เกิดเหตุสลด หลวงตา วัย 87 คว้ามีดฟันเจ้าอาวาส วัย 94 ดับภายในวัด ที่ชุมพร อ้างถูกด่าบุพการี ถูกกดดันมานาน และชาวบ้านเข้าหามากกว่า ญาติโยมเผยเป็นพระต้นแบบ
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 16 ก.พ. 68 ร.ต.อ.ปฐมพงษ์ ชุมมาก รอง สว.สอบสวน สภ.วิสัยเหนือ จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุพระทะเลาะวิวาท ใช้อาวุธมีดฟันกันจนได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ภายในวัดแห่งหนึ่ง ต.ถ้ำสิงห์ อ.เมือง จ.ชุมพร จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ บนพื้นถนนคอนกรีตทางเข้าวัดระหว่างมณฑปกับกุฏิ พบกองเลือดขนาดใหญ่ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบภายหลังคือ พระครูมงคลรัตนวัฑฒก์ อายุ 94 ปี ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว มีตำแหน่งเป็นพระครูสัญญาบัตรเทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นพิเศษ ถูกฟันด้วยมีดทำสวน ขนาดด้ามยาว 50 ซม. เข้าบริเวณใบหน้า แขน ศีรษะ เป็นแผลฉกรรจ์ อาการสาหัส ถูกนำส่งโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ไปแล้วก่อนหน้า แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ พระเถิม พุทธธมฺโม หรือนายเถิม แหวนเพชร อายุ 87 ปี ซึ่งเป็นพระลูกวัดดังกล่าว ไม่ได้หลบหนีไปไหน รอมอบตัวอยู่บริเวณหน้ากุฏิ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นิมนต์ไปพบพระครูปลัดศิริโชค สิริธมฺโม เจ้าอาวาสวัดปากคลอง ในตำแหน่งรองเจ้าคณะอำเภอเมืองชุมพร และพระมหาชัยศิลป์ ชยโชต วัดดอนทรายแก้ว ในตำแหน่งเจ้าคณะตำบลวังไผ่ อ.เมืองชุมพร และพระครูปริยัติวรปัญญา เจ้าอาวาสวัดคูขุด ในตำแหน่งผู้รักษาการแทนเจ้าคณะตำบลทุ่งคา อ.เมืองชุมพร ทำการบังคับให้สละสมณะเพศ พร้อมทำลายหนังสือสุทธิทิ้ง ก่อนมอบตัวให้เจ้าหน้าที่นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วิสัยเหนือ ดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย
...
พระเถิม หรือ นายเถิม ผู้ก่อเหตุ ให้การรับสารภาพเพียงสั้นๆ ก่อนทำการสึกว่า ตนถูกกดดันมานาน และล่าสุดเมื่อพลบค่ำ ขณะที่ตนเองกำลังใช้มีดทำสวนตัดแต่งต้นไม้รอบๆ กุฏิอยู่ เจ้าอาวาสได้เดินมาและต่อว่า พร้อมด่าถึงบุพการี ทำให้เกิดอารมณ์ชั่ววูบจึงใช้มีดฟันไม่ยั้ง จนเจ้าอาวาสล้มฟุบกองกับพื้น และมีชาวบ้านแจ้งกู้ภัยและตำรวจให้มาตรวจสอบ ส่วนตนเองไม่ได้หนีไปไหน ยืนรอมอบตัว เพราะสำนึกผิดที่ก่อเหตุ ยอมชดใช้เวรกรรมที่ทำ
ด้านชาวบ้านบริเวณวัด บอกว่า พระเถิม พุทธธมฺโม เป็นพระต้นแบบที่มีความเป็นอยู่อย่างสมถะ มีชาวบ้านให้ความเคารพเสื่อมใส ประกอบกับกุฏิที่พระเถิมจำวัดอยู่นั้น ทางญาติๆ ได้ร่วมใจกันสร้างขึ้น โดยจะเป็นกุฏิหลังแรกจากทางเข้าวัด ทำให้ชาวบ้านรวมถึงญาติส่วนใหญ่ เมื่อมาวัดแล้วก็จะเข้ามาที่กุฏิของพระเถิม จะไม่ค่อยเข้าไปด้านในที่เจ้าอาวาสอยู่ จึงอาจเป็นสาเหตุเกิดความไม่พอใจระหว่างกัน และล่าสุดทางเจ้าอาวาสก็มีโครงการจะทำกุฏิติดกับกุฏิพระเถิมเพื่อดักหน้าขึ้นมาอีก 1 หลัง ซึ่งอยู่ระหว่างปักเสา วางผัง เหมือนเป็นการกดดัน แต่ก็ไม่ทันได้สร้าง ก็มาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป