แฟนสาวยังช็อก รับศพ "รถบัส เดอะวอยซ์" ผู้เสียชีวิตเหตุ "รถกระบะบรรทุกน้ำดื่ม" เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า เผยลางสังหรณ์ก่อนเกิดเหตุ ค่ายเพลงเตรียมสานฝันให้ครั้งสุดท้าย ด้าน ตร. เผยความคืบหน้าคดี ยันไม่มีอะไรซับซ้อน เพียงแต่ต้องใช้เวลา
วันที่ 11 กันยายน 2568 เวลา 13.00 น. ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นางสาวสุกัญญา คำราพิศ แฟนสาว พร้อมกับเพื่อน ๆ และคนใกล้ชิด เดินทางมารับศพ นายบุญญฤทธิ์ เจริญวงศ์ หรือ รถบัส เดอะวอยซ์ ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ "รถกระบะบรรทุกน้ำดื่ม" เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่เชียงใหม่ รวมเสียหาย 52 ต้น
เพื่อนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดศรีสุพรรณ ต.หนองแอ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีใครคาดคิด โดยนางสาวสุกัญญา ได้นำเสื้อยืดตัวเก่ง ซึ่งเป็นเสื้อประจำค่ายเพลงของนายบุญญฤทธิ์มาด้วย พร้อมเผยว่า จนถึงตอนนี้ยังคงรู้สึกช็อกไม่หายกับการจากไปอย่างกะทันหัน เธอ และคนใกล้ชิดเสียใจกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น
นายบุญญฤทธิ์เป็นคนขยัน รับงานร้องเพลงตามร้านอาหารควบคู่ไปกับงานส่งน้ำดื่มที่เป็นงานประจำด้วย และเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น มีความฝันในเรื่องดนตรี อยากเป็นนักร้องอาชีพ และมีเพลงเป็นของตัวเอง ที่ผ่านมาแม้จะมีงานหลัก แต่ก็ไม่เคยทิ้งความฝัน เสียใจที่วันนี้ไม่มีโอกาสได้ทำตามความฝันให้สำเร็จ
...
นางสาวสุกัญญา บอกต่อว่า ก่อนเสียชีวิตนายบุญญฤทธิ์ไม่สบาย และลาป่วย บอกว่าฝันเห็นตัวเองขับรถคันนี้ไปส่งน้ำดื่ม จากนั้นไม่กี่วันก็เสียชีวิต ทำให้เชื่อว่าน่าจะเป็นลางสังหรณ์เตือนล่วงหน้า สำหรับการจัดงานศพ ทางค่ายเพลงลายไทยเรคคอร์ด ซึ่งเป็นต้นสังกัดได้ช่วยเหลือเงินมาแล้วบางส่วน ส่วนนายจ้างยังไม่ได้ติดต่อ โดยจะรอให้เสร็จงานศพจึงจะติดต่อสอบถามไปอีกครั้ง
ด้าน นายรุสิชล รดาธารานนท์ หรือ สันต์ เดอะวอยซ์ เพื่อนร่วมการประกวดในซีซั่นเดียวกัน บอกว่า ไปเจอและรู้จักกันที่รายการประกวด หลังจากนั้นได้ติดต่อพูดคุยกันมาตลอด ทำให้ทราบว่านายบุญญฤทธิ์ เป็นคนที่มีความขยันทำมาหากิน ที่ผ่านมาทำทุกอย่าง ทั้งขับรถส่งของ ขายอาหารปิ้งย่าง มีความฝันว่าสักวันหนึ่งอยากจะเป็นศิลปินที่ร้องเพลงให้ทุกคนได้ฟังและมีรายได้มาดูแลครอบครัว แต่น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสอีกแล้ว หลังจากนี้ เพื่อน ๆ และทางค่ายจะปล่อยเพลงที่ทำไว้อีกกว่าสิบเพลงลงในช่องยูทูบของค่ายลายไทยเรคคอร์ด เพื่อสานฝันให้กับรถบัสได้เป็นศิลปินตามที่ตั้งใจ
ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินคดี พ.ต.อ.เสวก ชูศิริ ผกก.สภ.ช้างเผือก เปิดเผยว่า ปริมาณแอลกอฮอล์ที่ตรวจพบในตัวคนขับรถ 29.2 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ไม่ถึงเกณฑ์ที่จะดำเนินคดีฐานเมาแล้วขับ แต่พฤติการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นความผิดฐานขับรถโดยประมาท ที่พนักงานสอบสวนจะต้องแจ้งข้อหาดำเนินคดี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ได้เข้าไปสอบปากคำคนขับรถ เนื่องจากยังอยู่ในระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาล และต้องรอให้ปรับสภาพจิตใจให้ดีขึ้น รวมทั้งต้องรอผลการชันสูตรบาดแผลจากแพทย์ เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี นอกจากนี้ยังต้องทยอยสอบผู้เสียหายทั้งหมด ทั้งในส่วนของการไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างประเมินความเสียหาย และประชาชนที่ได้รับความเสียหายอีก 20 กว่าราย หากสอบครบแล้ว ก็จะใช้เวลาไม่นานในการสรุปสำนวนส่งฟ้องศาล
ส่วนประเด็นความรับผิดร่วมของนายจ้าง เป็นเรื่องทางแพ่งระหว่างคู่กรณีที่จะฟ้องดำเนินคดี และพิสูจน์ว่าเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในระหว่างการจ้างงาน ซึ่งนายจ้างต้องร่วมรับผิดหรือไม่ โดยทางตำรวจจะช่วยไกล่เกลี่ย
ผกก.สภ.ช้างเผือก เผยด้วยว่า คดีนี้เป็นคดีจราจรที่ไม่มีอะไรซับซ้อน เพียงแต่ต้องใช้เวลาเนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก