ชาวบ้านนากลาง จ.นครราชสีมา หนุนสร้างโรงงานไฟฟ้าขยะ เพื่อเร่งกำจัดขยะที่ถูกทิ้งทับถมนับ 10 ปี สร้างความเดือดร้อน กระทบการใช้ชีวิต-พื้นที่ทำกิน
วันที่ 9 ก.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณกองขยะในพื้นที่ 10 ไร่ ต.นากลาง อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นปัญหาสะสมมานานนับ 10 ปี จนปริมาณขยะเพิ่มพูนเป็นภูเขา หมักหมมส่งกลิ่นเหม็น สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก จนนำไปสู่การหาวิธีการกำจัดขยะในพื้นที่
จากการสอบถาม นางทองแก้ว อายุ 70 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณดังกล่าว เล่าว่า บ้านของตนเองอยู่ใกล้กับกองขยะ ได้รับผลกระทบโดยตรง ได้กลิ่นเหม็นตลอดเวลา ยิ่งในช่วงฤดูฝน และได้รับผลกระทบหนักขึ้นในฤดูแล้ง โดยจะมีขยะปลิวว่อน ลมพัดขยะขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้าเต็มพื้นที่ ทั้งที่อยู่อาศัยและที่ทำการเกษตร ตนต้องออกแรงเก็บขยะเอง หรือไม่ก็ต้องว่าจ้างคนมาช่วยเก็บขยะ เนื่องจากอายุมากแล้ว เดินก็ไม่ค่อยสะดวก ตอนกลางคืนก็ต้องใส่หน้ากากอนามัย เพราะแสบจมูก อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมานำขยะออกจากบริเวณนี้
ที่ผ่านมาทำหนังสือร้องเรียนไปที่หน่วยงานราชการหลายแห่งแต่ก็ไม่เป็นผล ตนอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวมา 20 กว่าปี แรกๆ ยังไม่มีจำนวนขยะมากเท่าปัจจุบัน ผลกระทบก็ไม่มากเท่าตอนนี้ หากมีการกำจัดขยะ หรือตั้งโรงงานกำจัดขยะ ตนจะดีใจมากที่ได้พื้นที่ทำกินคืน
...
ด้าน นายสันติ สกุลศิริวัฒน์ อายุ 58 ปี กำนันตำบลนากลาง เผยเกี่ยวกับโครงการโรงกำจัดขยะมูลฝอยด้วยการแปรรูปเป็นพลังงานไฟฟ้า ว่า ตนได้มีโอกาสไปดูงานที่โรงงานกำจัดขยะในลักษณะแปรรูปเป็นพลังงานไฟฟ้า ที่ จ.นนทบุรี หลายรอบ พบว่าบรรยากาศไม่เหมือนเป็นโรงงาน มีความเงียบสงบ ร่มรื่นมาก เรื่องเกี่ยวกับขยะที่นำเข้าไปในโรงงานไม่ส่งกลิ่น ดูเรียบร้อยไม่มีขยะตกค้างหลงเหลืออยู่ภายนอกโรงงาน บริเวณโดยรอบมีความสะอาด โดยตนได้เดินทางไปพร้อมกับลูกบ้านและเห็นดีด้วยว่าจะเป็นช่องทางในการกำจัดขยะในพื้นที่ หลังจากที่ปริมาณขยะในพื้นที่ได้เพิ่มทวีคูณเป็นจำนวนมาก การฝังกลบไม่สามารถทำได้อีกต่อไป ส่งผลกระทบเป็นอย่างยิ่งต่อพื้นที่เกษตรกรรมทั้งปริมาณขยะและน้ำเน่าเหม็นที่ไหลเข้าสู่พื้นที่ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปี หากมีการจัดตั้งโรงงานกำจัดขยะจะส่งผลดีต่อพื้นที่ สามารถกำจัดขยะและได้ฟื้นฟูพื้นที่ซึ่งเคยเป็นป่าชุมชนที่ชาวบ้านได้เคยหาของป่า หาเห็ดป่าให้ฟื้นกลับคืนมาดังเดิม
นางฉวีวรรณ โกะสูงเนิน อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านนากลางพัฒนา เปิดเผยว่า หากโครงการโรงกำจัดขยะเกิดขึ้นจะมีส่วนดีมากกว่าส่วนเสีย ได้ลดปริมาณขยะในชุมชน ส่วนเสียคือความกังวลของชาวบ้านในเรื่องการขนย้ายขยะและเส้นทางที่รถขยะจะใช้ผ่าน อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านต้องการให้นำขยะจำนวนมากเหล่านี้ออกจากชุมชน เนื่องจากประสบปัญหามลพิษจากขยะ ก่อนหน้านี้ทางโครงการได้มีการมาทำประชาคมในพื้นที่หลายครั้งและได้อธิบายชัดเจน จนตนเองมีความเชื่อมั่น โดยโครงการกำจัดขยะในรัศมี 3 กิโลเมตร จะมีพื้นที่ครอบคลุมทั้งหมด 3 ตำบล 8 หมู่บ้าน และส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ในการทำการเกษตร มีผู้อยู่อาศัยไม่เกิน 20 หลังคาเรือน
ขณะที่ นายชรินทร์ ภูมิทอง หัวหน้างานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ สยามพาวเวอร์ ตัวแทนโรงงาน เปิดเผยว่าในส่วนของการบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชนด้วยการแปรรูปเป็นพลังงานไฟฟ้า ขององค์การบริหารส่วนตำบลนากลาง หรือโรงกำจัดขยะมูลฝอยด้วยการแปรรูปเป็นพลังงานไฟฟ้า ขณะนี้ได้รับความเห็นชอบรายงานประมวลหลักการปฏิบัติ หรือ รายงานสิ่งแวดล้อมเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ลงพื้นที่ไปพบกำนันผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านเพื่อประชาสัมพันธ์รวมถึงการพาไปดูงานโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการจริงที่จังหวัดนนทบุรี จนได้รับความยอมรับจากชุมชนเพื่อให้เข้ามาแก้ไขปัญหาบ่อขยะที่มีอยู่เดิม ซึ่งเป็นการเทกองและสร้างปัญหาให้กับชุมชนที่อยู่โดยรอบบ่อขยะ เนื่องจากในส่วนของโรงงานกำจัดขยะจะไม่มีการนำขยะมาเทกองตรงบริเวณดังกล่าว แต่จะเป็นการกำจัดขยะที่อยู่ในบ่อขยะเดิมของ อบต.นากลาง โดยใช้ระยะเวลาตามสัญญา กำจัดขยะให้หมดภายในระยะเวลาไม่เกิน 7 ปี
ส่วนประโยชน์ที่ชาวบ้านในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงจะได้จากการจัดตั้งโครงการนี้ นอกจากการกำจัดขยะเก่าที่สร้างปัญหาในทุกวันนี้ โรงงานยังมีการจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาชุมชน โดยจะส่งเงินเข้ากองทุนไปให้กับตัวแทนของชาวบ้านโดยตรง เพื่อนำเงินไปพัฒนาสาธารณูปโภค การฝึกอาชีพพัฒนาผลิตภัณฑ์ในพื้นที่ พร้อมทำกิจกรรมเพื่อสังคมอื่นๆ อย่างเช่น กองทุนเพื่อการศึกษา การตรวจสุขภาพของคนในชุมชน ส่วนถนนบริเวณทางเข้าโครงการก็จะกลายเป็นถนนคอนกรีตที่สามารถสัญจรได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีการขยายสายส่งไฟฟ้า จากเดิมในพื้นที่ที่ตั้งโครงการไม่มีไฟฟ้าใช้ จากนี้จะมีการขยายสายส่งมาถึงบริเวณที่ตั้งโครงการซึ่งทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงโดยรอบได้รับประโยชน์ มีการจ้างงานเป็นการส่งเสริมอาชีพของคนในชุมชนเป็นหลัก
อย่างไรก็ตามในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกลุ่มคนรวมตัวคัดค้านโรงไฟฟ้าขยะ ร่วมลงชื่อในหนังสือคัดค้าน 1,060 รายชื่อ โดยให้เหตุผลว่าโรงไฟฟ้าขยะจะส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งกลิ่นเหม็น น้ำเสีย และฝุ่นพิษ ที่จะกระทบต่อสุขภาพของชาวบ้าน จากการตรวจสอบชาวบ้านในพื้นที่ ที่อยู่ใกล้กับสถานที่ตั้งโรงงาน พบว่าไม่ทราบเรื่องนี้ ถูกอ้างชื่อโดยเจ้าตัวไม่ได้รับรู้
...
จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่าบุคคลดังกล่าวไม่ใช่ชาวบ้านในพื้นที่ จึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย ยืนยันว่าชาวบ้านในพื้นที่ทั้งชาวบ้านในหมู่บ้านใกล้เคียงและชาวบ้านที่อาศัยอยู่ห่างโรงงานเพียง 300 เมตร มีความต้องการที่จะให้สร้างโรงกำจัดขยะมูลฝอยด้วยการแปรรูปเป็นพลังงานไฟฟ้า เพื่อแก้ไขปัญหาขยะล้นเมืองที่สะสมมานานนับ 10 ปี.