ครอบครัวเศร้า เตรียมจัดงานศพ "พลทหารพิทยุตม์" พลทหารใจกล้าที่เคยโต้เถียง "โมนิก้า" หญิงกัมพูชาที่ปราสาทตาเมือนธม ยายเผยเศร้า หลานสมัครเข้าไปทหารหวังได้เรียนหนังสือต่อ ยังไม่ได้กลับมาบ้านตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะ
วันที่ 24 ส.ค. 68 จากกรณีที่ พลทหารพิทยุตม์ โสดา หรือ น้อย หรือที่ชาวโซเชียลรู้จักกันในชื่อ "น้องยักษ์" อายุ 20 ปี สังกัด ร.23 พัน 4 ประจำการอยู่ที่ปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นพลทหารที่เคยปรากฏเป็นข่าวโต้เถียงกับหญิงชาวกัมพูชาชื่อ "โมนิก้า" ที่ปราสาทตาเมือนธมก่อนเหตุการณ์การสู้รบไม่นานนักได้เสียชีวิตลง เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (23 ส.ค. 68) ภายในห้องน้ำบริเวณฐานปฏิบัติการปราสาทตาเมือนธม ด้วยอาการวูบจากโรคประจำตัว ซึ่งเพื่อนๆ ทหาร ระบุว่า พลทหารพิทยุตม์ มีโรคประจำตัว และเคยอาเจียนออกมาเป็นเลือดก่อนหน้านี้ ก่อนจะถูกนำตัวไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลและรับยามารับประทาน และต้นสังกัดให้พักรักษาตัวจนกว่าอาการจะทุเลา แต่พลทหารพิทยุตม์ไม่ยอม บอกเป็นห่วงเพื่อนๆ ที่สถานการณ์ยังตรึงเครียดอยู่ ขอมาปฏิบัติหน้าที่เหมือนเดิม ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
...
ล่าสุดวันที่ 24 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.หนองกง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ บ้านของพลทหารพิทยุตม์ พบว่าชาวบ้านได้ออกมาช่วยกันเตรียมจัดงานศพ
โดยนางจัด ประสงทรัพย์ อายุ 70 ปี น้องสาวยายของพลทหารน้อย เล่าว่า หลานเป็นคนอาภัพ พ่อแม่แยกทางกันไม่ได้เรียนหนังสือ ตอนอายุ 18 ปี ได้สมัครเข้าเป็นทหารที่ค่าย ร.23 พัน 4 บุรีรัมย์ หวังจะได้เรียนหนังสือต่อ พอมีความตึงเครียดได้ถูกส่งไปแนวชายแดนที่ จ.สุรินทร์ ตั้งแต่นั้นมายังไม่ได้กลับบ้าน ทราบว่าพักแล้ว แต่ยังไม่ขอกลับ อยากอยู่เป็นเพื่อนๆ ทหารที่ชายแดน ตอนที่ไปโต้เถียงกับทหารเขมร ยอมรับเป็นห่วง กลัวเขาจะทำร้ายแต่ก็ดีใจที่หลานมีใจเด็ดเดี่ยว
ด้านนางชวนพิมพ์ พรมพนัส อายุ 60 ปี ประธาน อสม. หมู่ 7 ต.หนองกง อ.นางรอง เล่าว่า ตอนที่น้องไปปะทะคารมกับทหารเขมร ชาวบ้านที่ดูข่าวต่างเอาใจช่วยและปรบมือให้และตั้งใจเอาไว้ว่าหากน้องกลับมา ชาวบ้านจะแจกทิปให้คนละร้อย แต่เสียดายที่น้องเสียชีวิตไปก่อนวัยอันควร.