หากคุณคิดว่าสูบพอดไม่ร้าย ไม่อันตราย ลองฟังความจริงจากผู้ป่วยวัยรุ่นเหล่านี้คุณจะเปลี่ยนใจ

หยุดสูบ ก่อนที่จะเสียลมหายใจของเราไปมากกว่านี้

บุหรี่ไฟฟ้าแทรกซึมเข้ามาในชีวิตประจำวันของสังคมไทย คนรุ่นใหม่ทั้งวัยรุ่น วัยทำงาน ลามไปถึงวัยเด็กเล็กที่มีอายุน้อย ได้ตกเป็นกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดของบุหรี่ไฟฟ้าถูกดึงดูดให้เข้าไปทดลอง จนนำพาไปถึงการเสพติดบุหรี่ไฟฟ้าอย่างไม่รู้ตัว แม้กลุ่มผู้สูบจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี บางคนไม่ถึงปี บางรายแค่ระยะสั้น บุหรี่ไฟฟ้าก็ได้เผยความร้ายกาจและทำอันตรายต่อตัวผู้สูบอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน

เราจึงอยากชวนคุณมาลองฟังเรื่องราวจริงของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อและได้รับอันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้า ว่าเหตุใดแม้หยุดสูบแล้วร่างกายก็ไม่อาจกลับไปเป็นเหมือนเดิม และในบางรายที่โชคร้ายก็ค่อยๆ เสีย "ลมหายใจ" ตัวเองไปทีละนิด

เมื่อ "ไอน้ำ" กลายเป็นไอน้ำมันระเหยที่มาพร้อมสารพิษร้าย

หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าสิ่งที่บุหรี่ไฟฟ้าปล่อยออกมา คือ "ไอน้ำ" ที่ไม่มีอันตรายไม่มีพิษ แต่แท้จริงแล้วสิ่งที่คุณเห็นคือ แอโรซอล (Aerosol) ซึ่งเป็นอนุภาคขนาดจิ๋วที่บรรจุสารเคมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น...

  • ฟอร์มาลดีไฮด์ (ฟอร์มาลีน) สารก่อมะเร็งที่ใช้ในการดองศพ
  • โพรไพลีนไกลคอล สารทำหมอกเทียมที่ระคายเคืองปอด
  • โลหะหนัก อย่าง ตะกั่ว ปรอท นิกเกิล จากขดลวดความร้อน
  • ที่สำคัญก็คือ อนุภาคเหล่านี้เล็กกว่าฝุ่น PM 2.5 ทำให้มันสามารถทะลุเข้าถุงลมลึกในปอดและทำลายเนื้อเยื่อได้ทันที

EVALI : โรคใหม่ที่คุณต้องรู้จัก

โรคปอดอักเสบรุนแรงจากบุหรี่ไฟฟ้า หรือที่เรียกกันว่า โรค EVALI (ย่อมาจาก E-cigarette or Vaping Product Use Associated Lung Injury) คือ โรคปอดอักเสบรุนแรงที่เชื่อมโยงตรงกับบุหรี่ไฟฟ้า เป็นคำที่แพทย์สหรัฐฯ เริ่มใช้หลังพบผู้ป่วยจำนวนมากเข้ารักษาด้วยอาการคล้ายติดเชื้อ ทั้งที่ไม่ได้ติดเชื้อจริง

กรณีจริงที่น่าตกใจ: เคสแรกในไทยเด็กหญิงวัย 14 ปี ป่วยเป็น EVALI หลังจากเริ่มสูบพอดตั้งแต่อายุ 13 ใช้เดือนละหนึ่งแท่ง สูบประมาณ 9,000 ครั้งต่อเดือน หยุดเพียง 2 เดือนก็เริ่มมีอาการเหนื่อย หายใจลำบาก จนต้องเข้ารักษาและได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น EVALI

ที่มา เคสเด็กหญิงวัย 14 ป่วย EVALI
https://web.facebook.com/share/p/19L5cE9ibC/ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_9726853 สำนักข่าวข่าวสด

ทั้งนี้ อาการของโรค EVALI มักดูเหมือนหวัดธรรมดา คือ มีไข้ หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก ไข้สูง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ทำให้แพทย์บางรายวินิจฉัยผิด และบางกรณีการรักษากลับไม่ทันการณ์เสียแล้ว

เมื่อปอดกลายเป็น "รังผึ้ง" เสื่อมสภาพแม้สูบพอดเพียงไม่กี่ปี

ในกรณีที่โชคดีไม่ถึงกับเสียชีวิต ผลกระทบยังคงตามมา โดยเฉพาะ "ภาวะปอดอักเสบจากสารเคมี" ที่ทำลายเซลล์ปอดโดยตรงมีผู้ป่วยวัยรุ่นอายุเพียง 10 ปีคนหนึ่งมีอาการไอ หอบ และเหนื่อยเรื้อรัง ผล CT Scan แสดงให้เห็นภาวะ EVALI ภาวะปอดอักเสบจากพวกสารเคมีในบุหรี่ไฟฟ้า เช่น พวกฟอร์มาลดีไฮด์ ไดอะซิทิล ซึ่งไประคายเคืองทำให้ปอดอักเสบและเผยให้เห็นปอดที่มีลักษณะเหมือน "รังผึ้ง" คือ ถุงลมปอดจำนวนมากเสื่อมสภาพอย่างถาวร ไม่สามารถกลับมาใช้งานได้อีก

นี่ไม่ใช่เรื่องของ "ปอดดำ" แต่คือโครงสร้างที่ยุบตัว ถุงลมเสียหาย ทำให้ออกซิเจนแลกเปลี่ยนไม่ได้ตามปกติ ผู้ป่วยต้องใช้แรงมากขึ้นในการหายใจ แค่เดินขึ้นบันไดก็เหนื่อยเหมือนวิ่งมาราธอน

ที่มา เคสเด็กวัย 10 ปีโครงสร้างปอดยุบจากบุหรี่ไฟฟ้า

"ปอดแตก" ไม่ใช่แค่คำพูดเปรียบเปรย

ภาวะปอดแตก หรือปอดรั่ว (Pneumothorax) เคยเป็นโรคของคนวัยกลางคน แต่ตอนนี้พบในวัยรุ่นที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น

มีเคสจริงที่เกิดขึ้นคือ ชายวัย 24 ปี อาชีพไรเดอร์ สูบพอดมา 2-3 ปี หยุดไปช่วงหนึ่ง และกลับมาสูบหนักช่วง 2 เดือนหลัง เกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่เต็มที่ เอกซเรย์พบปอดข้างขวาแตก ลมรั่วออกจากถุงลมเข้าไปในช่องอก ทำให้ปอดแฟบและเสี่ยงถึงชีวิต อีกกรณีคือชายวัย 20 ปี สูบบุหรี่มวนตั้งแต่เด็ก แล้วเปลี่ยนมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าอีก 2 ปี สุดท้ายก็ลงเอยด้วยภาวะเดียวกัน และในบางกรณี ผู้ป่วยต้องนอนโรงพยาบาลหลายเดือน รักษาด้วยการสอดสายยางดูดลม หรือต้องผ่าตัด

ดังนั้น คำว่า "ปอดแหก" ที่เราเคยใช้ล้อกัน อาจไม่ใช่แค่คำเปรียบเปรยอีกต่อไป

ที่มา เคสปอดแตกจากบุหรี่ไฟฟ้า
https://web.facebook.com/share/p/166FYoTs75/ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่

ทำไมน้ำยาที่อ้างว่า "ไม่มีนิโคติน" ถึงยังอันตรายอยู่ล่ะ

อย่าถูกหลอกด้วยคำว่า “กลิ่นผลไม้” หรือ “ไม่มีนิโคติน” เพราะน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าหลายชนิดใส่นิโคตินไว้โดยไม่แจ้งในฉลาก และแม้ไม่มีนิโคตินเลย สารแต่งกลิ่นก็อาจเป็นพิษต่อปอดได้เช่นกัน เช่น “ไดอะซิติล” ที่เคยพบในกรณีคนงานโรงงานป๊อปคอร์นสูดกลิ่นเนยเทียมแล้วปอดพังถาวร (เรียกว่า ปอดป๊อบคอร์น หรือ Popcorn Lung)

ยิ่งกว่านั้น กลไกการทำความร้อนในบุหรี่ไฟฟ้ายังอาจทำให้เกิดสารเคมีใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทดสอบกับร่างกายมนุษย์มาก่อน ซึ่งอันตรายยิ่งกว่าที่เรารู้ในปัจจุบันด้วยซ้ำ

เลิกได้ ถ้าเริ่มวันนี้ เลิกสูบ ไม่ใช่เพราะกลัวตาย แต่เพราะอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น

เราไม่ต้องเลิกเพราะกลัวตาย แต่เพราะอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อจะได้ไม่ต้องนั่งนับลมหายใจ คุณเริ่มต้นด้วยตัวเองได้ตั้งแต่วันนี้ ลองทำตามนี้ดูสิ

  • อย่าเลิกลำพัง ให้ปรึกษาแพทย์หรือสายด่วนเลิกบุหรี่ 1600
  • เลี่ยงสิ่งกระตุ้น หลีกเลี่ยงกลุ่มเพื่อนเดิม หรือสถานการณ์ที่ทำให้อยากสูบ
  • บันทึกความเปลี่ยนแปลง หรือจะใช้วิธีสังเกตดูว่าร่างกายดีขึ้นอย่างไรในแต่ละวันก็ได้
  • ใช้แอปช่วย เช่น QuitNow, Smoke Free, QuitBot, quitSTART หรืออีกหลายตัว ที่จะช่วยให้คุณเลิกบุหรี่ได้ด้วยเคล็ดลับ แรงบันดาลใจ และความท้าทายที่เหมาะกับคุณ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมพร้อมที่จะเลิกบุหรี่ด้วยเคล็ดลับและข้อมูลเพื่อเตรียมคุณให้พร้อมสำหรับการเลิกบุหรี่ ติดตามความคืบหน้าของคุณและรับป้ายสำหรับความสำเร็จในการปลอดบุหรี่และความสำเร็จอื่น ๆ
  • ให้เวลาตัวเอง อย่าคาดหวังผลชั่วข้ามคืน

    และคำถามสำคัญที่คุณควรถามตัวเอง ก็คือ

  • คุณหายใจได้เต็มปอดเหมือนเมื่อก่อนไหม
  • คุณรู้จักสารเคมีที่สูบเข้าไปหรือเปล่า
  • คุณเคยตรวจปอดบ้างไหม
  • คุณคิดว่า "พอดหนึ่งแท่ง" จะไม่ทิ้งร่องรอยในร่างกายจริงหรือ

อย่ารอให้ปอดพังแล้วค่อยหยุด หยุดวันนี้ เพราะปอดคุณยังมีโอกาสฟื้นได้ทัน

หากคุณหรือคนที่คุณรักต้องการความช่วยเหลือในการเลิกบุหรี่ไฟฟ้า สามารถติดต่อสายด่วนเลิกบุหรี่ 1600 หรือปรึกษาแพทย์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

หากคุณยังคงเชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่อันตราย หรืออันตรายน้อยกว่า ตามคำกล่าวอ้างของอุตสาหกรรม ผู้จัดจำหน่าย หรือผู้ใช้งานเอง โปรดพิจารณาข้อมูลอันตรายที่แท้จริงเหล่านี้จาก คู่มือบุหรี่ไฟฟ้ารู้ไว้ร้ายจัด ที่ สสส. ตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อประชาชนโดยเฉพาะ

ดาวน์โหลด คู่มือบุหรี่ไฟฟ้ารู้ไว้ร้ายจัด ฉบับเต็มได้ฟรี! เพื่อเข้าถึงข้อมูลที่ทันสมัย น่าสนใจ และครบถ้วน ซึ่งจะช่วยให้ท่านมีข้อมูลที่เพียงพอในการตัดสินใจปกป้องตนเองและคนที่คุณรัก
https://creativehealthcampaign.thaihealth.or.th/microsite/icanchange/Tobacco/บุหรี่ไฟฟ้า/content/4632