เจ้าบ่าวแจงอีกมุม เหตุเทงานแต่ง บอกเจ็บเข้า รพ. เส้นเอ็นขาด แต่กลับถูกญาติเจ้าสาวตามมาขู่ถึง รพ. บอกถ้าไม่ไปจะยิงทิ้ง ยอมรับกลับไปคบอีกไม่ได้แล้ว เพราะเกิดเรื่องขนาดนี้
วันที่ 12 มี.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเจ้าสาวแจ้งจับเจ้าบ่าว หนุ่มเซลส์ขายสี เทงานแต่งหายเข้ากลีบเมฆ ค่าเสียหายจัดงานกว่า 5 แสนบาท หลังเจอกันในโซเชียล คบกันได้ 1 ปี 6 เดือน พร้อมกับอยากให้เจ้าบ่าวกลับมารับผิดชอบ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่านต่อ : แจ้งจับเจ้าบ่าว เทงานแต่งหนีเข้ากลีบเมฆ ทิ้งเจ้าสาวเศร้า แบกค่าเสียหายกว่า 5 แสน)
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับโทรศัพท์จากผู้ชายคนหนึ่ง อ้างว่าเป็นเจ้าบ่าว หรือ นายต้น (นามสมมติ) ซึ่งกำลังเป็นข่าวอยู่ตอนนี้ และอยากจะขอชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในมุมของตัวเอง โดยระบุว่า ตนกับเจ้าสาวคบหากันมาเกือบ 2 ปี ตนทำงานเป็นเซลส์ขายสี และได้ออกจากงานเมื่อ 5-6 เดือนก่อนหน้านี้ ช่วงที่คบหากันตนให้เงินเจ้าสาวเก็บเดือนละ 1 หมื่นบาททุกเดือน จนถึงช่วงตกงาน ตนก็ออกไปตกกุ้งมาขาย ไม่ได้งอมืองอเท้า ที่ผ่านมาเราทำมาหากิน เก็บหอบรอบริบกัน 2 คนตลอด ไม่เคยมีญาติพี่น้องคนใดมายุ่งเกี่ยว จนกระทั่งถึงวันที่จะแต่งงาน ก็คุยว่าจะจัดการกัน 2 คน โดยมีพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายรับรู้
พ่อแม่ของเจ้าสาวดีกับตนมากๆ ตนรักและเคารพพ่อแม่เจ้าสาว เจ้าสาวเองก็รู้ มีอยู่ครั้งหนึ่งพ่อเจ้าสาวช็อก ตนเป็นคนไปเพื่อพาไปหาหมอ ซึ่งนี่เป็นหนึ่งเหตุผลที่ตนอยากแต่งงานกับเขา เพราะพ่อแม่เขาดีกับตน แต่เรื่องที่เกิดขึ้น อยากให้ฟังในมุมของตนบ้าง
นายต้น เล่าต่อว่า ตนยอมรับแบบลูกผู้ชายว่า ตนผิดที่ไม่ไปแต่งงาน แต่สาเหตุมาจากญาติของเจ้าสาวที่มาด่าตนและแม่ถึงโรงพยาบาล พร้อมขู่จะยิงทิ้ง ตนรับไม่ได้ ทั้งนี้เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา ตนไปบ้านเจ้าสาว เพื่อเอาชุดพรีเว็ดดิ้ง วันที่ 10 มี.ค. ก็มีการจัดเตรียมขันหมากที่บ้าน จัดเตรียมเก้าอี้ให้แขก แต่วันนั้นตนประสบอุบัติเหตุล้มในห้องน้ำ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ไปรับมาส่งโรงพยาบาล โดยพบว่าเส้นเอ็นขาด เดินไม่สะดวก ซึ่งตนก็บอกหมอ และเจ้าหน้าที่ทุกคนว่าพรุ่งนี้ (11 มี.ค.) ตนต้องออกไปงานแต่งงาน ซึ่งถามทุกคนได้ แต่หมอบอกว่าต้องนอนโรงพยาบาล แล้วค่อยออกไปตอน 6 โมงเช้า โดยให้นั่งรถเข็นไป
...
ก่อนที่เวลาประมาณ 3 ทุ่มกว่าของวันนั้น มีญาติฝ่ายเจ้าสาวมาที่โรงพยาบาลเกือบ 10 คน มาด่าตนและแม่ พูดจาข่มขู่ว่าจะยิงทิ้งทั้งบ้านหากไม่ไปงานแต่ง ทั้งที่ตนก็บอกไปแล้วว่าจะไป แต่ทำไมญาติเขาต้องมาด่าตนและแม่ขนาดนี้ ซึ่งตนก็บอกว่าให้เขามาขอโทษ แต่ช่วงตี 5 ของวันที่ 11 มี.ค. เขาก็ยังจะโทรมาขู่อีก ตนก็พยายามติดต่อเจ้าสาว แต่เขาไม่รับสาย ตนจึงตัดสินใจว่าจะไม่ไปงานแต่ง โดยออกจากโรงพยาบาลมาตอน 6 โมงเช้า และกลับมาบ้าน ไม่ได้หนีไปตามที่เป็นข่าว ญาติเจ้าสาวก็มาตามตนเองที่บ้าน เขาก็เห็นว่าตนอยู่ และยังขู่ตนด้วย
นายต้น ยอมรับว่า ตัวเองรับไม่ได้ หากวันนั้นมาขอโทษ ตนก็คงจะไปแต่งงาน แต่เมื่อไม่มา ทำให้ตนไม่มั่นใจว่า ถ้าไปแล้วจะปลอดภัยหรือไม่ แม่ของตนก็ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ ว่าถูกขู่จะยิงทิ้ง เจอที่ไหนยิงที่นั่น ส่วนเรื่องเงินพรีเวดดิ้งต่างๆ ตนเป็นคนออกค่าใช้จ่ายเองหมด ส่วนที่บอกว่ามีค่าเสียหาย 5 แสนบาท ก็อยากให้กางออกมาว่าเป็นค่าอะไรบ้าง เพราะตนให้เงินฝ่ายเจ้าสาวไปเตรียมงาน 2 หมื่นบาท เพราะเจ้าสาวมีเงินไม่พอ
ส่วนเรื่องของรถกระบะกับรถจักรยานยนต์ตนไม่รู้เรื่อง ไม่ได้เอาไป ส่วนที่มีผู้หญิงอีกคนออกมาบอกว่า เคยคบกับตนและถูกเทงานแต่งเหมือนกัน ตนยอมรับว่าเคยคบจริง ให้แม่ไปขอ จะจัดงานแต่งงานกันอยู่แล้วแต่ตนไปจับได้ว่าเขาไปแอบคุยกับเพื่อนตน ตนก็เลยเลิก และเมื่อเลิกไปแล้วผู้หญิงยังหนีมาอยู่กับตนเป็นปีๆ ตนให้กลับก็ไม่กลับก่อนจะเลิกรากันไป ตอนนี้ตนโดนสังคมประณามและโจมตี ทำให้เครียดมาก หากถามว่าจะกลับไปคบหากันอีกหรือไม่ คงเป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะเกิดเรื่องขนาดนี้