(ภาพประกอบเนื้อข่าว)

"กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช" สั่งกักตัว 5 สิงโต ทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ เพื่อปรับพฤติกรรม หากปล่อยให้เคยชินกับการทำร้ายมนุษย์ จะยิ่งเป็นอันตรายในอนาคต


วันที่ 11 ก.ย. 2568 ที่อาคารสืบนาคเสถียร ชั้น 12 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เผยว่า จากภาพข่าวและข้อมูลที่ได้รับรายงานพบว่าสิงโตทั้งหมดได้จู่โจมกัดเจ้าหน้าที่จนบาดเจ็บสาหัส ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้นั้น

อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางกรมอุทยานฯ จะต้องเข้มงวดมาตรการความปลอดภัยมากขึ้น โดยในเบื้องต้นสั่งปิดพื้นที่โซนสัตว์ดุร้ายทันที เพื่อตรวจสอบทุกด้าน ทั้งความแข็งแรงของกรงและพื้นที่ป้องกันไม่ให้สัตว์หลุดออกมา รวมถึงมาตรการดูแลนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ว่าจะมีความพร้อมเพียงพอหรือไม่ เช่น การจัดหาอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉิน การมีชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว รวมถึงการเตรียมอุปกรณ์หยุดยั้งสัตว์ เช่น กระบองไฟฟ้า ปืนยิงยาสลบ หรืออุปกรณ์ควบคุมอื่นๆ

จากเหตุการณ์ครั้งนี้ใช้เวลานานกว่าจะเข้าช่วยเหลือผู้เสียชีวิตได้ ถือเป็นบทเรียนที่ต้องปรับปรุง ต้องมีการกำหนดบัดดี้และอุปกรณ์ความปลอดภัยที่เพียงพอ เพราะหากไม่ใช่เจ้าหน้าที่ แต่เป็นนักท่องเที่ยวที่ถูกทำร้าย ผลกระทบจะรุนแรงยิ่งกว่า

พร้อมกันนี้ยังสั่งการให้ตรวจสอบการครอบครองสัตว์ป่าดุร้ายทั่วประเทศ โดยสัตว์ต้องถูกเลี้ยงในกรงที่ได้มาตรฐาน หากพบเลี้ยงผิดเงื่อนไขหรือไม่ได้แจ้งจดทะเบียน จะต้องดำเนินคดีทั้งทางอาญาและแพ่ง รวมถึงอาจยึดสัตว์ไปดูแลต่อที่กรมอุทยานฯ ซึ่งผู้ครอบครองต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด

...

ปัจจุบันมีสัตว์ป่าที่ขึ้นทะเบียนกับกรมอุทยานฯ กว่า 620 ตัว และตั้งแต่ปี 2567 ได้มีคำสั่งห้ามนำเข้าสัตว์ป่าดุร้ายเพิ่มเติม เนื่องจากเพียงพอต่อการเพาะเลี้ยงในประเทศแล้ว

ส่วนกรณีสิงโตที่ก่อเหตุ 5 ตัวนั้น ขณะนี้ถูกกักตัวไว้ก่อน เพื่อปรับพฤติกรรม เนื่องจากหากปล่อยให้เคยชินกับการทำร้ายมนุษย์ จะยิ่งเป็นอันตรายในอนาคต โดยจะต้องประเมินอย่างรอบคอบว่าจะสามารถนำกลับมาแสดงต่อสาธารณะได้หรือไม่

สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ อาจเกิดจากความประมาทของเจ้าหน้าที่เองที่ลงจากรถเข้าใกล้สัตว์ แม้จะคุ้นเคยหรือดูแลสัตว์เหล่านี้มานาน แต่ก็ไม่ควรประมาท เพราะสัตว์ป่าย่อมมีสัญชาตญาณนักล่าเสมอ หลังจากนี้จะเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะกิจกรรมที่ให้นักท่องเที่ยวใกล้ชิดสัตว์ดุร้าย เช่น การถ่ายรูปหรือการให้อาหาร จะต้องกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยที่ชัดเจน หากทำไม่ได้ตามเกณฑ์ก็ต้องยกเลิก

ทั้งนี้ ทางกรมอุทยานยังย้ำว่า ทุกสวนสัตว์จำเป็นต้องมีการซ้อมแผนความปลอดภัยตามระเบียบที่กรมอุทยานฯ กำหนด และจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบต่อเนื่อง เพื่อป้องกันโศกนาฏกรรมลักษณะนี้ไม่ให้เกิดซ้ำอีก.