หลังการชันสูตร ญาติรับศพ "นายเจียน" เจ้าหน้าที่ถูกสิงโตขย้ำ ในซาฟารีเวิลด์ บำเพ็ญกุศล โดยจะเก็บศพไว้ 3 ปี ตามความเชื่อชาวมอญ ขณะที่ซาฟารีเวิลด์ จ่ายเยียวยาเบื้องต้น ตามกองทุนสวัสดิการ

วันที่ 11 ก.ย. 68 จากกรณี นายเจียน อายุ 58 ปี เจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ ซาฟารีเวิลด์ ถูกฝูงสิงโตรุมขย้ำจนเสียชีวิต โดยแพทย์เผยผลชันสูตรพบว่า ผู้ตายมีบาดแผลฉกรรจ์ทั่วร่าง ลำคอ แขนขา ถึงขั้นกระดูกหัก และเส้นเลือดฉีกขาด ส่วนอวัยวะอยู่ครบ ไม่ได้โดนกิน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เก็บศพ 3 ปี ตามความเชื่อชาวมอญ

ความคืบหน้า ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ หลังชันสูตรแล้ว นางสาวรัตนา รังคะรัสมี อายุ 51 น้องสาวคนเล็ก ของนายเจียน ได้นำเอกสารมาทำเรื่องรับศพพี่ชาย ไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา โดยได้นำเอาชุดที่พี่ชายชอบใส่มาเปลี่ยนให้ด้วย

นางสาวรัตนา กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ก็จะนำร่างพี่ชายไปทำพิธีตามความเชื่อของคนมอญ โดยจะให้พระสวด จากนั้นก็จะนำร่างนายเจียนที่อยู่ในโลงศพ เก็บภายในที่เก็บศพของวัด เป็นระยะเวลา 3 ปี ตามความเชื่อ เพราะว่าพี่ชายตายแบบผิดธรรมชาติ จึงต้องเก็บไว้เพราะถ้าหากทำพิธีฌาปนกิจเลย ก็จะมีความเชื่อว่าคนในครอบครัวจะมีอันเป็นไปตามกัน เมื่อครบกำหนด 3 ปี แล้วก็จะนำร่างของพี่ชายมาสวดอภิธรรม 3 วัน 3 คืน ก่อนที่จะฌาปนกิจร่างตามศาสนาพุทธต่อไป

ในขณะที่หลายฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องพฤติกรรมของพี่ชายว่า อาจจะเกิดจากความประมาท ที่เป็นเหตุทำให้เสียชีวิต หรือตั้งคำถามมากมายว่าทำไมพี่ชายถึงลงจากรถ ตรงนี้ทางครอบครัวก็อยากขอความเห็นใจกับคนที่ออกมาแสดงความคิดเห็น เพราะเราไม่รู้ว่าเหตุการณ์นี้ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง ยอมรับว่าการแสดงความคิดเห็นในแง่ลบ ส่งผลทำให้สภาพจิตใจของครอบครัวย่ำแย่ และบั่นทอนจิตใจครอบครัวเป็นอย่างมาก 

...

หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ได้มีฝ่ายบุคคลของทางบริษัทมาพูดคุยเรื่องสวัสดิการเบื้องต้นเท่านั้น แต่ยังไม่ได้รับการติดต่ออย่างเป็นทางการโดยเฉพาะหัวหน้างาน ซึ่งทางครอบครัววอนขอความเห็นใจเพราะว่าครอบครัวเป็นผู้สูญเสียและพี่ชายก็เป็นคนตั้งใจทำงานมาก ทำมาเป็นระยะเวลานาน อย่างไรก็ตามสุดท้ายถ้าหากคุณจะมองว่าเป็นความประมาทหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการสืบสวนสอบสวนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


ภรรยาร้องไห้ จนเป็นลม ล้มทั้งยืน

ต่อมาเวลา 13.40 น. ที่วัดแป้นทองโสภาราม แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ รถมูลนิธินำร่างของนายเจียน เดินทางมาถึงวัด โดยมีญาติพี่น้องและคนในชุมชน มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

จากนั้นได้เคลื่อนร่างของนายเจียน ผู้เสียชีวิต ไปวางไว้ที่พื้น ซึ่งเป็นจุดทำพิธีตามความเชื่อโบราณของชาวมอญ โดยนิมนต์พระ 4 รูป นำดินปั้นห่อทอง ดอกกุหลาบ ธูป เทียนและผ้าไตร มาสวดทำพิธี โดยพิธีดังกล่าวเป็นพิธีหลอก ที่เปรียบเสมือนการเผาหรือฝังร่างของผู้ตายจริง ๆ โดยใช้สัญญะคือ "ดิน" ซึ่งทางเจ้าพิธีได้ขุดดินที่พื้นมาวางไว้บนโลงศพพร้อมกับดินปั้นห่อทอง (ดินปั้นห่อทอง หมายถึง สารธุลีที่ใช้กลบร่างผู้ตาย ทำเหมือนคนทั่วไปที่ตายปกติ)

หลังสวดทำพิธีเสร็จ ญาติได้ช่วยกันยกโลงศพไปไว้ที่เก็บศพ ซึ่งทำเป็นศาลขนาดไม่ใหญ่มาก พอดีกับโลงศพ เสมือนเป็นบ้านให้ผู้วายชนม์ ซึ่งพิธีดังกล่าว เป็นพิธีความเชื่อของชาวมอญ โดยช่วงหนึ่งของการทำพิธี ขณะที่ญาติพี่น้องกำลังร่วมกันวางดอกกุหลาบและหินห่อทอง ปรากฏว่านางฉลาด อายุ 88 ปี อาของนายเจียน ผู้ตายร้องไห้โฮออกมาพร้อมโผเข้ากอด นางสาวรัตนา อายุ 51 น้องสาวคนเล็กของนายเจียน ผู้ตายก่อนจะล้มลงไปกับพื้น ระหว่างนั้นก็ร้องไห้ไม่หยุด จนญาติพี่น้องต้องช่วยกันพาออกไปพักที่ศาลาของวัด

โดยนางฉลาด เล่าว่า ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จู่ ๆ ช่วงที่กำลังจะวางดอกกุหลาบเห็นหลานชายเดินไปเดินมา ก่อนจะหยุดอยู่หน้าโลงศพ ในสภาพเลือดท่วมตัว สีหน้าร้องไห้ เศร้าหมอง ตัวเองสงสารจึงโผเข้าไปกอดหลานชายเอาไว้ ซึ่งไม่คิดว่าคนที่เข้าไปกอดคือ นางสาวรัตนา ซึ่งเป็นน้องสาวผู้ตาย

ด้าน นางสาวรัตนา บอกว่า ปกติพี่ชายเมื่อเจอหน้ากัน ก็จะโผเข้ากอดในลักษณะนี้อยู่แล้ว ซึ่งเชื่อว่าเป็นพี่ชายที่มาทำให้เห็น ประกอบกับย่าฉลาดเป็นคนจิตอ่อน และเคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้กับย่ามาแล้วหลายครั้ง

ขณะที่ นางสาวรัตนาภร อายุ 57 ปี ภรรยาของนายเจียน ซึ่งจุดธูปไหว้ศพสามีเป็นคนสุดท้าย พร้อมกับบอกสามีว่า "ให้ไปดี ไปเป็นเทวดา คนที่อยู่ที่นี่ก็ต้องดำเนินชีวิตไปแบบนี้ ก่อนจะเข้าไปเคาะหน้าโรงของสามี 1 ครั้ง" จากนั้นก็ร้องไห้ออกมาแทบยืนไม่ไหว เป็นลม จนญาติพี่น้องต้องเข้ามาช่วยพยุง

ต่อมาทีมข่าวพบว่ามีตัวแทนของทางสวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์เดินทางมาที่วัดเพื่อร่วมพิธีด้วย โดยตัวแทนได้เข้าไปพูดคุยกับครอบครัวของนายเจียน 

...


ซาฟารีเวิลด์ จ่ายเยียวยาเบื้องต้น ตามกองทุนสวัสดิการ

ภายหลังการพูดคุยกับตัวแทนของซาฟารีเวิลด์ ตัวแทนญาติของนายเจียนเผยว่า ทางซาฟารีเวิลด์ได้เยียวยาเบื้องต้น เป็นเงินกองทุนสวัสดิการของบริษัท จำนวน 31,500 บาท ส่วนการเยียวยาอย่างเป็นทางการ ทางบริษัทขอรอผลชันสูตรอย่างเป็นทางการก่อน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 3 วัน จากนั้นจะนำผลไปประชุมต่อเพื่อวางแนวทางการเยียวยา รวมไปถึงการช่วยเหลือในเรื่องอื่นๆ เนื่องจากทางครอบครัวยังจะต้องเก็บศพของผู้เสียชีวิตเอาไว้ถึง 3 ปี และจะต้องมีพิธีทำบุญหลังจาก 7 วันไปแล้วด้วย

ส่วนตัวทั้งครอบครัว ถือว่าเป็นการเริ่มต้นคุยที่ดีในระดับหนึ่ง ทางบริษัทเขาเองก็รีบมา อีกทั้งพี่น้องเรา และภรรยาผู้เสียชีวิต ก็คุยกันตลอด เรื่องแบบนี้ก็ต้องค่อยๆ คุยกันไป