"พลเอกมนัส" ตรวจความมั่นคงชายแดน-เส้นทางยุทธวิธีภูมะเขือ ลั่นทหารไทยต้องไม่เสียขาที่ 7 ย้ำหากเหยียบกับระเบิดซ้ำ จะใช้มาตรการตอบโต้ทางทหารทันที
วันที่ 11 ก.ย. 68 พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อติดตามความคืบหน้าสถานการณ์ความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา รวมทั้งการดำเนินการปรับปรุงเส้นทางยุทธวิธีและสนับสนุนงานโครงสร้างพื้นฐานของกองกำลังสุรนารี
ในการนี้ พลเอกมนัส และคณะ ได้รับการต้อนรับจาก พลตรี ณัฐพงศ์ พรหมศร ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา พร้อมด้วย พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี, พันเอก ธีระพล สาธรวิศิษฐ์ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 53, หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 รวมถึงหน่วยทหารในพื้นที่ โดยมี พลตรี วันชนะ สวัสดี หรือ “ผู้พันเบิร์ด” ร่วมเดินทางในครั้งนี้ด้วย
จุดแรก คณะได้เดินทางไปยังฐานปฏิบัติการยอดภูมะเขือ ซึ่งมีการก่อสร้างเสาธงชาติสูง 12 เมตร โดยฝีมือช่างกบ ชาวอำเภอกันทรลักษ์ ขณะนี้ธงชาติไทยผืนใหญ่โบกสะบัดอย่างสง่างาม นอกจากนี้ยังได้ตรวจเยี่ยมการก่อสร้างเส้นทาง ค.ส.ล. กว้าง 4 เมตร ระยะทาง 800 เมตร พร้อมรับฟังบรรยายสรุปจากผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 53 เกี่ยวกับความคืบหน้าการสร้างเส้นทาง งานก่อสร้างห้องน้ำเพื่ออำนวยความสะดวกแก่กำลังพล ระบบกล้อง CCTV และการสนับสนุนด้านการสื่อสาร รวมถึงการปฏิบัติงานของหน่วยเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่ต้องเร่งดำเนินการเพื่อความปลอดภัยในพื้นที่
...
ขณะเดียวกัน พลเอกมนัส จันดี ได้กล่าวถึงกรณีทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดจนต้องสูญเสียขา ว่า ตนรู้สึกเศร้าใจอย่างยิ่ง นับตั้งแต่เกิดเหตุปะทะ มีทหารเสียขาแล้ว 6 ราย และจะต้องไม่ให้มีรายที่ 7 อีก หากยังเกิดขึ้นซ้ำ เราทราบดีว่าใครเป็นผู้วาง แม้จะปฏิเสธ แต่ข้อมูลชี้ชัดถึงหน่วยที่ดำเนินการ หากยังเกิดกรณีนี้ขึ้นอีก ถือเป็นความชอบธรรมที่ไทยจะต้องใช้มาตรการตอบโต้ทางทหาร ขอร้องว่าอย่ากระทำการเช่นนี้ หากต้องการรบก็ควรประกาศตรงไปตรงมา
พลเอกมนัส ยังย้ำว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อแสดงความมั่นใจในอธิปไตย โดยระบุว่า “จุดที่ผมยืนอยู่นี้คือภูมะเขือ มองลงไปเบื้องล่างคือประเทศกัมพูชา ผมมายืนอยู่ ณ ภูมะเขือ ของจริง”
จากนั้น คณะได้เดินทางต่อไปยังอนุสรณ์สถานพิทักษ์ไทย ณ ฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น เพื่อตรวจเยี่ยมการปรับปรุงเส้นทาง พร้อมมอบกำลังใจแก่กำลังพลในพื้นที่ โดยเน้นย้ำถึงการพัฒนาความเป็นอยู่และการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องชายแดนอย่างเข้มแข็ง