ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดงานสัมมนา “การขับเคลื่อนมาตรฐานการศึกษาของชาติ :  AI for Education ปั้นคนไทยสู่อนาคต 5.0” ตอนหนึ่งว่า บทบาทของปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาการศึกษาไทยตั้งแต่ปี 2561 และมีการต่อยอดอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ในการประชุมคณะกรรมการสภาการศึกษาแห่งชาติเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบในหลักการทิศทางการพัฒนาทุนมนุษย์ (Human Capital) ของประเทศ สิ่งสำคัญต่อจากนี้คือการผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรม ไม่ใช่เพียงนโยบายเชิงนามธรรม ในประเด็นจริยธรรมก็ยังเป็นข้อกังวล เช่น การนำผลงานวิจัยหรือรายงานที่สร้างด้วย AI มาอ้างว่าเป็นผลงานของตนเอง โดยไม่ระบุที่มา ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมเพื่อให้การใช้ AI ในการศึกษามีความถูกต้อง เหมาะสม และสร้างคุณค่าที่แท้จริงต่อสังคมไทย

รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า ปัจจุบันบุตรหลานของเราเติบโตมาในยุคที่ AI มีบทบาทสูง เด็กๆมักไม่ถามพ่อแม่หรือครูเหมือนในอดีต แต่เลือกใช้แอปพลิเคชันและเครื่องมือ AI อย่าง ChatGPT ในการค้นหาคำตอบแทน ซึ่งแม้จะมีข้อดีที่ช่วยให้เด็กเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วและหลากหลาย แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือเด็กไม่ได้ถามแค่เรื่องวิชาการ แต่ยังถามเรื่องเกี่ยวกับจิตใจหรือปัญหาส่วนตัวด้วย ซึ่งในต่างประเทศเริ่มมีกรณีผู้ปกครองยื่นฟ้องบริษัทผู้พัฒนา AI หลังจากลูกหลานได้รับคำแนะนำจาก AI และนำไปสู่การตัดสินใจยุติชีวิตตนเอง

“แม้ AI จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความรู้ความสามารถให้กับผู้เรียน แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางจิตใจและอารมณ์ในอนาคต หากขาดการดูแลที่เหมาะสม และอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่น่าเสียใจ จึงขอฝากให้สภาการศึกษาช่วยกันดูแลอย่างใกล้ชิด ทำหน้าที่เป็นหูเป็นตา และพิจารณานำประเด็นดังกล่าวบรรจุในแผนการศึกษาแห่งชาติ เพื่อให้สังคมไทยมีเครื่องมือและแนวทางป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ให้เด็กไทยได้รับผลกระทบทางจิตใจจากการใช้ AI” ศ.ดร.นฤมลกล่าว.

...


อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่