กรมอุทยานฯ แสดงความเสียใจ เหตุสิงโตรุมขย้ำเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ สั่งพักโซนสัตว์ดุร้าย "ซาฟารีเวิลด์" เร่งทบทวนมาตรการความปลอดภัย ด้าน ผอ.กองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าฯ เผยสิงโตที่ก่อเหตุ มีอายุมากกว่า 20 ปี

วันที่ 10 กันยายน 2568 จากกรณีเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์เสียชีวิตจากเหตุสิงโตทำร้ายในสวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้พักการให้บริการซาฟารีโซนสัตว์ดุร้าย ของสวนสัตว์เป็นการชั่วคราว พร้อมสั่งให้สวนสัตว์เร่งจัดทำแผนมาตรการด้านความปลอดภัยใหม่ เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด

กรมอุทยานฯ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และจะดำเนินการตรวจสอบเหตุการณ์นี้อย่างเข้มงวด แม้สวนสัตว์จะได้รับอนุญาตให้เปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่กรมฯ จะตรวจสอบว่าการครอบครองสิงโตจำนวน 32 ตัวที่เหลืออยู่เป็นไปตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 หรือไม่ และให้สวนสัตว์ส่งแผนมาตรการด้านความปลอดภัยมาพิจารณาภายใน 2 วัน นอกจากนี้ กรมฯ จะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสวนสัตว์เปิดอีก 5 แห่งทั่วประเทศ จากเดิมที่ตรวจทุก 1-3 เดือน เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชน

ด้านนายเฉลิม พุ่มไม้ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กล่าวเสริมว่า กรมฯ จะนำมาตรการ 23 ข้อสำหรับสวนสัตว์มาทบทวนเพิ่มเติม โดยเฉพาะเรื่องแนวเขตป้องกันระหว่างคนกับสัตว์ และการติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่เสี่ยง ส่วนสาเหตุที่เจ้าหน้าที่ลงจากรถขณะเกิดเหตุนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ขณะที่ นายสดุดี พันธุ์ภักดี ผู้อำนวยการกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา (CITES) ชี้แจงว่า สิงโตที่ก่อเหตุมีอายุมากกว่า 20 ปี และแม้เจ้าหน้าที่ผู้เสียชีวิตจะคุ้นเคยกับสัตว์ แต่สัตว์ทุกชนิดก็ยังมีสัญชาตญาณความเป็นผู้ล่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่ทำงานกับสัตว์ดุร้ายต้องตระหนักถึงจุดนี้เสมอ และไม่ควรหันหลังให้สัตว์ เนื่องจากสิงโตเป็นสัตว์ป่าควบคุมชนิด ก (ดุร้าย) สัญชาตญาณของสิงโตไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ของ "นักล่า" แต่เป็นพฤติกรรมธรรมชาติที่สิงโตต้องมีเพื่อความอยู่รอด แม้ในสิงโตเลี้ยง (captivity) ที่มีอาหารพร้อม แต่ก็ยังคงแสดงออก เช่น ไล่จับของเล่น ขย้ำเหยื่อจำลอง

...