หลังรัฐมีมาตรการตัดไฟ คนฝั่งเมียนมา ขับรถข้ามมาตุนน้ำมันจากฝั่งไทยต่อเนื่อง ยอมรับกระทบบางส่วน บางส่วนเตรียมโซลาร์เซลล์รับมือ

วันที่ 6 ก.พ. 68 ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจขุนศึกไทยรัฐ รายงานบรรยากาศหลังจากไทยมีมาตรการตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต ผ่านมาหนึ่งวัน สังเกตในช่วงกลางคืนที่ผ่านมา ซึ่งมองจากฝั่งไทยริมแม่น้ำเมย จะเห็นตัวเมืองเมียวดี ตามอาคารตึกต่างๆ ที่สูง 7 ถึง 12 ชั้น กว่า 100 หลัง ในชเวโก๊กโก่ มีการใช้ไฟลดลง 40% ตามตึกไม่มีการเปิดไฟ LED หลากสีเหมือนเช่นทุกวัน รวมทั้งยังมีเสียงเครื่องปั่นไฟดังกระหึ่ม ได้ยินถึงฝั่งไทยตลอดทั้งคืน

ขณะที่เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ด่านพรมแดนแม่สอด จ.ตาก มีประชาชนชาวเมียนมาเดินทางเข้าด่านกันมาเป็นจำนวนมากตั้งแต่ช่วงเช้า ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักเรียนชาวเมียนมา ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเมยใกล้ชายแดนไทย เดินทางข้ามมาเรียนหนังสือ อีกส่วนหนึ่งเป็นชาวเมียนมาที่เข้ามาทำธุรกิจการค้าและหาซื้อสินค้าไปยังบ้านเกิด

ขณะที่รถบนสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 มีรถตู้โดยสารประเภทต่าง ๆ เข้ามาต่อรอตรวจเอกสาร และรอตรวจที่ด่านศุลกากรเป็นจำนวนมาก จนท้ายแถวขึ้นไปอยู่ช่วงกลางสะพานฯ แห่งที่ 1

...

ชาวเมียนมาที่ข้ามมาฝั่งไทย บอกว่า ตอนนี้ฝั่งเมียนมาได้รับผลกระทบจากการตัดกระแสไฟฟ้า แต่หลายๆ บ้านใช้ไฟจากแผงโซลาร์เซลล์แทน จึงทำให้ไม่ได้รับผลกระทบในเรื่องนี้มากนัก ส่วนพื้นที่ลึกเข้าไปในเมืองเมียวดี ไม่ทราบว่าจะได้รับผลกระทบหนักขนาดไหน

ส่วนรถที่มาจากฝั่งเมียนมาพากันมาเติมในสถานีน้ำมันใน อ.แม่สอด และสถานีใกล้เคียง สะพานมิตรภาพ 1 และ 2 กันอย่างต่อเนื่อง ทั้งรถยนต์และรถบรรทุกสิบล้อ เนื่องจากไม่มีการส่งน้ำมันไปยังฝั่งเมียนมาแล้ว ทำให้น้ำมันเริ่มขาดแคลน ซึ่งราคาน้ำมันใน อ.แม่สอด ยังไม่มีการปรับราคา โดยน้ำดีเซล ลิตรละ 33.58 บาท น้ำมันเบนซิน ลิตรละ 36.59 บาท ไม่มีการจำกัดจำนวนการเติม