อัปเดตน้ำท่วมภาคเหนือ จากอิทธิพลของ "พายุวิภา" สถานการณ์ใน จ.น่าน หลายอำเภอยังวิกฤติแม้น้ำเริ่มลด ขณะที่ จ.พะเยา ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 1,700 ครัวเรือน
จากกรณี กรมอุตุนิยมวิทยา ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการติดตาม "พายุวิภา" ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. 68 ซึ่งอิทธิพลของพายุวิภา ทำให้เกิดฝนตกหนักหลายพื้นที่ของภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน โดยเฉพาะบริเวณ จ.น่าน จ.พะเยา จ.เชียงราย มีฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก อุทกภัย ดินโคลนถล่ม ส่งผลกระทบต่อประชาชนในภาคเหนือ ทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และความปลอดภัยของประชาชน
โดยล่าสุด วันนี้ (24 ก.ค. 68) กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ปิดศูนย์ปฏิบัติการติดตามพายุวิภา หลังจาก "พายุวิภา" สลายตัว ฝนตกลดน้อยลง แต่ยังเฝ้าระวังระดับน้ำตามลำน้ำที่เพิ่มสูงและล้นตลิ่ง ต่อไปอีกระยะ
...
สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.น่าน
เมื่อเวลา 05.00 น. สถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองน่านยังคงวิกฤต โดยเฉพาะในย่านเศรษฐกิจซึ่งระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่บริเวณหน้าวัดสวนตาล ผ่านจุดสามแยกไฟแดงปากทางเข้าสนามกีฬา อบจ.น่าน มีประชาชนจำนวนมากออกมาสังเกตการณ์น้ำท่วมในช่วงเช้า ขณะเดียวกันไฟฟ้าในเขตตัวเมืองถูกตัด ส่งผลให้ร้านสะดวกซื้อหลายแห่งไม่สามารถเปิดให้บริการได้
ด้านสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำน่าน วัดจากสถานีหลัก 2 แห่ง มีแนวโน้มรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา
- สถานีสะพานผาขวาง เวลา 05.00 น. ระดับน้ำอยู่ที่ 14.65 เมตร เพิ่มขึ้นชั่วโมงละ 33 เซนติเมตร สูงกว่าระดับสูงสุดของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 12.75 เมตร (ระดับตลิ่ง 9.5 เมตร)
- สถานีเทศบาลเมืองน่าน เวลาเดียวกัน วัดได้ 9.27 เมตร เพิ่มขึ้นชั่วโมงละ 2 เซนติเมตร สูงกว่าปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 8.68 เมตร (ระดับตลิ่ง 7 เมตร)
โดยระดับน้ำได้ล้นตลิ่งเข้าสู่พื้นที่ อ.ภูเพียง และเขตเทศบาลเมืองน่าน ตั้งแต่เวลาประมาณ 09.00 น. ที่ผ่านมา โดยมวลน้ำขนาดใหญ่จากทางเหนือกำลังไหลผ่านสะพานผาขวางลงสู่ตัวเมืองน่าน น้ำเริ่มทะลักเข้าพื้นที่ชุมชนริมแม่น้ำอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มว่าจะสูงถึง 9.50 เมตรในช่วงค่ำวันนี้
ทั้งนี้ มีรายงานอีกว่า ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป หน่วยงานด้านความมั่นคงและการช่วยเหลือฉุกเฉินเตรียมส่งเฮลิคอปเตอร์ เข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมหนักและไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยรถยนต์ โดยเฉพาะบ้านเรือนที่อยู่ใกล้แม่น้ำน่านและลำน้ำสาขาต่าง ๆ ที่ยังมีน้ำไหลเชี่ยวและระดับน้ำสูง ทำให้ประชาชนบางส่วนติดอยู่ภายในบ้าน ไม่สามารถอพยพออกมาได้ทันเวลา
ขณะนี้มีการระดมทรัพยากรจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน มูลนิธิ และเครือข่ายจิตอาสาในและนอกจังหวัด เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยทุกคำร้องขอความช่วยเหลือจะถูกส่งต่อไปยังหน่วยปฏิบัติการที่อยู่ใกล้ที่สุด เพื่อให้เข้าถึงประชาชนได้อย่างทันท่วงที แม้บางพื้นที่ เช่น อ.ท่าวังผา อ.เชียงกลาง และ อ.ปัว เริ่มมีแนวโน้มระดับน้ำลดลงเล็กน้อย แต่ในเขตเมืองน่านและอำเภอภูเพียง ยังคงมีน้ำท่วมสูง ส่วน อ.เวียงสากำลังเผชิญมวลน้ำก้อนใหญ่จากทางตอนเหนือ สะพานข้ามแม่น้ำน่านทุกแห่งยังไม่สามารถสัญจรได้ชั่วคราว ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางข้ามฝั่งและวางแผนการเดินทางอย่างรอบคอบ
...
ด้านโรงพยาบาลน่าน สถานการณ์ยังคงน่าห่วง เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาน้ำได้ท่วมขังหลายจุด การเดินทางเข้าออกโรงพยาบาลต้องใช้เรือท้องแบนเล็กลำละ 2–3 คนในการลำเลียงแพทย์และพยาบาลเข้าเวร ต้องใช้เจ้าหน้าที่ถึง 4-5 คนประคองเรือเนื่องจากกระแสน้ำยังเชี่ยวแรง
สำหรับผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรง ได้ทยอยเคลื่อนย้ายไปยังฝูงบิน 466 น่าน ขณะเดียวกันทางโรงพยาบาลได้เปิดศูนย์ทำอาหารชั่วคราวที่โรงครัววัดช้างเผือก และฝูงบิน 466 น่าน โดยประชาชนที่ต้องการบริจาคน้ำดื่ม ข้าวกล่อง หรือวัตถุดิบประกอบอาหาร สามารถติดต่อได้ที่
• หมอหนุ่ย (คุณสุรีรัตน์): 086-9165126
• คุณอัจฉรา: 087-1929294
• คุณยุพา ภัทรเคหะ
ทหารระดมกำลังช่วยชาวบ้านน้ำล้อม-อพยพกลุ่มเปราะบางออกจากพื้นที่เสี่ยง
พลตรี บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 38 ได้จัดกำลังพลจากกองพันทหารม้าที่ 10 ร่วมกับจิตอาสาภัยพิบัติ ลงพื้นที่ชุมชนบ้านน้ำล้อม ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยเน้นการอพยพผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง เด็กเล็ก และคณะสงฆ์ ไปยังพื้นที่ปลอดภัย พร้อมตรวจค้นหาผู้ที่ยังติดค้างในบ้านเรือน
อบจ.น่าน แบ่ง 3 โซน – ทีมกู้ภัยหลายจังหวัดร่วมปฏิบัติการ
องค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน แบ่งการทำงานเป็น 3 โซนหลัก เพื่อกระจายทีมเข้าช่วยเหลืออย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้ :
• โซน 1: บ้านเมืองเล็น บ้านท่าช้าง บ้านพระเนตร – ใช้ทีมเรือจาก อบจ.น่าน และทีมกู้ภัยจากลำปาง
• โซน 2: บ้านสวนตาลล่าง บ้านดอนแก้ว บ้านดอนสีเสริม – ใช้ทีมเรือจาก อบจ.น่าน และกู้ภัยจากเชียงใหม่
• โซน 3: บ้านมณเฑียร บ้านสวนหอม บ้านมงคล บ้านหัวขวาง – ใช้ทีมเรือจาก อบจ.น่าน และสมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ พิษณุโลก
ทุกโซนมีการสนับสนุนรถทหารสำหรับรับส่งผู้ประสบภัยไปยังจุดปลอดภัย และกำลังออกปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง
อินเทอร์เน็ตยังมีปัญหาในหลายพื้นที่ – เร่งติดตั้ง Mobile Unit
ในหลายพื้นที่ของจังหวัดน่านยังคงประสบปัญหาสัญญาณอินเทอร์เน็ตขัดข้อง เนื่องจากเสาสัญญาณถูกน้ำท่วมและระบบไฟฟ้าขัดข้อง ขณะนี้มีการประสานผู้ให้บริการโทรคมนาคมนำรถโมบายสื่อสารเคลื่อนที่เข้าไปติดตั้งในจุดสำคัญ เพื่อให้ประชาชนสามารถสื่อสารและเข้าถึงข้อมูลได้
...
สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พะเยา
วันนี้ มีรายงานว่า จังหวัดพะเยามีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 8 อำเภอ ยกเว้นอำเภอแม่ใจ 44 ตำบล 225 หมู่บ้าน ประชากรเดือดร้อนกว่า 1,700 ครัวเรือน โดยจังหวัดพะเยามีแม่น้ำที่ส่งผลกระทบใหญ่ๆ 2 ลำน้ำคือลำน้ำอิง และลำน้ำยม ลำน้ำอิงจะไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่จังหวัดเชียงราย ส่วนลำน้ำยมจะไหลไปยังจังหวัดแพร่
ในส่วนของลำน้ำอิงนั้นมีกว๊านพะเยาเป็นแหล่งน้ำใหญ่ ซึ่งจุน้ำ 55 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อเช้าที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำ 36 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณร้อยละ 65 ของความจุอ่าง และระบายน้ำออกวันละ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่ผ่านมาได้ระบายน้ำตลอดทุกวัน แต่ปลายน้ำ อ.เทิง จ.เชียงราย มีการระบายน้ำช้าเนื่องจากมีฝนตกในพื้นที่ น้ำจึงได้เอ่อท่วมบ้านเรือนริมตลิ่งที่แม่น้ำอิงผ่านทั้ง อ.ดอกคำใต้ และ อ.ภูกามยาว ประมาณกว่า 50 กิโลเมตร
...
- อ.ดอกคำใต้ มีน้ำร่องสักและน้ำร่องช้าง เป็นน้ำสาขาที่ไหลลงสู่ลำน้ำอิง ขณะนี้มวลน้ำก้อนใหญ่ได้แผ่กระจายอยู่ในพื้นที่ และท่วมพื้นที่เกษตรและบ้านเรือนประชาชนหลายจุด คาดว่าอีก 2-3 วันจะลดลงหมดจนเข้าสู่ภาวะปกติ
- อ.เชียงคำ ขณะนี้เกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ยังคงมีน้ำท่วมขังบริเวณรอบโรงพยาบาลเชียงคำ ประมาณ 50 ซม.ต้องใช้รถ GMC ของทหารลำเลียงผู้ป่วย คาดว่าภายใน 1-2 วันจะเข้าสู่ภาวะปกติ
- อ.ภูซาง มีน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งอำเภอภูซางรับน้ำจากลำน้ำลาว จาก อ.เชียงคำ ก่อนลงสู่ลำน้ำอิง
นอกจากนี้ยังมีลุ่มน้ำนิยมซึ่งเกิดฝนตกหนักและท่วมในพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ได้เตรียมความพร้อมกวาดสิ่งปฏิกูล และอพยพผู้คนและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้วมีการตั้งโรงครัวพระราชทานในพื้นที่และส่งถุงยังชีพกว่าสำหรับ 100 ถุงและเรือท้องแบนเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนแล้ว คาดว่าภายใน 2-3 วันเหตุการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.เชียงราย
"พายุวิภา" ยังส่งผลกระทบในพื้นที่ จ.เชียงราย หลายพื้นที่เจอน้ำท่วมหลายอำเภอ โดยเฉพาะที่ อ.เทิง ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำลาวที่ไหลมาก อ.เชียงคำ จ.พะเยา มาสมทบกับแม่น้ำอิงที่บริเวณตัวอำเภอ ส่งผลให้ชุมชนริมแม่น้ำถูกน้ำท่วมสูง ระดับน้ำมากกว่าเมื่อวานนี้ (23 ก.ค.) ประมาณ 50 ซม. เช่นเดียวกับที่ว่าการอำเภอเทิงก็ถูกน้ำท่วมเช่นกัน ต้องงดให้บริการชั่วคราว
ขณะที่บนดอยภูชี้ฟ้าถูกน้ำเซาะดินสไลด์ทำถนนพังเสียหาย แขวงทางหลวงต้องปิดถนนห้ามใช้เส้นทางแล้ว เช่นเดียวกับ อ.เวียงป่าเป้า ถนนหมายเลข 118 ถูกน้ำท่วม รถเล็กต้องสัญจรด้วยความระมัดระวัง.