"หนี้การศึกษา" อาจถือเป็นหนี้ก้อนแรกในชีวิตของใครหลายคน และนับเป็นภาระทางการเงินที่ต้องจัดการอย่างรอบคอบ หากไม่วางแผนให้ดี หนี้ก้อนนี้อาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการเริ่มต้นชีวิตวัยทำงานและเป้าหมายในอนาคตได้
ซึ่งอันดับแรกสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจก่อนคือ เงินกู้เพื่อการศึกษา “ไม่ใช่เงินให้เปล่า” มีกำหนดชำระหนี้ มีอัตราดอกเบี้ย และถ้าผิดนัดชำระหนี้ ขาดการติดต่อ หรือหนีหนี้ อาจนำไปสู่การถูกฟ้องร้องดำเนินคดี หรือยึดทรัพย์ได้ คนที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดหากหนี้ไม่ถูกชำระคือ ตัวผู้กู้ เนื่องจากจะถูกดำเนินคดีแล้ว ยังส่งผลกระทบถึงน้อง ๆ รุ่นหลังจะหมดโอกาสกู้เรียน เพราะไม่มีเงินเข้ามาหมุนเวียนในระบบ
ในครั้งนี้ Thairath Money มีแนวทางในการบริหารหนี้การศึกษาให้หมดไว ไม่ว่าจะเป็นหนี้ กยศ., กรอ. กสศ. หรือหนี้การศึกษาจากแหล่งอื่น ๆ
1. รู้จักหนี้ตัวเองให้ลึกซึ้ง
ก่อนจะเริ่มจ่ายหนี้ สิ่งแรกคือต้องรู้รายละเอียดของหนี้ทั้งหมดที่มีก่อน
- จำนวนเงินต้นคงเหลือ เป็นหนี้อยู่เท่าไหร่ เป็นหนี้ประเภทไหนบ้าง เจ้าหนี้คือใคร ซึ่งตรงจุดนี้ต้องทำความเข้าใจให้ถี่ถ้วน
- อัตราดอกเบี้ย ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่อปีคือเท่าไหร่ หนี้บางประเภทอาจมีอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน ดังนั้นต้องศึกษารายละเอียดให้ครบถ้วน
- เงื่อนไขการชำระ หนี้แต่ละก้อนมีกำหนดชำระอย่างไร มีค่าปรับหรือไม่หากจ่ายล่าช้า และสามารถแบ่งจ่ายได้หรือไม่ หรือมีโปรโมชั่นใดบ้างที่จะมาช่วยลดภาระตรงจุดนี้
ซึ่งการที่มีข้อมูลที่ครบถ้วนจะช่วยให้สามารถวางแผนการจ่ายหนี้ได้อย่างแม่นยำ และทำให้การเงินไม่สะดุด
2 สูตร เคลียร์หนี้ ให้จบในชีวิตจริง
2. จัดการหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงก่อน
หากมีหนี้การศึกษาหลายก้อนที่มีอัตราดอกเบี้ยต่างกัน ให้พิจารณาใช้วิธี "Snowball" หรือ "Avalanche"
- วิธี "Avalanche" (การจ่ายแบบถล่มทลาย)
โดยเป็นการเน้นจ่ายหนี้ที่มี อัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน เพราะหนี้เหล่านี้ทำให้คุณเสียเงินไปกับดอกเบี้ยมากที่สุดในระยะยาว เมื่อหนี้ก้อนที่ดอกเบี้ยสูงหมดไปแล้ว ค่อยนำเงินที่เคยจ่ายไปโปะหนี้ก้อนถัดไปที่มีดอกเบี้ยสูงรองลงมา วิธีนี้จะช่วยประหยัดเงินค่าดอกเบี้ยได้มากที่สุด
- วิธี "Snowball" (การจ่ายแบบลูกบอลหิมะ)
เน้นจ่ายหนี้ก้อนที่มี ยอดหนี้น้อยที่สุดก่อน เมื่อหนี้ก้อนแรกหมดลง คุณจะรู้สึกเหมือนได้ชัยชนะเล็ก ๆ และมีกำลังใจที่จะไปต่อ จากนั้นให้นำเงินที่เคยจ่ายหนี้ก้อนแรกไปโปะหนี้ก้อนถัดไปที่มียอดน้อยที่สุด วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการกำลังใจในการจ่ายหนี้อย่างต่อเนื่อง
3. ตั้งเป้าหมายการชำระหนี้ให้ชัดเจน
อย่ารอให้ถึงกำหนดจ่ายหนี้ แต่ให้วางแผนการจ่ายหนี้อย่างมีวินัย เช่น ตั้งเป้าหมายว่าในแต่ละปีจะจ่ายหนี้เพิ่มอีกกี่เปอร์เซ็นต์ หรือจะโปะหนี้ในแต่ละเดือนให้เกินยอดขั้นต่ำไปเท่าไหร่ การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนจะทำให้คุณมีแรงจูงใจและเห็นภาพรวมของความก้าวหน้า
4. สร้างรายได้เสริมเพื่อโปะหนี้
การจ่ายหนี้ให้หมดไวขึ้น ทางที่ดีที่สุดคือการมีเงินจ่ายเพิ่มขึ้น ลองมองหาช่องทางสร้างรายได้เสริมที่เหมาะสมกับตัวเอง เช่น
- งานอิสระ (Freelance) โดยการใช้ทักษะที่มี เช่น การเขียน, การออกแบบ, การแปล หรือการสอนพิเศษ
- ขายของออนไลน์ หากมีความสนใจในการค้าขาย ลองนำของที่ไม่ใช้แล้วหรือสินค้าทำมือมาขาย
- ทำงานพิเศษหลังเลิกงาน เช่น เป็นพนักงานพาร์ทไทม์ หรือรับงานบริการตามความสนใจ
นำเงินที่ได้จากรายได้เสริมมาโปะหนี้โดยเฉพาะ จะช่วยลดเงินต้นและระยะเวลาในการเป็นหนี้ได้อย่างเห็นผล
5. ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น
นอกจากจะหารายได้เพิ่มแล้ว การลดรายจ่ายก็เป็นสิ่งสำคัญ ลองสำรวจค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนว่ามีอะไรที่สามารถตัดออกได้บ้าง เช่น ค่าสมัครสมาชิกสตรีมมิ่งที่ไม่ค่อยได้ดู, ค่ากาแฟแพง ๆ หรือการทานข้าวนอกบ้านบ่อย ๆ นำเงินที่ประหยัดได้ไปจ่ายหนี้ให้เร็วขึ้น
การจัดการหนี้การศึกษาไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไป เพียงแค่เริ่มต้นจากการทำความเข้าใจหนี้ของตัวเอง และวางแผนการจ่ายอย่างมีวินัย ไม่ว่าหนี้ก้อนนี้จะมากแค่ไหน คุณก็สามารถเอาชนะมันได้และเดินหน้าสู่เป้าหมายทางการเงินที่คุณวาดฝันไว้ในที่สุด ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กในวัยมหาวิทยาลัย หรือ คนที่เพิ่งเรียนจบหมาดๆ ก็สามารถหมดหนี้ได้ไม่ว่าเงินก้อนนั้นจะมีมูลค่าเท่าไหร่ก็ตาม
อ้างอิง thairathmoney , สำนักนายกรัฐมนตรี