“นฤมล” ควง “ธรรมนัส-อิทธิ” ลงพื้นที่จันทบุรี-ตราด ติดตามแก้ปัญหาเกษตรกร ส่งออกผลไม้ไทย หวังผลักดันโครงการอ่างเก็บน้ำวังโตนดให้สำเร็จ ยืนยันปราบปราม “ปลาหมอคางดำ” ต่อเนื่อง

วันที่ 13 มีนาคม 2568 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอิทธิ ศิริลัทธิยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมผู้บริหารกระทรวง ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.จันทบุรี และ จ.ตราด เพื่อติดตามแนวทางและแผนการแก้ปัญหาเกษตรกรและรับฟังปัญหาเกษตรกรในพื้นที่ พร้อมพบผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุและผู้ผลิตทุเรียนภาคตะวันออก ฤดูกาลผลิตปี 2568 โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.) และในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ สภาผู้แทนราษฎร ร่วมลงพื้นที่

จุดแรก นางนฤมล และคณะเดินทางไปยังประตูระบายน้ำปากคลองภักดีรำไพ ต.จันทนิมิต อ.เมืองจันทบุรี เพื่อร่วมรับฟังปัญหาในพื้นที่และแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน นางนฤมล กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาด้านการเกษตร จ.จันทบุรี ในทุกมิติ เพื่อยกระดับรายได้ และสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับเกษตรกร ช่วงที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนร่วมกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือการแก้ไขปัญหาด้านการส่งออกผลไม้ของไทย ทางจีนมีท่าทีพึงพอใจกับการปรับใช้มาตรการดูแลผลไม้ส่งออกของไทย โดยหลังจากนี้จะมีการเจรจากับทางการจีนเพิ่มเติมเพื่อขอให้ช่วยปลดล็อกการขนส่งผลไม้ทุกชิปเมนต์ของประเทศไทย อันเป็นการสร้างโอกาสทางการค้าให้กับเกษตรกร อีกทั้ง ได้วางแผนจัดทำโรงงานแปรรูปยางพารา จ.จันทบุรี เพื่อยกระดับรายได้เกษตรกรในพื้นที่ให้ติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศ

...

นอกจากนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 11 มีนาคม 2568 นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดูแลคุณภาพผลไม้ไทยให้มีมาตรฐาน มีความปลอดภัย รวมถึงฝากกระทรวงพาณิชย์ช่วยจัดหาตลาดรองรับผลไม้ที่กำลังจะออกสู่ตลาด เพื่อป้องกันสินค้าล้นตลาด และราคาตกต่ำในช่วงฤดูกาลนี้ อีกทั้ง ครม. มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หามาตรการแก้ไขปัญหากุ้งทะเลของไทย ซึ่งจะนำโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งมาดำเนินการที่ จ.จันทบุรี เพิ่มเติม

จากนั้น นางนฤมล กล่าวกับสื่อมวลชนว่า วันนี้มาติดตามโครงการต่างๆ ที่ยังค้างอยู่ โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำวังโตนด เพื่อกักเก็บน้ำให้กับพี่น้องชาว จ.จันทบุรี มากขึ้น โดยได้พูดคุยกับ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้ว อยากจะทำโครงการนี้ให้สำเร็จ ขณะที่ นายอิทธิ ได้พบกับผู้ประกอบการทุเรียนเพื่อติดตามเตรียมความพร้อมการตรวจรับรองสาร BY2 ในทุเรียนสด ซึ่งตอนนี้มีมาตรการเข้มข้นในการตรวจสอบทุเรียนก่อนที่จะส่งออกไปยังประเทศจีน จึงต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องชาวสวนทุเรียนด้วย แต่ขณะนี้ปัญหาดังกล่าวก็คลี่คลายลงไปเยอะแล้ว ได้ดำเนินการตามมาตรการที่ตั้งเอาไว้

ส่วนการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ นางนฤมล ระบุว่า เราดำเนินการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง และกรมประมงก็มี 7 มาตรการในการดำเนินการ ซึ่งผ่านที่ประชุม ครม. ไปแล้ว ส่วนงบประมาณก็ยังมีเพียงพอในการดำเนินการ จากนั้น นางนฤมล นำคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบโฉนดเพื่อการเกษตร 200 ราย ปัจจัยการผลิต 300 ชุด ท่อนพันธุ์และเมล็ดพันธุ์พืชอาหารสัตว์ 50 ชุด รวมถึงพันธุ์ปลากระพงขาว 6,000 ตัว แก่ตัวแทนเกษตรกรผู้มาร่วมงานด้วย

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า วันนี้ตนมาเยี่ยมพี่น้องชาวจันทบุรี ในฐานะ สส. ตัวแทนของประชาชน และที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเช่นเดียวกับ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคกล้าธรรม ที่เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ ในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อรู้ว่าวันนี้รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะลงพื้นที่ ก็ได้ลองมาฟังปัญหาของชาวบ้านเพื่อนำไปขับเคลื่อนแก้ปัญหาในสภาฯ อีกทางหนึ่งนอกจากฝ่ายบริหาร

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อไปว่า ปัญหาของชาวจันทบุรี หลักๆ เกี่ยวกับน้ำ ช้าง ทุเรียน ดิน เช่น ทุเรียนมีปัญหาปลายทางคือตลาด หรือปัญหาเรื่องน้ำ การดำเนินการโครงการอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด ที่ค้างคามานาน ทั้งที่มีความสำคัญต่อพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และปริมาณน้ำฝนใน จ.จันทบุรี มีมากถึงปีละ 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปัจจุบันเก็บได้เพียงแค่ 300 ล้านลูกบาศก์เมตร และที่นี่เป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญที่สร้างรายได้เข้าประเทศปีละมหาศาล ซึ่งปัญหาของโครงการนี้คือเรื่องเป็นทางผ่านของช้าง และเป็นพื้นที่เขตอุทยานรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ต้องมีมาตรการ โดยโครงการนี้ นายเฉลิมชัย เป็นผู้คิดที่จะสร้างในสมัยที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วันนี้ตนก็หวังว่าท่านยังคงเห็นความสำคัญ.