ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก เหม็นกลิ่นน้ำเน่าเสีย หลังนายทุนปล่อย "กากน้ำตาลอ้อย" ลงไร่ปรับปรุงดิน แต่ไม่ไถกลบ ซึ่งยังส่งผลกระทบ ไหลเข้าไปในพื้นที่ชาวบ้าน ล่าสุดปลัดอำเภอทราบเรื่องแล้ว ยันจะลงพื้นที่ตรวจสอบ-แก้ไขปัญหา

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 10 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับชาวบ้าน บ้านห้วยเตย ม.9 ต.ศรีสุขสำราญ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น หลังชาวบ้านร้องเรียนมายังสื่อมวลชนขอให้ช่วยเหลือ กรณีได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่น และน้ำเน่าเสีย ที่มาจากพื้นที่เพาะปลูกของนายทุน เนื้อที่ประมาณ 292 ไร่ ที่นำน้ำกากส่า หรือกากน้ำตาลจากอ้อย มาเทเพื่อปรับปรุงดินก่อนทำการเพาะปลูก แต่ไม่มีการไถกลบ ทำให้น้ำเสียไหลลงมาจากพื้นที่สูง ซึ่งในหมู่บ้านเป็นพื้นที่ลุ่ม จนกลายเป็นมลภาวะกลิ่นโชยเข้ามาในหมู่บ้าน ส่งกลิ่นเหม็นจนแสบจมูก โดยเฉพาะเด็กกับคนแก่ และผู้ป่วยติดเตียง กลายเป็นปัญหาด้านสุขภาพ

อีกทั้งน้ำเสียได้ไหลข้ามไปยังแปลงเพาะปลูกของชาวบ้านที่อยู่ติดกัน จนได้รับผลกระทบด้านการเกษตรไปด้วย ไม่สามารถปลูกข้าวหรือทำไร่มันไร่อ้อยได้เหมือนเดิม แหล่งน้ำของชาวบ้านที่มีการขุดสระ ก็ได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน สัตว์น้ำตายไม่สามารถจับมาทำกินได้เหมือนแต่ก่อน

ชาวบ้านได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ดูจุดที่มีการเทน้ำเสียลงในพื้นที่เพาะปลูกของนายทุน ซึ่งเป็นฝั่งที่อยู่สูงของแปลง พบมีร่องรอยการเทของเหลวในลักษณะขับรถที่บรรจุของเหลวมาจอดบนถนน เทียบกับแปลงเพาะปลูก แล้วปล่อยน้ำกากส่าลงในดินให้ไหลไปเอง โดยไม่ได้ทำการไถกลบเพื่อให้มันซึมลงในดินแต่อย่างใด และพบว่าตามแนวถนน มีลักษณะดินยุบตัวลงไปจากการเทน้ำกากส่าดังกล่าว เป็นจุดหลายจุด และมีน้ำกากส่าสีน้ำตาลเข้มขังอยู่ในหลุมภายในแปลงเพาะปลูกดังกล่าวทั่วทั้งแปลง และยังพบว่ามีกลิ่นเหม็นรุนแรงอยู่ทั่วบริเวณ

...

ชาวบ้านได้พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดที่เป็นพื้นที่ลุ่มของแปลงเพาะปลูกนายทุน พบว่าสภาพมีน้ำกากส่าขังอยู่บริเวณฝั่งด้านล่างที่มีความต่ำของแปลงเป็นบริเวณกว้าง โดยน้ำกากได้ไหลเข้าสู่ไร่อ้อยของชาวบ้านที่อยู่ติดกันจนท่วมในแปลง และน้ำกากส่ายังได้ไหลลงที่ต่ำเข้าแปลงเพาะปลูกของชาวบ้านอีกหลายคน รวมทั้งแหล่งน้ำของชาวบ้าน ที่มีการขุดสระเอาไว้เลี้ยงปลา และแหล่งน้ำตามธรรมชาติเป็นบริเวณกว้าง อีกทั้งทำให้น้ำกากส่าไหลเข้าพื้นที่การเกษตรชาวบ้านเพิ่มมากขึ้น และยังมีกลิ่นเหม็นเป็นบริเวณกว้างเข้าไปถึงในหมู่บ้าน

หนึ่งในชาวบ้านที่ได้ผลกระทบจากกรณีดังกล่าว ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ผลกระทบจากการทิ้งของเสียดังกล่าว ได้สร้างกลิ่นเหม็นให้กับชาวบ้านตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้คนป่วยติดเตียง เด็ก คนชรา และชาวบ้านทุกคนในหมู่บ้าน แทบไม่ได้หลับได้นอนกันในตอนกลางคืน เพราะกลิ่นจะแรงมาก ซึ่งเดือดร้อนอยู่อย่างนี้มาเดือนกว่าแล้ว ที่ผ่านมาชาวบ้านพยายามขอให้ทางเจ้าของที่ดินลดการนำของเสียมาเท หรือใช้วิธีไถกลบให้น้ำเสียซึมลงไปในดิน จะได้ไม่เกิดกลิ่นดังกล่าวขึ้น และน้ำเสียก็จะไม่ไหลลงสู่พื้นที่การเกษตรของชาวบ้านด้วย

แต่ปรากฏว่าไม่มีการลดจำนวนการเทของเสีย มีแต่นำมาเทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากรถบรรทุกน้ำคันเดียว เป็นรถพ่วงบรรจุของเหลว เทียวมาเทลงพื้นที่การเกษตรของนายทุนดังกล่าว จากวันละห้าหกเที่ยวตอนนี้เป็น 10 กว่าเที่ยว และถังบรรจุน้ำเสียที่บรรทุกมาก็มี ขนาดถังละ 10,000 ลิตร พอเป็นรถพ่วง ก็เป็นคันละ 20,000 ลิตรที่นำมาเท

เมื่อปัญหาดังกล่าวไม่ได้มีการแก้ไข จึงได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนมาในครั้งนี้ เพื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข่าวออกไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบช่วยเหลือชาวบ้านด้วย เพราะตอนนี้ส่งผลเสียทางด้านสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิต และสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่อยู่ในหมู่บ้าน และขณะนี้ไม่ใช่เพียงหมู่บ้านห้วยเตยเท่านั้น ยังไหลไปสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ติดกัน ทั้งบ้านศาลาดินหมู่ 7 ตำบลศรีสุขสำราญ อำเภออุบลรัตน์ และบ้านโคกสูง หมู่ 6 ตำบลดงเมืองแอม อำเภอเขาสวนกวาง

แล้วตอนนี้ชาวบ้านทุกคนเป็นกังวลในเรื่องของน้ำเน่าเสียจะไหลจากที่สูงลงมาที่ต่ำ ซึ่งเป็นหมู่บ้าน รวมทั้งพื้นที่การเกษตรและแหล่งน้ำของชาวบ้าน ไม่สามารถเพาะปลูกได้ และไม่สามารถจับปูจับปลาตามวิถีชีวิตของชาวบ้านได้เหมือนเดิมต่อไป และปัญหาดังกล่าวนี้ หากยังไม่ได้รับการแก้ไข นับวันก็จะยิ่งเพิ่มความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านมากขึ้นเรื่อยๆ ตนเองและชาวบ้านทุกคนเตรียมที่จะยื่นหนังสือร้องเรียนอย่างเป็นทางการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันอังคารนี้ด้วย

...

ขณะที่ทางเจ้าของไร่อ้อยเนื้อที่ 5 ไร่ วัย อายุ 52 ปี ที่อยู่ติดกับแปลงเพาะปลูกของนายทุนดังกล่าว ได้เผยว่า ตนเองทำไร่อ้อยอยู่ติดกับที่ของนายทุนดังกล่าว และตอนนี้ได้รับผลกระทบเต็มๆ คือของเสียได้ไหลข้ามมายังพื้นที่ไร่อ้อย ทำให้อ้อยเริ่มเหลืองจากที่กำลังเขียวๆ และอีกไม่นานก็คงจะยืนต้นตาย ซึ่งน้ำเสียที่เกิดขึ้นนั้น มาจากการที่นายทุนนำน้ำส่าอ้อยมาเทปรับเตรียมดิน ซึ่งหากมีการไถกลบไปด้วยตอนที่เท ก็จะไม่เกิดปัญหานี้ขึ้นมา

นอกจากปัญหากลิ่นและปัญหาน้ำเสียไหลสร้างความเสียหายในไร่อ้อยของตนเองแล้ว หลานชายตนเองมี 4 คน สูดกลิ่นของเสียเป็นเวลานาน จนหลานชายหนึ่งคนต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะมีปัญหาเรื่องของโรคปอด เทียวไปโรงพยาบาลอยู่สองสัปดาห์ ก็อยากจะให้ทางเจ้าของที่ไถกลบ หรือเข้ามาแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้เดือดร้อนกับชาวบ้านข้างเคียงด้วย

ในขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวสอบถามไปทางอำเภออุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น โดยได้สอบถามข้อมูลกับ นางกำไล ทาศรีภู ปลัดอำเภออุบลรัตน์ หัวหน้ากลุ่มความมั่นคง ทราบว่า กรณีดังกล่าวนั้นทางอำเภอได้ทราบเรื่องความเดือดร้อนของชาวบ้านแล้ว ซึ่งจะได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะเชิญเจ้าของพื้นที่และชาวบ้านมาร่วมพูดคุยถึงปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาและหาทางออกร่วมกันต่อไป