแสงธรรมคลองมณี เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ ซึ่งใช้ ชุดนิทานเตือนภัยบุหรี่ไฟฟ้า “เด็กปลอดพอด” เป็นหนึ่งในเครื่องในการเสริมสร้างการรับรู้สำหรับเด็กมาอย่างต่อเนื่อง เปิดเผยว่าการใช้นิทานเป็นสื่อส่งผลดีต่อการรับรู้ของเด็กเล็กมาก ขณะเดียวกันก็ส่งผลสะท้อนไปที่ผู้ปกครองและชุมชนด้วย “เราพบว่าเด็กๆ จะค่อยๆ ซึมซับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เห็นได้ชัดเลยว่าเขาจะเริ่มรู้ว่านั่นคือทอยพอด ทอยพอดไม่ดียังไง ทอยพอดต่างจากบุหรี่ไฟฟ้ายังไง ตอนแรกเราคิดว่าเด็กเล็ก 3-5 ปี จะยังไม่สามารถเข้าใจเรื่องเหล่านี้ได้ แต่จากที่เราสังเกตก็เห็นเลยว่าเด็กๆ เข้าใจ ยกตัวอย่างเวลาเขาภาพในโทรทัศน์ หรือมีคนใกล้ชิดสูบ เขาก็สามารถพูดบอกผู้ปกครองได้ว่า นั่นคือสิ่งไม่ดีนะ ขณะที่ผู้ปกครองเองก็มาเล่าให้ฟังด้วยว่า เด็กๆ รับรู้ถึงพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า และทอยพอด สำหรับที่ศูนย์พัฒนาเด็กของเราเองก็จะทำแผ่นพับใบปลิวเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้าด้วยอีกทาง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งไปถึงผู้ปกครอง สร้างการตระหนักรู้ เฝ้าระวังบุตรหลานและชุมชนร่วมกันอีกด้วย”

คุณสุธิดา โต๊ะลง รองหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กชุมชนแสงธรรมคลองมณี เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ
คุณสุธิดา โต๊ะลง รองหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กชุมชนแสงธรรมคลองมณี เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ





โดยในวันกิจกรรม “พลังเด็ก พลังเครือข่ายรู้ทันทอยพอด” และการประกาศความร่วมมือเพื่อต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเป็นทางการที่ผ่านมา มีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ เดินทางมาประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันเพื่อแสดงออกถึงความมุ่งมั่นในการต้านบุหรี่ไฟฟ้าเต็มกำลัง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.), กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.), สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร (กทม.), สำนักงานสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น ทั้งนี้ ชุดนิทาน “เด็กปลอดพอด” ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยนักเขียนและผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างสรรค์หนังสือภาพสำหรับเด็ก ยังนับได้เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการสร้างรากฐานทางความคิดที่แข็งแกร่งสำหรับเด็กและเยาวชนของชาติในวันนี้ ซึ่ง สสส. และภาคี พร้อมหนุนให้ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น ผู้สนใจสามารถเปิดอ่านและดาวน์โหลดในรูปแบบดิจิทัลได้ฟรีที่ www.happyreading.in.th 

หมายเหตุ

ระดับคะแนนคุณภาพ ;

การวิเคราะห์แสดงผลเป็นค่าเฉลี่ย 1.00 - 1.49 = ควรส่งเสริม

1.50 - 2.49 = ปานกลาง

2.50 - 3.00 = ดี