สาธารณสุขอำเภอขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เตือนเกษตรกร-ผู้สูงอายุ ที่ย่ำน้ำหรือสัมผัสสัตว์ที่เป็นพาหะ ให้ระวังโรคฉี่หนู พร้อมให้ความรู้ในการป้องกันตนเอง เพื่อลดอัตราผู้ป่วย แนะหากพบอาการไข้สูงหลังสัมผัสแหล่งเชื้อโรคให้รีบไปพบแพทย์ทันที...

วันที่ 24 ส.ค. 58 นายศักดิ์สิน กุลบุตรดี ประธานคณะกรรมการประสานงานสาธารณสุขอำเภอขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ขณะนี้ สถานการณ์การเกิดโรคฉี่หนูของอำเภอขุนหาญ มีผู้ป่วยแล้ว จำนวน 14 ราย แต่ยังไม่พบผู้เสียชีวิต สำหรับอาชีพที่เป็นกลุ่มเสี่ยงได้แก่ อาชีพเกษตรกรรม และผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลงตามวัย

ส่วนเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคได้อาศัยอยู่ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น วัว ควาย และหนู ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูการทำนา ดังนั้น หน่วยงานด้านสาธารณสุขมีความจำเป็นต้องดำเนินการเฝ้าระวัง ประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ โดยเน้นให้ความรู้กับประชาชนในการป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อ ซึ่งจะเป็นการลดจำนวนผู้ป่วยและลดอัตราป่วยตายได้ในระยะยาว

นายศักดิ์สิน กล่าวต่อว่า มาตรการคัดกรองผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยงเพื่อให้รักษาอย่างทันท่วงทีนั้น สำหรับอำเภอขุนหาญ ให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทำการคัดกรองผู้ป่วย ค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก โดยวัดไข้ สอบถามอาการไข้ ตรวจดูอาการเลือดออกที่ใต้เปลือกตาทั้ง 2 ข้าง และประวัติย่ำน้ำหรือสัมผัสสัตว์ หากพบว่าผู้ป่วยมีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะรุนแรง ปวดกล้ามเนื้อที่น่อง ต้นขา และสะโพก พร้อมมีประวัติลุยน้ำ แช่น้ำ และสัมผัสแหล่งน้ำซึ่งเป็นแหล่งเชื้อโรค ต้องรีบแนะนำผู้ป่วยให้รับการตรวจรักษาจากโรงพยาบาลใกล้บ้านโดยทันที เพื่อเป็นการป้องกันและลดอัตราการป่วยของโรคดังกล่าว

“เชื้อโรคฉี่หนูสามารถเข้าสู่ร่างกายได้โดยการเข้าทางบาดแผลหรือเยื่อบุอ่อนๆ ของร่างกาย เช่น ง่ามมือ ง่ามเท้า ตา ขณะที่แช่นํ้า หรือการรับประทานอาหารที่ไม่สะอาดมีฉี่หนูปนเปื้อนในอาหารนั้นๆ การป้องกันการติดเชื้อ เกษตรกร ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง ต้องระวังป้องกันตนเองด้วยการสวมรองเท้าบู๊ตเวลาลุยน้ำ เมื่อลุยน้ำมาต้องล้างด้วยสบู่และน้ำสะอาด” นายศักดิ์สิน กล่าว

...