ภายหลังจากที่อุตสาหกรรมการบินทั่วโลกกลับมาเติบโตต่อเนื่อง ทำให้แต่ละภูมิภาคทั่วโลกต้องปรับตัวเพื่อรองรับปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลท่าอากาศยาน 6 แห่ง ประกอบด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และท่าอากาศยานภูเก็ต ได้เตรียมความพร้อมในการรองรับผู้โดยสารในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2568 ให้ได้รับความสะดวกสบาย ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
โดย “ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) AOT กล่าวว่า AOT ได้ประมาณการเที่ยวบินและผู้โดยสารในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2568 โดยที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 1.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 11.9% มีเที่ยวบินประมาณ 8,086 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 17.4% ขณะที่ท่าอากาศยานดอนเมืองคาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 824,786 คน เพิ่มขึ้น 30.3% มีเที่ยวบินประมาณ 5,244 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 23.2%
ส่วนท่าอากาศยานเชียงใหม่คาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 232,057 คน เพิ่มขึ้น 45.1% มีเที่ยวบินประมาณ 1,509 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 33% ส่วนท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงรายคาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 50,148 คน เพิ่มขึ้น 28.7% มีเที่ยวบินประมาณ 294 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 14.8% สำหรับท่าอากาศยานภูเก็ตคาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 404,831 คน เพิ่มขึ้น 17.1% มีเที่ยวบินประมาณ 2,391 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 19% และท่าอากาศยานหาดใหญ่คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 90,796 คน เพิ่มขึ้น 47.7% มีเที่ยวบินประมาณ 506 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 30.7%
ทั้งนี้ทาง AOT พร้อมดำเนินการตามข้อสั่งการของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยได้กำชับให้ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ดำเนินการวางแผนการบริหารจัดการท่าอากาศยานร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ทุกกระบวนการการให้บริการเกิดความคล่องตัว สะดวก รวดเร็ว ไม่ให้เกิดภาพความหนาแน่นในอาคารผู้โดยสาร
รวมทั้งให้เพิ่มเจ้าหน้าที่เพื่อกำกับดูแลความเรียบร้อยของอาคารผู้โดยสาร อำนวยความสะดวกในการช่วยตรวจสอบเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารให้ครบถ้วน เพื่อให้การเข้ารับการตรวจหนังสือเดินทางเป็นไปอย่างรวดเร็ว และประสานสายการบินในการเปิดเคาน์เตอร์เช็กอินเพิ่มหรือเปิดเคาน์เตอร์ฯ ก่อนเวลา (Early Check-in) และจัดเจ้าหน้าที่ประจำการให้ครบทุกเคาน์เตอร์ฯ ตลอดจนด้านความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย ได้จัดพิธีปล่อยแถวเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน
ดร.กีรติ กล่าวว่า ดังนั้น AOT ขอแนะนำให้ผู้โดยสารใช้บริการเครื่องเช็กอินด้วยตนเอง (เครื่อง CUSS) และเครื่องโหลดกระเป๋าสัมภาระด้วยตนเอง (เครื่อง CUBD) รวมทั้งขอแนะนำให้ลงทะเบียนใช้งานระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล หรือระบบ Biometric เพื่อความสะดวก รวดเร็วในการเดินทาง โดยสามารถลงทะเบียนใช้งานระบบ Biometric ผ่านเครื่อง CUSS หรือแจ้งเจ้าหน้าที่สายการบินเมื่อท่านเช็กอินที่เคาน์เตอร์เช็กอิน
สำหรับมาตรการพกพาแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) ยังคงเป็นไปตามประกาศ ซึ่งทางสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยกำหนด คือ (1) ความจุไม่เกิน 100Wh หรือ 20,000 mAh นำติดตัวขึ้นเครื่องได้คนละไม่เกิน 20 ชิ้น (2) ความจุเกิน 100Wh หรือ 20,000 mAh นำติดตัวขึ้นเครื่องได้คนละไม่เกิน 2 ชิ้น และ (3) ถ้าขนาดความจุเกิน 160Wh หรือ 32,000 mAh ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ทุกกรณี
ดร.กีรติ กล่าวในตอนท้ายว่า AOT ยังได้ร่วมส่งเสริมวัฒนธรรมและประเพณีพื้นบ้านเทศกาลสงกรานต์ เช่น การจัดซุ้มถ่ายภาพ จุดสรงน้ำพระ กิจกรรมสาธิตขั้นตอนการทำลูกชุบและข้าวแช่ การตัดตุงไส้หมู การห่อขนมพื้นเมือง กิจกรรมแจกของที่ระลึกให้แก่ผู้โดยสาร เช่น ปืนฉีดน้ำ และซองกันน้ำ การแสดงฟ้อนรำ รำกลองยาว และการประดับตกแต่งภายในอาคารผู้โดยสารให้มีบรรยากาศสงกรานต์ และในช่วงเทศกาลอาจมีผู้โดยสารเดินทางมาใช้บริการจำนวนมาก AOT ขอความร่วมมือผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้า 2 – 3 ชั่วโมง และเพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถสอบถามการให้บริการต่าง ๆ ได้ที่ AOT Contact Center โทร. 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง การเตรียมความพร้อมของ AOT ในครั้งนี้มุ่งมั่นที่จะให้บริการผู้โดยสารให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยครับ