พ่อค้าแม่ค้าเห็นด้วยฟื้นโครงการ "คนละครึ่ง" หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ จูงใจให้คนใช้จ่าย แต่กังวลกลัวว่าระยะเวลาแค่ 4 เดือนจะทำไม่ทัน ขณะที่บางคนยังหวังเงินหมื่น
วันที่ 8 ก.ย. 68 จากกรณีมีกระแสข่าวว่า รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล เตรียมหยิบนโยบายยอดนิยมอย่าง "คนละครึ่ง" มาปัดฝุ่น ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้งในช่วงเวลาเพียง 4 เดือนก่อนการ “ยุบสภา” เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่
ซึ่งบรรยากาศที่ตลาดสิริวัฒนา อ.เมืองเชียงใหม่ พ่อค้าแม่ค้าเริ่มมีรอยยิ้มจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้น นางสาวผณินทรา จันทน้อย แม่ค้าร้านแหนมเนือง บอกว่า คนละครึ่งในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วยกระตุ้นการค้าขายให้คึกคักอย่างเห็นได้ชัด หากนำกลับมาใช้ได้อีกครั้ง คาดว่าจะส่งผลดีช่วยเพิ่มยอดขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าได้มากขึ้น เนื่องจากช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี หากเป็นไปได้ก็อยากให้เพิ่มวงเงินมากขึ้นกว่าเดิม และอยากให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด
นางพรรณี คูหะมณี แม่ค้าขนมหวาน บอกเหมือนกันว่าโครงการคนละครึ่งจะช่วยให้ประชาชนตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น เพราะรัฐบาลช่วยจ่ายให้ครึ่งหนึ่ง พ่อค้าแม่ค้าก็ได้รับอานิสงส์ยอดขายเพิ่มขึ้น ซึ่งอยากให้รัฐบาลรีบทำ เพราะมั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และดีกว่านโยบายแจกเงินหมื่น
...
ส่วนที่ตลาดสดเทศบาล 1 เขตเทศบาลนครขอนแก่น นางทิวารัตน์ สร้อยสุวรรณณ์ อายุ 43 ปี เจ้าของร้านสุวิมล ผลไม้ กล่าวว่า โดยส่วนตัวคิดว่าโครงการคนละครึ่งไม่น่าจะทำได้ในระยะเวลาเพียงแค่ 4 เดือน เหมือนการขายฝัน เพราะน่าจะอนุมัติไม่ทัน อีกทั้งเงินก้อนใหญ่จะเอางบฯ ที่ไหนมาทำ จึงอยากให้เอางบฯ ไปช่วยชายแดน และแก้ปัญหาน้ำท่วมภาคเหนือ หรือแก้ปัญหาเร่งด่วนก่อน
"อยากให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ทำให้ดีสมกับที่ดีใจที่ได้เป็นนายกฯ เราเห็นตั้งแต่โหวตเสร็จ รับตำแหน่งมา ยิ้มดีใจหน้าบานมีความสุข ทำให้ดีสมกับที่ได้รับเลือกมา ถ้าทำดี ทำได้จริง เลือกตั้งครั้งหน้าคะแนนและความไว้วางใจน่าจะตามมา ฉะนั้นแล้วต้องทำให้ดีที่สุด อย่าให้เสียชื่อตัวเอง"
ขณะที่นายพลวัฒน์ ดอนตระกลู อายุ 36 ปี พ่อค้า กล่าวว่า เป็นโครงการที่ดี มองว่าถ้าเอากลับมาทำอีก เพราะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี ตอนมีโครงการรอบที่แล้วก็ขายดี แต่ 4 เดือนที่เข้ามา คิดว่าไม่น่าจะทำได้จริง เพราะว่าเวลามันสั้นไป และงบฯ ที่จะใช้ต้องเป็นงบฯ ที่เยอะ เพราะรอบที่แล้วแจกคนละหมื่นยังไม่ได้ตั้งหลายคน
ด้านนางเพ็ชรัตน์ กองพลพรหม อายุ 58 ปี แม่ค้า กล่าวว่า ยังอยากได้เงิน 10,000 บาท ที่รัฐบาลชุดที่แล้วว่าจะให้ ก็อยากให้นายกฯ มาช่วยผลักดันให้ได้เงินหมื่นอีกครั้ง น่าจะกระตุ้นได้ดีกว่าคนละครึ่ง