“อันดามัน” ป่วน “พังงา กระบี่ ภูเก็ต” พบระเบิดแสวงเครื่องซุกซ่อนในแหล่งท่องเที่ยว จุดเช็กอิน แลนด์มาร์กทั้ง 3 จังหวัด ชุดอีโอดีเก็บกู้ได้เพิ่มอีก 6 ลูก สุดแสบคนร้ายประกอบระเบิดยัดใส่ก้อนหินเทียม วางปะปนกับก้อนหินจริง ตั้งเวลาบึมช่วงไฮซีซัน หวังสร้างสถานการณ์ให้ประชาชน-นักท่องเที่ยวแตกตื่น ฝ่ายความมั่นคงขยายผลรวบลูกชายนายก อบต.ม่วงเตี้ย อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี พร้อมสมุน หลังมีคลิปฝึกยิงปืนกับสองคนร้ายขนระเบิด “นายกฯอิ๊งค์” ทวีตสั่งยกระดับการทำงานของทุกหน่วย มั่นใจท่องเที่ยวไทยปลอดภัยแน่นอน

เจ้าหน้าที่ยังระดมค้นหาระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายซุกซ่อนไว้ในเมืองท่องเที่ยวชายฝั่งอันดามัน ภายหลังตำรวจ สภ.เมืองพังงา จับนายมูหามะ วาเด็ง อายุ 29 ปี กับนายสุไลมาน กาซา อายุ 27 ปี ชาว จ.ปัตตานี พร้อมตัวจุดระเบิด เค้นสอบสารภาพวางระเบิดไว้หลายจุดใน จ.ภูเก็ต กระบี่ และพังงา ต่อมาชุดอีโอดี ยิงทำลายวัตถุต้องสงสัยซุกรถ จยย.จอดในลานจอดรถ จยย.สนามบินภูเก็ต 1 ลูก เก็บกู้จากหาดป่าตอง 1 ลูก และจุดชมวิวแหลมพรหมเทพอีก 1 ลูก ส่วน จ.กระบี่ เก็บกู้ระเบิดแสวงเครื่องยัดกระบอกเก็บความเย็นฝังไว้ในผืนทราย หาดนพรัตน์ธารา 2 ลูก และซ่อนในประติมากรรมไม้มะหาดอีก 1 ลูก ยึดรถ จยย. 1 คัน ที่คนร้ายขี่มาจอดทิ้งด้านหลังมัสยิดกลาง จ.กระบี่ ไปตรวจสอบ

ความคืบหน้าเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ว่า หลังจากตลอดทั้งวันของวันที่ 26 มิ.ย. หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต และกระบี่ ค้นหาระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายซุกไว้ตามสถานที่ต่างๆ กระทั่งพบแล้ว 5 ลูก แต่จากการสอบสวน คนร้ายบอกว่ายังมีระเบิดฝังไว้อีกหลายจุด กระจายไปทั้ง 3 จังหวัด ต่อมาช่วงค่ำวันเดียวกัน ที่หน้าจวน ผวจ.พังงา ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมืองพังงา ชุดอีโอดีพบวัตถุต้องสงสัยซุกอยู่ในซอกกำแพงหน้าจวนผู้ว่าฯพังงา เป็นระเบิดแสวงเครื่องรัศมีทำลาย 10 เมตร เก็บกู้ส่งมอบ จนท.พิสูจน์หลักฐาน จ.พังงา เก็บหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์

...

ชุดสืบสวนระบุว่า ภายหลัง ตำรวจ สภ.เมืองพังงา จับคนร้ายทั้งสองได้ คนร้ายสารภาพว่า หลังวางระเบิดที่ จ.ภูเก็ต แล้วหลายจุด ได้ขับรถเก๋งนำระเบิดวางในตัวเมืองพังงา 2 จุด ตำรวจแกะรอยไล่กล้อง วงจรปิด พบคนร้ายขี่รถ จยย.ออกจากศูนย์ราชการจังหวัดพังงา ชุดสืบสวนได้เดินเท้าค้นหาจนพบวัตถุต้องสงสัยริมกำแพงหน้าจวน ผวจ.พังงา ลักษณะเป็นก้อนหินเทียม วางทับด้วยหินจริง มีข้อความกำกับว่า W (Rawai) 1 หยิบขึ้นมาดูมีน้ำหนักผิดปกติ

ขณะเดียวกันยังตรวจพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด 1 ลูก ที่ประภาคารของสะพานสารสิน กึ่งกลางระหว่าง จ.พังงาและ จ.ภูเก็ต ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เจ้าหน้าที่อีโอดีเข้าตรวจสอบเก็บกู้ไว้ได้ หลังเกิดเหตุจังหวัดพังงาสั่งเพิ่มมาตรการคุมเข้มทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยว จุดเช็กอิน และแลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและให้ความมั่นใจในการดูแลรักษาความปลอดภัย

เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 27 มิ.ย. ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD ภาค 8 พร้อมชุดสืบสวน บก.สส.ภ.8 ร่วมกับตำรวจ สภ.เชิงทะเล ฝ่ายปกครองอำเภอถลาง อบต.เชิงทะเล ตรวจสอบบริเวณชายหาดสุรินทร์ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังมีข้อมูลว่าคนร้ายสารภาพเพิ่มเติมว่านำระเบิดแสวงเครื่อง 2 ลูก ฝังไว้ที่ชายหาดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่นำเครื่องมือสแกนหาวัตถุและเครื่องตรวจจับโลหะตรวจสอบจุดต้องสงสัย กระทั่งพบระเบิด 1 ลูก ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ใกล้ห้องน้ำที่กำลังปรับปรุงภูมิทัศน์ ชุดอีโอดีได้ยิงทำลายวัตถุทิ้ง และเร่งค้นหาอีก 1 ลูก บริเวณแนวชายหาดสุรินทร์

จ.กระบี่ เช้าวันเดียวกัน ตำรวจ ภ.จ.กระบี่ พร้อมชุดอีโอดี ลงพื้นที่ย่านหาดอ่าวนาง ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ค้นหาวัตถุต้องสงสัยเพิ่มเติม เนื่องจากการข่าวเชื่อว่ายังมีวัตถุต้องสงสัยอีกอย่างน้อย 2 จุด ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำชับให้ชุดปฏิบัติงานปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน ป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวเกิดความแตกตื่น ให้ชุดปฏิบัติงานทั้งฝ่ายสืบสวนและชุดอีโอดี แต่งกายนอกเครื่องแบบ ให้กลมกลืนกับนักท่องเที่ยว เป้าหมายหลักเน้นค้นหาย่านหน้าหาดอ่าวนาง และจุดแลนด์มาร์ก จุดถ่ายภาพเช็กอิน

ต่อมา ชุดสืบสวน ภ.จ.กระบี่ พร้อมชุดอีโอดี ตรวจสอบริมถนนย่านการค้าหาดอ่าวนาง หลังชาวบ้านแจ้งมีชายลึกลับขี่รถ จยย.นำวัตถุต้องสงสัยบรรจุในกระป๋องอะลูมิเนียม มาวางไว้ช่วงเวลา 21.09 น.วันที่ 22 มิ.ย. ก่อนขี่รถหายไป ตำรวจเช็กกล้องวงจรปิดพบว่าจุดนี้ตรงกับคำให้การของคนร้าย ชุดอีโอดีนำสุนัข K 9 จาก ตชด.43 ค่ายรามคำแหง จ.สงขลา ช่วยค้นหาแต่ไม่พบ สอบถามพยานทราบว่าวัตถุดังกล่าวน่าจะถูกพนักงานเก็บขยะ อบต.อ่าวนาง เก็บเข้าระบบกำจัดขยะแล้ว ส่วนการค้นหาวัตถุต้องสงสัยอีก 1 ลูก ที่หน้าหาดนพรัตน์ธารา บริเวณประติมากรรมหอยชักตีน ได้ข้อมูลจากพนักงานเก็บขยะว่า น่าจะเก็บวัตถุดังกล่าวทิ้งไปแล้วเช่นกัน เจ้าหน้าที่อีโอดีให้ข้อมูลว่า วัตถุต้องสงสัยที่กลุ่มผู้ก่อเหตุนำมาวางไว้ เป็นระเบิดแสวงเครื่องที่ไม่มีอานุภาพทำลายล้างรุนแรง ใช้ดินขับแรงเคลื่อนต่ำ ไม่มีสะเก็ดระเบิด ทำให้เกิดเสียงดัง สร้างความตกใจเท่านั้น สามารถเข้ากระบวนการเผาทำลายขยะได้

ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่ลานประติมากรรมปลาใบ ย่านการค้าหาดอ่าวนาง ชุดสืบสวน ภ.จ.กระบี่ พร้อมชุดอีโอดี ตรวจพบวัตถุต้องสงสัย ลักษณะเป็นก้อนหินเทียม ถูกวางไว้ปะปนกับก้อนหินจริงในแนวเขื่อนกันคลื่น ติดกับประติมากรรมปลาใบ เป็นระเบิดแสวงเครื่องรูปแบบเดียวกับที่พบที่ จ.พังงา ชุดอีโอดีได้เข้าเก็บกู้สำเร็จ พบตั้งเวลาจุดชนวนไว้ 120 วัน
ให้ระเบิดช่วงไฮซีซัน ต่อมาเจ้าหน้าที่อีโอดีพบวัตถุต้องสงสัยอีกจุดอยู่ใต้ต้นไทร ตรงข้ามบ้านพักเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี หมู่ 3 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เป็นท่อพีวีซีขนาด 6 หุ้น ยาว 6 นิ้ว ซุกอยู่ในต้นไทร ไม่มีวัตถุระเบิด เชื่อว่าคนร้ายตั้งใจเบี่ยงเบนให้เกิดความสับสน จากนั้นในช่วงเย็น ชุดอีโอดี พบระเบิดแสวงเครื่องยัดใส่ก้อนหินเทียม 1 ลูก วางอยู่ในซอกประติมากรรมหอยชักตีน ย่านอ่าวนาง เก็บกู้ได้สำเร็จ

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ตรวจพบวัตถุต้องสงสัยเป็นระเบิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ในภาชนะต่างๆ ทั้งในกระป๋องอะลูมิเนียม แก้วสเตนเลสเก็บความเย็น ก้อนหินเทียม และซุกซ่อนใต้เบาะรถ จยย. กระจายไปในพื้นที่ 3 จังหวัดอันดามัน พบและเก็บกู้แล้วได้สำเร็จ จ.ภูเก็ต 5 ลูก จ.พังงา 2 ลูก จ.กระบี่ 5 ลูก รวมทั้งหมด 12 ลูก คาดว่ายังมีอีกบางส่วนหลงเหลืออยู่ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวและย่านพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ หากประชาชนพบเห็นวัตถุต้องสงสัย ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่โดยด่วน

จ.สงขลา หลังพบวัตถุต้องสงสัยหลายจุดรวมแล้วเกือบ 10 ลูกในพื้นที่ จ.ภูเก็ต กระบี่ พังงา ทำให้ต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ 4 อำเภอชายแดนสงขลา อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย เนื่องจากครั้งแรกหลังถูกจับ 2 คนร้ายอ้างว่า ขับรถนำวัตถุระเบิดออกมาจากพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดตรวจ และเข้าค้นพื้นที่เป้าหมาย บ้านเช่า หอพักที่อาจใช้เป็นที่พักพิงของกลุ่มคนร้าย ส่วน อ.หาดใหญ่ เร่งประชาสัมพันธ์แจกโบรชัวร์ “คนหาดใหญ่ ดูแลหน้าบ้าน หน้าร้านเมืองหาดใหญ่” ร่วมสังเกตสิ่งผิดปกติ บุคคลต้องสงสัย สวมหมวกสวมแมสก์ปิดบังใบหน้า คนแปลกหน้าที่มีพิรุธ ยานพาหนะจอดค้างจอดนานไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน วัตถุต้องสงสัยถูกนำมาวางในจุดที่ไม่เคยมีมาก่อน ให้รีบแจ้ง สภ.หาดใหญ่ โทร.0-7425-7990, 0-7425-8444 หรือ 191

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีตำรวจจับนายสุไลมาน กาซา และนายมูหามะ วาเด็ง พร้อมวัตถุระเบิดอยู่ในรถเก๋ง พื้นที่ สภ.เมืองพังงา เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของนายสุไลมาน พบคลิปฝึกยิงปืนยาวในสวนผลไม้กับบุคคลอื่น สถานที่ดังกล่าว นายสุไลมานอ้างว่าเป็นสวนของนายอิสมาแอ ยุนุ นายก อบต.ม่วงเตี้ย อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี และบุคคลที่ร่วมยิงปืน มีนายมูฮัมหมัดซิ๊กดิ๊ก ยุนุ ลูกชายนายอิสมาแอ ร่วมอยู่ด้วย ต่อมาเย็นวันที่ 26 มิ.ย. ภายหลังเจ้าหน้าที่สอบสวนขยายผลบุคคลทั้งสองจนได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เจ้าหน้าที่ได้วางกำลังร่วมกับตำรวจ สภ.แม่ลาน จ.ปัตตานี บังคับใช้กฎหมาย ปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมาย 4 หลัง

...

หลังที่ 1 บ้านไม่มีเลขที่ในสวนของนายก อบต.ม่วงเตี้ย ไม่พบบุคคลเป้าหมาย หลังที่ 2 เลขที่ 31/3 หมู่ 4 ต.ม่วงเตี้ย พบนายมูฮัมหมัดซิ๊กดิ๊ก ยุนุ ลูกชายนายก อบต.ม่วงเตี้ย ยึดโทรศัพท์มือถือ รถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีดำ ทะเบียน กท 2129 ยะลา หลังที่ 3 เลขที่ 86/7 หมู่ 5 ต.ม่วงเตี้ย พบบุคคลเป้าหมายคือนายรอมือซี เจะเฮง หลังที่ 4 เลขที่ 65/2 หมู่ 4 ต.ม่วงเตี้ย พบนายซอลาฮุดีน แยนา บุคคลเป้าหมาย คุมตัวบุคคลเป้าหมายมีนายมูฮัมหมัดซิ๊กดิ๊ก ยูนุ นายซอลาฮุดีน แยนา และนาย รอมือซี เจะเฮง ตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก ส่งไปที่ศูนย์ซักถาม หน่วย ฉก.ทพ.ที่ 43

พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4/ ผอ.รมน.ภาค 4 กล่าวว่า การจับกุมนายสุไลมาน และนายมูหามะ พร้อมวัตถุระเบิดในรถยนต์ที่พังงา นำไปสู่การขยายผลจับผู้ร่วมขบวนการเพิ่มอีก 3 คนในพื้นที่ จ.ปัตตานี จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหายืนยันเป็นการสั่งการจากแกนนำกลุ่มขบวนการในจังหวัดชายแดนใต้ ที่อยู่ต่างประเทศ ต้องการสร้างสถานการณ์เพื่อลดความเชื่อมั่นในพื้นที่เศรษฐกิจทะเลอันดามัน (ภูเก็ต, กระบี่, พังงา) วัตถุระเบิดที่พบไม่ใช่ระเบิด ทำลาย แต่ใช้เพื่อสร้างความหวาดกลัวแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวเท่านั้น ขอชื่นชมการทำงานร่วมกันของตำรวจภูธรภาค 8 และ 9 ที่บูรณาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยืนยันต้องยกระดับมาตรการความปลอดภัยในพื้นที่และเฝ้าระวังกลุ่มก่อเหตุจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอให้ประชาชนร่วมกันแจ้งเบาะแสหากพบสิ่งผิดปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทวีตข้อความผ่าน “เอ็กซ์” กรณีเหตุวางระเบิดที่สนามบินภูเก็ต ว่าจากสถานการณ์ที่มีความพยายามวางระเบิดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต-พังงา วันนี้ ดิฉันได้เชิญ ผบ.ตร. ผบ.ตำรวจท่องเที่ยว และปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อติดตามสถานการณ์ ได้รับรายงานจากทุกภาคส่วนว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ก่อความวุ่นวายในพื้นที่เพื่อให้เกิดความไม่สงบ ดิฉันได้ย้ำทุกภาคส่วนให้สืบสวนติดตามสถานการณ์นี้มาโดยตลอดเพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดแก่ประชาชน รัฐบาลจะไม่ประมาท สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะดำเนินการติดตามและยกระดับการทำงานต่อไปอย่างเข้มงวด

...

“ในนามรัฐบาล ดิฉันขอให้ประชาชนทุกคนมั่นใจว่าทุกหน่วยงานจะดูแลเรื่องนี้อย่างดีที่สุด และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ทำหน้าที่นี้ด้วยความตั้งใจ เสียสละ อดทน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มั่นใจและใช้ชีวิตอย่างปกติสุข รวมถึงนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว ขอให้มีความมั่นใจในการเดินทางมาท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัยแน่นอน” น.ส.แพทองธารระบุ

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่