ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศไม่ใช่ประเด็นเชิงทฤษฎีอีกต่อไป แต่เป็นวิกฤตที่ส่งผลกระทบเป็นรูปธรรมทั่วโลก การขับเคลื่อนของภาคธุรกิจจึงถูกจับตามองในฐานะกลไกสำคัญที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีนัยสำคัญ และเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ธนาคารกรุงเทพ ได้แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์นั้นอย่างชัดเจนผ่านกิจกรรม “บัวหลวงรักษ์ป่า ตอน ปลูกป่าหลากสี” การรวมพลังครั้งใหญ่ของพนักงานและพันธมิตรกว่า 150 ชีวิต ณ ป่าชุมชนบ้านถ้ำเสือ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
กิจกรรมในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการปลูกป่าทั่วไป แต่เป็นภาพสะท้อนของยุทธศาสตร์ความยั่งยืนระยะยาวภายใต้โครงการเรือธง “Bualuang Save the Earth” ที่ธนาคารได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง
จากแนวคิดสู่การลงมือทำเพื่อโลกอย่างเห็นผล กับโครงการ Bualuang Save the Earth
ก่อนที่ต้นกล้าต้นแรกจะถูกปลูกลงบนผืนดินบ้านถ้ำเสือ ธนาคารกรุงเทพได้วางรากฐานด้านสิ่งแวดล้อมมาอย่างเข้มแข็งผ่านหลากหลายโครงการที่มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งจากภายในและภายนอกองค์กร ไม่ว่าจะเป็น โครงการ Bualuang Save the Earth: 3R+ ที่ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและจัดการขยะในอาคาร, โครงการบัวหลวงรักษ์พลังงาน ที่มุ่งสร้างวัฒนธรรมการประหยัดพลังงาน ไปจนถึง โครงการ Bualuang Save the Earth: รักษ์ท่าจีน ที่ธนาคารได้เข้าไปมีบทบาทสำคัญในการร่วมแก้ไขปัญหาขยะบริเวณปากแม่น้ำ
โครงการเหล่านี้คือเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นในการสร้าง "วัฒนธรรมองค์กรสีเขียว" และบ่มเพาะบุคลากรที่พร้อมเป็นฟันเฟืองในการขับเคลื่อน ดังเช่นกลุ่มพนักงาน ‘Bualuang Green Team’ ซึ่งเป็นแกนนำสำคัญในการผลักดันกิจกรรมต่างๆ ให้เกิดขึ้นจริงและต่อยอดมาจนถึงภารกิจปลูกป่าในครั้งนี้
“บัวหลวงรักษ์ป่า ตอน ปลูกป่าหลากสี” วิสัยทัศน์ที่ไปไกลกว่าแค่การปลูกป่า
สิ่งที่ทำให้โครงการ "บัวหลวงรักษ์ป่า" มีความพิเศษ คือวิสัยทัศน์ที่ไม่หยุดอยู่แค่การเพิ่มพื้นที่สีเขียว แต่เป็นการสร้าง “ระบบนิเวศที่ยั่งยืน” ซึ่งสามารถสร้างคุณค่าได้ในหลากหลายมิติ
ดร. กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้ตอกย้ำถึงจุดยืนของธนาคารว่า “ทางธนาคารกรุงเทพมีความตั้งใจที่อยากจะช่วยเรื่องของสิ่งแวดล้อม เรามีโครงการหลากหลายอย่างที่ได้ทำในช่วงที่ผ่านมา” ซึ่งความตั้งใจนี้ได้นำมาสู่การแสวงหาพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้อย่างยั่งยืน และคำตอบนั้นอยู่ที่ ‘ป่าชุมชนบ้านถ้ำเสือ’
“ที่นี่เป็นพื้นที่ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เราไม่ต้องการเพียงแค่ปลูกต้นไม้อย่างเดียว แต่เราอยากจะทำให้เป็นต้นแบบของการทำป่าชุมชนที่ไปไกลกว่าที่ทุกคนเคยทำมา ธนาคารมองเห็นโอกาสในการสร้างโมเดล ‘ป่าชุมชนเชิงนิเวศ’ ที่สามารถสร้างคุณค่าได้มากกว่าการเป็นพื้นที่สีเขียว เรามีแผนงานที่ชัดเจนเพื่อพลิกฟื้นเนินเขากว่า 200 ไร่ ให้กลายเป็นสวนป่าที่มีชีวิตชีวา มีทั้งดอกไม้ ต้นไม้ สมุนไพร แล้วก็เป็นที่ที่สามารถมาท่องเที่ยวได้อย่างแท้จริง เพื่อให้ป่าที่เกิดขึ้นมาสามารถสร้างรายได้ตลอดทั้งปีให้แก่ชุมชน”
วิสัยทัศน์นี้ถูกทำให้เป็นรูปธรรมผ่านการวางแผนอย่างเป็นระบบ ดร. กอบศักดิ์ อธิบายเพิ่มเติมอย่างเห็นภาพว่า ทีมงานได้วางแผนอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบให้มีทางเดินที่สวยงาม มีโซนป่าไผ่ มีแนวต้นหางนกยูง และศรีตรัง ที่จะเบ่งบานสลับสีสันกันไป เพื่อสร้างทัศนียภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่สำคัญที่สุดคือการแก้ปัญหาความแห้งแล้งอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นจุดชี้วัดความสำเร็จในระยะยาว โดยในจุดนี้ได้มีการร่วมมือกับสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) ในการวางระบบจัดการน้ำทั้งภูเขา ดึงน้ำจากแม่น้ำเพชรบุรีขึ้นไปพักไว้บนยอดเขา แล้วปล่อยให้ไหลลงมาหล่อเลี้ยงความชุ่มชื้นทั่วทั้งพื้นที่ ซึ่งเป็นแนวทางแก้ปัญหาที่ยั่งยืน ต่างจากการปลูกป่าแล้วปล่อยให้เติบโตตามยถากรรม
“ภาพที่เรามักเห็นกันจนชินตาสำหรับการปลูกป่าคือเมื่อผู้คนเข้ามาปลูกก็คิดว่าจบภารกิจแล้ว ปีหน้าค่อยว่ากันใหม่ แต่สำหรับเราไม่ได้มองแบบนั้นครับ เราตั้งใจทำระบบน้ำทั้งภูเขา” ดร. กอบศักดิ์ เน้นย้ำถึงความแตกต่างที่สร้างความยั่งยืนในระยะยาว
นอกจากนี้ โครงการยังมุ่งสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ โดยมีแผนจะพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของผีเสื้อ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผืนป่าแก่งกระจาน เพื่อยกระดับป่าชุมชนแห่งนี้ให้เป็นต้นแบบที่สามารถนำไปขยายผลในพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศได้
เมื่อภาพวิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่ถูกฉายให้เห็นอย่างชัดเจน ก็ถึงเวลาที่ทุกคนจะร่วมกันแปรเปลี่ยนแผนงานนั้นให้กลายเป็นความจริงในทุกย่างก้าว กิจกรรมเริ่มต้นขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่เปี่ยมด้วยพลัง ดร.กอบศักดิ์ ได้นำทัพพนักงานและพันธมิตรทุกคนออกเดินเท้าขึ้นสู่เนินเขาด้วยตนเอง เพื่อเริ่มต้นภารกิจปลูกต้นไม้กว่า 1,000 ต้น ให้กระจายตัวไปทั่วทั้งพื้นที่ตั้งแต่เนินกว้างไปจนถึงยอดเขา สะท้อนถึงความตั้งใจจริงที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในห้องประชุม แต่มันคือการลงมือทำที่พร้อมเผชิญทั้งแสงแดดและหยาดเหงื่อ นอกจากนี้ทุกคนยังได้มีโอกาสเรียนรู้วิถีชุมชนผ่านกิจกรรมเวิร์กช็อป ทั้งการทำ ‘ไข่เค็มพอกอัญชัน’ ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของท้องถิ่น และการร่วมกันปั้น ‘กระสุนพันธุ์ไม้’ เพื่อนำไปยิงให้ลอยข้ามไปตกในพื้นที่ป่าลึกซึ่งเข้าถึงได้ยาก ดังการหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความหวังให้เติบโตต่อไปในอนาคต
“พลังแห่งการมีส่วนร่วม” เมื่อความมุ่งมั่นขององค์กรสอดคล้องกับหัวใจของพนักงาน
ความสำเร็จของโครงการนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากปราศจากพลังของพันธมิตรทุกภาคส่วน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘หัวใจสีเขียว’ ของพนักงานธนาคารกรุงเทพทุกคน นี่คือบทพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า ความสำเร็จไม่ได้มาจากวิสัยทัศน์ของผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว แต่เกิดจากพลังความร่วมแรงร่วมใจของพนักงานทุกระดับ ภาพของรอยยิ้มและแววตาที่มุ่งมั่น ขณะที่สองมือจับจอบเสียมเคียงบ่าเคียงไหล่กันประคองกล้าไม้ลงสู่ผืนดิน ได้หลอมรวมกันเป็นแรงบันดาลใจอันทรงพลัง พร้อมแปรเปลี่ยนป่าชุมชนบ้านถ้ำเสือให้อบอวลไปด้วยพลังแห่งความหวังในทุกตารางนิ้ว
คุณอมราภรณ์ จริงจิตร (แป๋ม) หนึ่งในสมาชิกคนสำคัญของ Bualuang Green Team เล่าความรู้สึกด้วยแววตาเป็นประกาย “วันนี้เป็นภาพที่แปลกตาสำหรับทุกคน ปกติพนักงานจะอยู่ที่ออฟฟิศ แต่วันนี้ได้ออกมาพบชาวบ้าน ได้พบธรรมชาติ เชื่อว่าจะสร้างประสบการณ์ที่ดีและได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมด้วยค่ะ”
เธอเล่าต่อว่าประสบการณ์ที่ได้รับมันลึกซึ้งกว่าที่คิด “พนักงานธนาคารอยู่ในเมืองเสียส่วนใหญ่ เหมือนอยู่ในป่าคอนกรีต เราปลูกได้แค่ต้นไม้ในกระถาง พอมาวันนี้ได้ปลูกป่าจริงๆ ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมากค่ะ”
ขณะที่ Bualuang Green Team เป็นเหมือนหัวรถจักรในการขับเคลื่อนพลังของพนักงานจิตอาสาก็คือเชื้อเพลิงที่ทำให้กิจกรรมนี้สำเร็จ คุณธนโชติ นนทกะตระกูล (เบส) พนักงานจิตอาสา สะท้อนความรู้สึกของเขาว่า “ผมคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ทำประโยชน์แก่สังคมและสิ่งแวดล้อม ส่วนตัวผมอยากจะอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้คนรุ่นต่อๆ ไปครับ”
ความรู้สึกยินดีนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับเขาคนเดียว แต่เป็นเสียงสะท้อนของพนักงานหลายคนที่รู้สึกภูมิใจที่องค์กรของตนเองมองไกลกว่าเรื่องธุรกิจ “ผมรู้สึกยินดีและดีใจมากครับ เพราะนอกจากธนาคารจะช่วยเหลือธุรกิจ SME แล้ว ก็ยังให้ความสำคัญกับชุมชนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการพัฒนาไปร่วมกันอย่างยั่งยืน”
สิ่งนี้สอดคล้องกับสิ่งที่ ดร. กอบศักดิ์ กล่าวย้ำถึงแนวคิด ‘เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน’ ในมิติที่ลึกซึ้งขึ้นว่าในยุคที่เทคโนโลยีอาจทำให้ความสัมพันธ์ห่างเหิน โครงการที่ได้ลงมาทำงานร่วมกับชุมชนอย่างใกล้ชิดเช่นนี้ คือการสร้างความผูกพันที่แท้จริง และเป็นบทพิสูจน์ว่าธนาคารกรุงเทพพร้อมจะเติบโตไปพร้อมกับสังคมไทยในทุกมิติ
การเดินทางของกิจกรรม “บัวหลวงรักษ์ป่า ตอน ปลูกป่าหลากสี” ในวันนี้อาจสิ้นสุดลงเมื่อตะวันลับขอบฟ้า แต่เมล็ดพันธุ์แห่งความหวังและความยั่งยืนที่ทุกคนได้ร่วมกันหย่อนลงบนผืนดินแห่งบ้านถ้ำเสือเพิ่งจะเริ่มต้นการเติบโต และนี่คือต้นแบบที่พิสูจน์ให้เห็นว่า พลังของความตั้งใจจริงสามารถพลิกฟื้นผืนดินที่แห้งแล้งให้กลายเป็นป่าหลากสีที่สร้างชีวิตชีวาให้ทั้งธรรมชาติและชุมชนได้อย่างยั่งยืน