อุบัติเหตุสลด "พยาบาลห้องฉุกเฉิน" ลงช่วยผู้บาดเจ็บจากรถชนเสาไฟฟ้า สุดท้ายพบเป็น "แฟนหนุ่มตัวเอง" เสียชีวิต
เมื่อเวลา 00.45 น. วันที่ 6 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา พร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์พุ่งชนเสาไฟฟ้าบริเวณสี่แยกทุ่งมะขามหย่อง ถนนสาย 347 ตัดกับถนน 309 ตำบลวัดตูม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จึงเร่งรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์อเนกประสงค์ มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีขาว ทะเบียน 1กธ 1767 กรุงเทพมหานคร ชนติดอัดแน่นกับเสาไฟฟ้ากลางเกาะถนน สภาพหน้ารถพังยับเยิน โดยเฉพาะบริเวณด้านคนขับ มีผู้บาดเจ็บติดอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องตัดถ่างช่วยนำร่างออกจากซากรถ ใช้เวลานานกว่า 30 นาที
...
ขณะที่ เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติงาน ได้มีหญิงสาวรายหนึ่งจอดรถลงมาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บด้วยความเร่งรีบ โดยไม่ทราบว่าผู้ประสบเหตุคือแฟนหนุ่มของตนเอง เนื่องจากทั้งคู่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา โดยฝ่ายชายขับรถนำออกมาก่อนประมาณ 5 นาที
ส่วนฝ่ายหญิงซึ่งเป็นพยาบาลห้องฉุกเฉิน ได้ขับตามมาทีหลังเพื่อเดินทางกลับบ้านที่อำเภอบางปะหัน ซึ่งเมื่อเธอพบอุบัติเหตุรถชนเสาไฟฟ้า จึงรีบลงจากรถเพื่อให้การช่วยเหลือตามหน้าที่โดยไม่รู้ว่าผู้ประสบเหตุนั้นคือแฟนหนุ่มของตัวเอง จนกระทั่งเห็นใบหน้าอย่างชัดเจน จึงถึงกับช็อกและร้องไห้ด้วยความเสียใจ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา พร้อมกับพยาบาลสาวที่คอยปั๊มหัวใจและดูแลระหว่างทางอย่างสุดความสามารถ
ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บอาการสาหัสเกินกว่าจะยื้อชีวิตไว้ได้ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายสมนึก อายุ 42 ปี เป็นแฟนหนุ่มของพยาบาลสาวผู้ให้ความช่วยเหลือในที่เกิดเหตุ
จากการสอบถามพยาบาลสาว เผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ก่อนเกิดเหตุแฟนหนุ่มได้ขับรถมารอรับหน้าโรงพยาบาล และขับออกไปก่อนเธอประมาณ 5 นาที กระทั่งมาเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิดนี้ ซึ่งเธอไม่เคยคิดว่าจะเป็นบุคคลใกล้ตัว จึงทำหน้าที่พยาบาลตามปกติ ก่อนจะพบว่าเป็นคนรักของตัวเองก็รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง
ทางด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ซึ่งอยู่บริเวณสี่แยกทุ่งมะขามหย่อง ต.วัดตูม อ.พระนครศรีอยุธยา พบว่ารถชนเสาไฟฟ้าแรงสูงบริเวณเกาะกลางถนน ส่งผลให้รถพังเสียหายหนัก เบื้องต้นได้นำศพส่งชันสูตรยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จังหวัดปทุมธานี และอยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ต่อไป.