พ่อแม่ "ไอ้แบงค์" ฆาตกรฆ่าพยาบาลสาว เสียใจกับสิ่งลูกชายทำ อยากจะกราบขอโทษครอบครัวผู้ตาย ที่ผ่านมาลูกชายไม่มีพฤติกรรมที่จะก้าวร้าวอะไรเลย
จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อผุด จับกุม นายสุวัฒน์ ขุนทอง อายุ 30 ปี หรือ แบงค์ ผู้ต้องหาฆ่า น.ส.อัญชุลี วงศ์เมือง อายุ 36 ปี พยาบาลของโรงพยาบาลบนเกาะสมุย ซึ่งเป็นแฟนของสาวข้างห้อง ที่ปีนห้องเข้าไปก่อเหตุ เมื่อช่วงประมาณ 02.30 น. วันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา ในห้องพักของพนักงานของโรงพยาบาล พื้นที่ ม.1 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยรับสารภาพ อ้างว่าแค่หวังเอาทรัพย์สิน ดังที่นำเสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 22 พ.ค. 68 ผู้สื่อข่าวไทยรัฐ จ.ตรัง พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านเจ้าของท้องที่ ได้เดินทางไปยังบ้านของ นายสุวัฒน์ หรือ แบงค์ อายุ 30 ปี คนก่อเหตุ ในพื้นที่หมู่ 2 บ้านพรุใหญ่ ต.บ้านควน อ.เมืองตรัง เมื่อไปถึงพบว่าบ้านหลังดังกล่าวอยู่กันจำนวน 3 คน เป็นครอบครัวของนายแบงค์ ซึ่งมีพ่อมีแม่และพี่สาว โดยทุกคนต่างอยู่ในสภาวะเสียใจกับเหตุการณ์ที่ลูกชายกระทำขึ้น
นายเอียด อายุ 54 ปี พ่อของแบงค์ เผยว่า ตนเองทราบข่าวว่าลูกเป็นผู้ก่อเหตุเมื่อวานนี้ โดยมีคนใกล้ชิดเอาข่าวจากโทรศัพท์มือถือมาให้ดู แบงค์เป็นลูกชายคนสุดท้อง ในอดีตเขาเคยทำงานห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.ตรัง ก่อนจะไปทำงานที่เกาะสมุย พร้อมภรรยาคนใหม่ได้ประมาณ 2 ปี ถ้าถามว่านิสัยของลูกชายเป็นยังไง เขาเป็นคนใจเย็น กับเพื่อนฝูงถึงไหนถึงกัน ไม่มีพฤติกรรมที่จะก้าวร้าวอะไรเลย หลังจากที่ลูกไปทำงานที่เกาะสมุย ก็ไม่ค่อยจะได้ติดต่อหรือพูดคุยกันเลย ประมาณ 2 ถึง 3 เดือนได้คุยกันสักครั้ง แต่เขาไม่ได้รับผิดชอบต้องส่งเงินอะไรมาดูแลครอบครัว
ลูกชายเคยแต่งงานมีครอบครัวมาก่อนแล้วกับแฟนคนแรก โดยมีลูกด้วยกันเป็นผู้หญิง 1 คน ตอนนี้เรียนอยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แล้ว ส่วนแฟนคนที่ 2 ซึ่งอยู่ด้วยกันในปัจจุบันนี้ ก็มีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 4 ขวบ ซึ่งก็คบหากันตอนอยู่ที่ จ.ตรัง ก่อนทั้งคู่จะไปทำงานกันที่เกาะสมุย ซึ่งหลังจากแบงค์ไปทำงานที่เกาะสมุย ก็เพิ่งกลับบ้านมาล่าสุดเมื่อช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุที่ลูกก่อเหตุลงไปในครั้งนี้ ตนก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร ลูกชายไม่ค่อยได้พูดคุย หรือบอกอะไรกับตน
...
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเสียใจอย่างมาก เมื่อเกิดการสูญเสียไปแล้ว ทุกคนก็เสียใจเหมือนกันทั้งนั้น และเมื่อตอนเช้าแบงค์ได้โทรมาหาว่าจะขอมอบตัว ตนก็ได้บอกไปว่าให้มอบตัวไปเลย และให้รับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา ซึ่งตอนที่โทรมา ฟังจากน้ำเสียงแบงค์ก็น่าจะร้องไห้ และตนได้บอกอีกว่าให้ทำใจเข้มแข็ง มีสติให้เยอะๆ และให้ทุกอย่างเป็นไปตามขบวนการของกฎหมาย ซึ่งตนก็น่าจะไปเยี่ยมแบงค์พรุ่งนี้ หากตนสื่อสารไปยังญาติของผู้เสียชีวิตได้ จะบอกว่าเมื่อเกิดความสูญเสียแล้ว ทุกคนเสียใจกันทั้งหมด เสียใจมากๆ กับสิ่งที่ลูกชายตนได้กระทำลงไป อยากจะกราบขอโทษ
ด้านแม่ของแบงค์ อายุ 56 ปี ได้ยกมือขอโทษไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิต พร้อมกับบอกว่า ตนขอโทษอย่างยิ่ง ตนก็เสียใจมาก เข้าใจในคำว่าสูญเสีย เมื่อคืนแบงค์ก็โทรมา ตนก็พยายามบอกให้เข้ามอบตัว อย่าหลบหนี หากรักแม่สงสารแม่ก็ให้เข้ามอบตัว ก่อนที่แบงค์จะติดต่อขอเข้ามอบตัวในช่วงเช้าที่ผ่านมา
ส่วนมูลเหตุที่แบงค์ได้ก่อลงไปในครั้งนี้ แบงค์ก็ไม่ได้บอกแม่เลยว่าเกิดจากอะไร เพราะน้อยครั้งมากๆ ที่จะได้ติดต่อกัน ซึ่งครั้งที่แบงค์กลับมาล่าสุดเมื่อช่วง มี.ค.ที่ผ่านมา ก็ได้กอดและหอมแก้มแม่ ก่อนจะบอกว่ากลับแล้ว แม่ก็บอกไปแล้วว่าให้ทุกคนใช้ชีวิตกันอย่างดีๆ หากมีจังหวะ หรือมีโอกาส ก็ย้ายกลับมาทำงานที่ จ.ตรัง
ตนเองไม่ใช่อยากจะยกยอลูกตัวเองที่ก่อเหตุไป แต่แบงค์เป็นคนที่มีความรับผิดชอบมาก อยู่กับภรรยาคนแรก 13 ปี ได้รับผิดชอบทุกสิ่งทุกอย่างมาโดยตลอดก่อนที่จะขาดกันไป ต่อมาก็ขอแม่ว่าจะไปสมัครเป็นทหารเกณฑ์ ซึ่งไปเป็นประจำการอยู่ 2 ปี มีเงินเก็บกลับมาจำนวน 80,000 บาท ก็นำมาฝากไว้กับตนด้วย แม่ของแบงค์.